จับตา 5 ประเด็นร้อนเศรษฐกิจการลงทุนปีม้าไฟ

เศรษฐกิจโลกและไทยเข้าสู่วัฏจักรขาลงอย่างชัดเจน โดยคาดว่าจะชะลอตัวรุนแรงที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 จากการใช้จ่ายภาครัฐที่หดตัว การส่งออกที่ชะลอ และความไม่แน่นอนทางการเมือง นโยบายการเงินโลกมีทิศทางแตกต่างกัน (Great Divergence) โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลดดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง, ยุโรปคงดอกเบี้ย, ญี่ปุ่นขึ้นดอกเบี้ย และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง
KEY
POINTS
- เศรษฐกิจโลกและไทยเข้าสู่วัฏจักรขาลงอย่างชัดเจน โดยคาดว่าจะชะลอตัวรุนแรงที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 จากการใช้จ่ายภาครัฐที่หดตัว การส่งออกที่ชะลอ และความไม่แน่นอนทางการเมือง
- นโยบายการเงินโลกมีทิศทางแตกต่างกัน (Great Divergence) โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลดดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง, ยุโรปคงดอกเบี้ย, ญี่ปุ่นขึ้นดอกเบี้ย และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง
- วิกฤตการเมืองไทยจากการยุบสภาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจใน 7 ด้านสำคัญ รวมถึงการยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ, การชะลอตัวของ FDI, และความล่าช้าของงบประมาณและโครงการโครงสร้างพื้นฐาน
- ค่าเงินบาทคาดว่าจะมีความผันผวนสูง โดยมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นในช่วงปลายปี 2025 ถึงต้นปี 2026 ตามการลดดอกเบี้ยของ Fed ก่อนที่จะกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงครึ่งหลังของปี
- ปัญหาเชิงโครงสร้างของไทยที่ต้องเร่งแก้ไข 5 ประการ ได้แก่ ภาวะเงินฝืด, การลงทุนต่ำ, การคลังชะลอตัว, ความเสี่ยงภาคการส่งออก และการหดตัวของสินค้าคงคลัง ซึ่งสะท้อนอุปสงค์ที่อ่อนแอ
ต่อเนื่องจากบทความฉบับที่แล้วที่ได้วิเคราะห์ถึง “ความหวังและความเสี่ยงในปีม้าไฟ” ไปแล้วนั้น ในฉบับส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่นี้ ขอพาทุกท่านมาจับตา 5 ประเด็นร้อนที่นักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิดในช่วงสิ้นปี 2025 และต้นปี 2026 ซึ่งจะเป็นช่วง “ทดสอบจุดต่ำสุด” ของเศรษฐกิจโลกและไทย
1. เศรษฐกิจโลก-ไทย: เข้าสู่วัฏจักรขาลงอย่างชัดเจน
สัญญาณชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเริ่มชัดเจนมากขึ้น InnovestX คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะเผชิญการชะลอตัวรุนแรงในครึ่งแรกของปี 2026 ก่อนค่อยฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง สหรัฐฯ จะชะลอลงจากผลกระทบของภาษีศุลกากรและการปิดงานภาครัฐ ขณะที่ยุโรปคาดว่าจะฟื้นตัวเล็กน้อยด้วยดอกเบี้ย ECB ที่ยังคงต่ำตลอดทั้งปี ส่วนญี่ปุ่นน่าจะเติบโตจากการฟื้นตัวของค่าจ้างและการบริโภค โดย BOJ อาจขึ้นดอกเบี้ยอีก 1-2 ครั้ง สำหรับจีน ตัวเลข GDP การค้าปลีก และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรชะลอลงหรือหดตัวมากขึ้นทั้งหมด แสดงให้เห็นว่าปัญหาโครงสร้างยังคงรุนแรง
ในส่วนของเศรษฐกิจไทย เราคงประมาณการไว้ต่ำกว่าการประมาณการของสภาพัฒน์ โดยไตรมาส 4/2025-1/2026 จะชะลอหนักสุดจากการใช้จ่ายภาครัฐที่หดตัวรุนแรง การส่งออกบริการที่ชะลอ และความไม่แน่นอนทางการเมือง ทั้งนี้เรามองว่ามีปัจจัยเสี่ยงสี่ประการหลักที่กดดันเศรษฐกิจไทย ได้แก่ การส่งออกที่จะชะลอลงต่อ ความผันผวนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น การบริโภคและการลงทุนภายในประเทศที่ยังชะลอต่อเนื่อง และการหดตัวของสินค้าคงคลังที่มากขึ้น
2. นโยบายการเงินโลก: เข้าสู่ยุค “Great Divergence”
นโยบายการเงินโลกกำลังแยกทิศทางอย่างชัดเจน โดยธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ลดดอกเบี้ย 25 bps มาอยู่ที่ 3.50-3.75% แต่ส่งสัญญาณ “Hawkish Cut” ที่ชัดเจน ทำให้เราปรับการคาดการณ์การลดดอกเบี้ยของ Fed โดยยังคงลด 1 ครั้งในปี 2026 แต่เลื่อนจากการประชุมเดือนมกราคม เป็นการประชุมเดือนมิถุนายน 2026 ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางยุโรปน่าจะคงดอกเบี้ยที่ 2.00% ตลอดปี 2026 เนื่องจากเงินเฟ้อใกล้เป้าหมาย ขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวดีกว่าคาด ส่วนธนาคารกลางญี่ปุ่นมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปอีก 1-2 ครั้งในปี 2026 เนื่องจากเงินเฟ้ออยู่เหนือเป้าหมาย 2% มาแล้ว 41 เดือนติดต่อกัน สำหรับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เราคาดว่าน่าจะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง
