S&P 500 ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สาม หุ้นปัญญาประดิษฐ์หนุน

S&P 500 ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สาม หุ้นปัญญาประดิษฐ์หนุน

ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดเมื่อคืนบวกติดต่อกันเป็นวันที่สาม โดยได้รับแรงหนุนจากการซื้อขายหุ้นกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น

ซีเอ็นบีซี รายงานดัชนี S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ (22 ธ.ค.68) โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ ในการเปิดสัปดาห์การซื้อขายที่สั้นลงเพราะมีวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส

S&P 500 ดัชนีตลาดโดยรวมเพิ่มขึ้น 0.64% แตะระดับ 6,878.49 จุด ทำสถิติบวกติดต่อกันเป็นวันที่สาม ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average

เพิ่มขึ้น 227.79 จุด หรือ 0.47% ปิดที่ 48,362.68 จุด ดัชนีแนสแด็ก Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.52% ปิดที่ 23,428.83 จุด

หุ้นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) ช่วยหนุนตลาดโดยรวม ราคาหุ้น Nvidia ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 1% หลังจากสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่าบริษัทกำลังพิจารณาเริ่มจัดส่งชิป H200 ไปยังประเทศจีนภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์ ขณะเดียวกันหุ้น Micron Technology พุ่งขึ้นประมาณ 4% และ Oracle เพิ่มขึ้นมากกว่า 3%

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเพิ่งผ่านพ้นสัปดาห์ที่ผันผวนสำหรับดัชนีหลักๆ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในช่วงปลายสัปดาห์ช่วยหนุนดัชนี S&P 500 และ Nasdaq Composite ให้ปิดบวกเป็นสัปดาห์ที่สามในรอบสี่สัปดาห์ ขณะที่ดัชนี Dow Jones หุ้น30 ตัว ซึ่งทำผลงานได้ดีกว่าตลาดโดยรวมในเดือนนี้ ได้หยุดสถิติบวกติดต่อกันสามสัปดาห์ลง

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกำลังจับตาดูว่าหุ้นกลุ่มปัญญาประดิษฐ์  จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำไว้ได้หรือไม่ในช่วงปลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักลงทุนเริ่มโยกย้ายไปลงทุนออกไปบางส่วน เพื่อลงทุนในหุ้นที่มีราคาถูกกว่า ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่สูงเกินไป นอกจากนี้ยังมีความสงสัยว่าการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส (Santa Claus Rally) จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ เนื่องจากดัชนี S&P 500 ยังคงพยายามที่จะรักษาระดับทางเทคนิคที่สำคัญไว้ได้

“จากมุมมองของตลาดแล้ว ผมคิดว่า ช่วงนี้แทบไม่มีปัจจัยอะไรมากที่จะขับเคลื่อนตลาด ดังนั้นทุกคนจึงมองหา การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส” วิล แม็คกอฟ รองหัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Prime Capital Financial กล่าวกับซีเอ็นบีซี

เขากล่าวเสริมว่า เขากำลังจับตาดูว่าตลาดจะปิดที่ระดับใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนี S&P 500 ที่กำลังเข้าใกล้ระดับ 7,000 จุด ปัจจุบัน ดัชนีดังกล่าวเพิ่มขึ้นประมาณ 17% ในปี 2025 หลังจากที่ปรับขึ้นมากกว่า 24% และมากกว่า 23% ในปี 2023 และ 2024 ตามลำดับ

ด้วยดัชนีที่กำลังใกล้จะพุ่งขึ้น 20% ติดต่อกันสามปี ซึ่งจะเป็นการเคลื่อนไหวที่ "ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก" แม็คกอฟกล่าวว่า เขา "มองบวกเชิงสร้างสรรค์" เกี่ยวกับตลาดในปีหน้า แต่ว่านักลงทุนควรเตรียมรับมือกับความผันผวนบ้าง

"ตลาดคาดการณ์การเติบโตของกำไรบริษคัทจดทะเบียนที่ประมาณ 14% สำหรับปี 2026-2027 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก" รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุนกล่าว "จะมีอุปสรรคเกิดขึ้นระหว่างทาง" เขากล่าวต่อ โดยอ้างถึงการแต่งตั้งประธานธนาคารกลางสหรัฐคนใหม่และการเลือกตั้งกลางเทอมว่าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความปั่นป่วนได้

ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กจะปิดทำการเร็วกว่าปกติในวันพุธ เวลา 13.00 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ ซึ่งเป็นวันคริสต์มาสอีฟ และจะปิดทำการในวันพฤหัสบดี เนื่องในวันคริสต์มาส