THCOM-GULF โล่ง หลังศาลปกครองกลางยกคำร้อง คดีดาวเทียมไทยคม 7-8

THCOM-GULF โล่ง หลังศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกคำร้องของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับคดีดาวเทียมไทยคม 7 และ 8
KEY
POINTS
- ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกคำร้องของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับคดีดาวเทียมไทยคม 7 และ 8
- คำพิพากษานี้เป็นการยืนตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการเดิม ที่วินิจฉัยว่าดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 ไม่ได้อยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานฉบับปี 2534
- ผลของคำพิพากษาทำให้ THCOM และ GULF ไม่ต้องโอนกรรมสิทธิ์ ส่งมอบทรัพย์สิน หรือชำระผลประโยชน์ตอบแทนเกี่ยวกับดาวเทียมทั้งสองดวงตามที่กระทรวงดีอีเอสเรียกร้อง
- ศาลให้เหตุผลว่าคณะอนุญาโตตุลาการมีอำนาจในการวินิจฉัย และคำชี้ขาดไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
- ทั้งนี้ กระทรวงดีอีเอสยังมีสิทธิยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน
ตามที่ บริษัท ไทยคม จํากัด (มหาชน) THCOM และบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) GULF ซึ่งเดิมคือ บริษัท อินทัช โฮลดิ dงส์จํากัด (มหาชน) ได้แจ้งข้อพิพาทเกี่ยวกับดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 ต่อ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งได้แจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 บริษัทฯ ได้รับคําชี้ขาดเป็นเอกฉันท์ของคณะอนุญาโตตุลาการ ลงวันที่ 29 กันยายน 2565
ซึ่งวินิจฉัยว่า ดาวเทียมไทยคม 7และดาวเทียมไทยคม 8 มิได้เป็นดาวเทียมภายใต้สัญญาดําเนินการกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ ลงวันที่ 11 กันยายน 2534 (สัญญาดําเนินการกิจการดาวเทียมสื่อสาร) และให้ยกคําร้องแย้งของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กระทรวงดิจิทัลฯ) ที่ขอให้บริษัทฯ ปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว
จากคําชี้ขาดดังกล่าว ทําให้เป็นที่ชัดเจนว่า ดาวเทียมไทยคม 7 และดาวเทียมไทยคม 8 มิได้อยู่ภายใต้ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับสัญญาดําเนินการกิจการดาวเทียมสื่อสาร บริษัทฯ และ GULG จึงไม่มีหน้าที่ต้องดําเนินการตามที่กระทรวงดิจิทัลฯ กล่าวอ้างหรือร้องขอรวมถึงไม่มีหน้าที่โอนกรรมสิทธิ์ ส่งมอบทรัพย์สิน หรือชําระผลประโยชน์ตอบแทน
ตามที่เป็นข้อพิพาท
ต่อมา เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2565 กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ยื่นคําร้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้เพิกถอนคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ โดยบริษัทฯ และ Gulf ได้ยื่นคําคัดค้านต่อศาลแล้ว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2568 ศาลปกครองกลางมีคําพิพากษาว่า คณะอนุญาโตตุลาการมีอํานาจในการทําคําชี้ขาดดังกล่าว และการยอมรับหรือบังคับตามคําชี้ขาด ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ศาลปกครองกลางจึงไม่มีอํานาจเพิกถอนคําชี้ขาด และมีคําพิพากษายกคําร้องของกระทรวงดิจิทัลฯ ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ศาลปกครองกลางมีคําพิพากษา
หากมีความคืบหน้าประการใด บริษัทฯ จะดําเนินการแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบต่อไป