3. วิกฤติการเมืองไทย: 7 ด้านกระทบเศรษฐกิจ
การยุบสภาเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 จะกระทบเศรษฐกิจไทยในเจ็ดด้านสำคัญ หนึ่ง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจถูกยกเลิก ทั้งโครงการคนละครึ่ง Plus, TISA ที่เพิ่มสิทธิลดหย่อนภาษี 800,000 บาท และช้อปดีมีคืน เนื่องจากรัฐบาลรักษาการไม่สามารถอนุมัติโครงการใหม่ได้ สอง การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จะชะลอ สาม หากสถานการณ์สงครามชายแดนไทย-กัมพูชายืดเยื้อและรุนแรง อาจมีการประกาศกฎอัยการศึกซึ่งจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป สี่ งบประมาณปี 2570 อาจล่าช้า ห้า การเจรจาภาษีกับสหรัฐและการเจรจาการค้า (FTA) กับประเทศอื่นๆ ในหลักการต้องถูกเลื่อนออกไป หก โครงการโครงสร้างพื้นฐานต้องชะงัก รวมถึงอาจทำให้การเบิกจ่ายงบลงทุนอื่นๆ ล่าช้า และเจ็ด ความกังวลต่อนโยบายการคลัง โดยแผนลดขาดดุลเหลือ 2.1% GDP ภายในปี 2030 เกิดได้ยากขึ้น
4. ค่าเงินบาท: แข็งก่อนแล้วอ่อนทีหลัง
InnovestX คาดค่าเงินบาทมีแนวโน้มผันผวนสูงโดยคาดเงินบาทเฉลี่ยปี 2568-2569 ที่ 32.9 และ 32.2 บาทต่อดอลลาร์ตามลำดับ โดยในช่วง Q4/2568-Q1/2569 บาทจะแข็งพีคที่ 31.8 บาท (เฉลี่ย) ตามการลดดอกเบี้ยของ Fed แต่ช่วงครึ่งหลังของปี บาทอาจอ่อนกลับมาที่ 32.4-32.7 บาท หาก Fed ลดดอกเบี้ยช้ากว่า ธปท. ทั้งนี้ การผันผวนของค่าเงินนี้ส่งผลกระทบต่อทั้งภาคส่งออกและภาคการท่องเที่ยว
5. ปัญหาเชิงโครงสร้างไทย: ห้าทางออกที่ต้องเร่ง
ปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทยที่ยังคงอยู่และต้องการการแก้ไขอย่างเร่งด่วนประกอบด้วยห้าประเด็นสำคัญ คือหนึ่ง ภาวะเงินฝืดที่สภาพคล่องในระบบจำกัด ส่งผลให้การหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจไม่เพียงพอ สองคือการลงทุนที่ต่ำ จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง สามคือการคลังที่ชะลอตัว เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐถูกจำกัดทั้งจากกรอบวินัยการคลังและความล่าช้าในการอนุมัติงบประมาณ สี่คือการส่งออกที่มีความเสี่ยง โดยเฉพาะความเสี่ยงจากประเด็น Transshipment ของสหรัฐ และห้าคือสินค้าคงคลังที่หดตัว ซึ่งสะท้อนความต้องการที่อ่อนแอทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้กระทรวงการคลังจะมีมาตรการกระตุ้นห้าด้าน ได้แก่ โครงการคนละครึ่ง Plus, มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว, การคืนภาษีแบบเร่งรัด, นโยบายปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนและจัดตั้ง AMC และเติมเงินผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจที่มากกว่าคาดยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
ในส่วนของการลงทุน InnovestX แนะนำกลยุทธ์ “Selective Buy” สำหรับตลาดหุ้นไทยที่คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,230-1,285 จุดช่วงสั้น โดยเน้น 3 ธีมหลักประกอบด้วย (1) หุ้น Defensive ที่ต้านทานความผันผวนได้ดี (ADVANC, BDMS, BEM, BGRIM, GULF, PTT), (2) หุ้นปันผลคุณภาพดีทั้งระยะยาวและระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนเกิน 5% (AP, DIF, KTB, PTT, TISCO, BAM, KBANK, SAT, THANI, TLI), และ (3) หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง (CENTEL, GPSC, TRUE, AP, MTC, DIF, FTREIT, LHHOTEL) นอกจากนี้ยังมี Trading Idea สำหรับเก็งกำไรจากเม็ดเงินหาเสียงเลือกตั้ง (CPALL, CPAXT, GFPT, MTC, SAWAD), Window Dressing (BDMS, BH, MINT, CPF, LH) และกองทุน ThaiESG (BDMS, CHG, ERW, GLOBAL, HMPRO, PRM) โดยตั้งเป้า SET ปี 2026 ที่ 1,350-1,400 จุด ขณะที่่คาดกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโต 6% รองรับโดยการท่องเที่ยว ICT และอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้แนะนำจับตาจุดซื้อสำคัญที่ 1,200 จุดในช่วงไตรมาส 2-3 ปี 2026 สำหรับนักลงทุนระยะยาว
ขอให้นักลงทุนโชคดีในปีม้าไฟนี้
- รวมทุกช่องทาง InnovestX official ให้คุณได้ติดตามข้อมูลข่าวสารการลงทุนรอบโลก คลิก : https://linktr.ee/InnovestX
- เปิดบัญชีลงทุน InnovestX วันนี้! เปิดครั้งเดียวลงทุนได้ครบทั้งจักรวาลการลงทุน
โหลดเลย คลิก https://innovestx.onelink.me/23if/ek1n76zm
- ติดตามบทวิเคราะห์การลงทุนอื่นๆ เพิ่มเติมจาก InnovestX คลิก : https://bit.ly/respublisher
#InnovestX #InnovestXResearch #InnovestXApp #จักรวาลการลงทุนในมือคุณ
*ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้







