โบรกเผย BEM โครงการ Double Deck ชะลอหลังยุบสภา แต่ธุรกิจหลักฟื้น แนะทยอยสะสม

บล.ลิเบอเรเตอร์ เผยการยุบสภาทำให้โครงการทางด่วน Double Deck งามวงศ์วาน-พระราม 9 ของ BEM ซึ่งเตรียมเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีต้องล่าช้าออกไป แต่ธุรกิจหลักของ BEM ฟื้นตัว โดยปริมาณรถยนต์บนทางด่วนกลับสู่ระดับเกือบปกติ และผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
KEY
POINTS
- การยุบสภาทำให้โครงการทางด่วน Double Deck งามวงศ์วาน-พระราม 9 ของ BEM ซึ่งเตรียมเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีต้องล่าช้าออกไป
- ธุรกิจหลักของ BEM ฟื้นตัว โดยปริมาณรถยนต์บนทางด่วนกลับสู่ระดับเกือบปกติ และผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- นักวิเคราะห์เชื่อว่าโครงการ Double Deck มีโอกาสถูกนำมาพิจารณาอีกครั้งในรัฐบาลหน้า เนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและไม่เป็นภาระทางการคลัง
- โบรกเกอร์แนะนำ "ทยอยสะสม" โดยให้ราคาเหมาะสมสำหรับปีหน้าที่ 11.30 บาท/หุ้น แม้จะปรับลดลงเล็กน้อยจากการที่ปีสัมปทานลดลง
รูญพันธ์ วัฒนวงศ์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า การประกาศยุบสภา เมื่อ 11 ธ.ค.2568 ทำให้คณะรัฐมนตรีรักษาการไม่สามารถอนุมัติโครงการใหม่ผูกพันระยะยาวได้ โครงการ Double Deck งามวงศ์งาน-พระราม 9 ซึ่งเตรียมเข้าอนุมัติจาก ครม. จึงต้องล่าช้าออกไป
โดยโครงการนี้การทางพิเศษฯ(กทพ.)ได้ศึกษามายาวนาน และผ่านขั้นตอนต่างๆพร้อมเสนออนุมัติแล้ว โดยเนื้อหาสำคัญคือ BEM หรือ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) จะเป็นผู้ลงทุนสร้างทางด่วนคร่อมทางด่วนเดิมมูลค่าราว 3.5 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันจะยกเลิกด่านขาออก 2 แห่งเพื่อลดค่าทางด่วนเป็น 50 บาทตลอดเส้น แต่ทว่า BEM จะได้ขยายสัมปทานไปอีก 22 ปี และปรับส่วนแบ่งรายได้กับ กทพ. เพิ่มเป็น 50 : 50 ตอบแทน
ซึ่งตามแผนเดิมนั้นเมื่อ BEM ลงนามสัญญาก็จะลดค่าทางด่วนให้ประชาชนทันทีก่อนการเริ่มก่อสร้าง ซึ่งจะช่วยลดค่าครองชีพให้กับผู้ใช้ทางใน กทม.ทันที
ทั้งนี้ จากสถิติผู้ใช้ทางเริ่มกลับมาปกติในเดือน พ.ย. มีรถใช้ทางด่วนทั้งสิ้น 1.135 ล้านคัน/ วัน เพิ่ม +1.8% m-m และหดตัวเหลือเพียง -0.2% y-y เท่านั้น จากเฉลี่ย -1.1% y-y ใน 10 เดือนแรก สะท้อนว่าปริมาณรถใช้ทางด่วนเริ่มกลับเข้าสู่ระดับปกติแล้ว
ขณะที่ผู้ใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ก็เร่งตัวขึ้นเป็น 5.19 แสนเที่ยว/ วันทำงาน เร่งตัวขึ้น +2.1% m-m และ +0.9% y-y เดินหน้าเข้าใกล้เดือนที่เปิดให้ขึ้นฟรี 7 วัน(25-31 ม.ค.)ที่ 5.38 แสนเที่ยว/ วัน
อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าประมาณการกำไรปีนี้ของเรายังใช้ได้ โดยกำไร 9 เดือนปี 2568 คิดเป็น 71.7% ของประมาณการทั้งปี โดยครั้งนี้เรา Roll-over ราคาเหมาะสมไปปีหน้าที่ 11.30 บาท/หุ้น ลดลง 6.5% จากเดิมจากจำนวนปีสัมปทานที่ลดลง 1 ปี
“แม้การยุบสภา ทำให้โครงการ Double Deck ต้องล่าช้าออกไป แต่จากการศึกษาของทางการที่สะท้อนว่าประชาชนจะได้ประโยชน์ในระยะยาว และไม่เป็นภาระทางการคลังของรัฐ ทำให้เราเชื่อว่าโครงการฯมีโอกาสจะถูกหยิบมาพิจารณาอีกครั้งในรัฐบาลถัดไปอยู่ดี ราคาเหมาะสมของเราประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ สัมปทานปัจจุบัน 8.20 บาท และ รถไฟฟ้าสายสีส้ม 2.55 บาท และเงินลงทุนใน TTW และ CKP รวม 0.55 บาท ขณะที่กำไรปกติคาดจะทำสถิติใหม่ในปี 2026 แนะทยอยสะสม แนะนำซื้อ"







