หุ้นไทยเปิดเช้านี้บวก 7.70 จุด คลายกังวล Yen Carry Trade ลุ้น Santa Rally

ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าปรับตัวขึ้น 7.70 จุด หรือ 0.61% มาอยู่ที่ระดับ 1,259.89 จุด โบรกเผยปัจจัยหนุนสำคัญมาจากการคลายความกังวลเรื่อง Yen Carry Trade หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณว่าอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยช้าลงและเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตลาดมีความคาดหวังว่าจะเกิดปรากฏการณ์ Santa Rally จากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งเพิ่มโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและทำให้เม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยง
KEY
POINTS
- ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าปรับตัวขึ้น 7.70 จุด หรือ 0.61% มาอยู่ที่ระดับ 1,259.89 จุด
- ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากการคลายความกังวลเรื่อง Yen Carry Trade หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณว่าอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยช้าลงและเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- ตลาดมีความคาดหวังว่าจะเกิดปรากฏการณ์ Santa Rally จากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งเพิ่มโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและทำให้เม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยง
- ปัจจัยในประเทศที่หนุน Santa Rally คือการเริ่มเวทีดีเบตเลือกตั้ง ซึ่งจะทำให้ภาพนโยบายประชานิยมชัดเจนขึ้นและส่งผลบวกต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ 22 ธ.ค.2568 เวลา 10.00 น. ปรับตัวขึ้น 7.70 จุด หรือ 0.61% หรืออยู่ที่ 1,259.89 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,040.04 ล้านบาท
ภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายสายงานวิจัย บล.เอเชีย พลัส ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้ามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชีย โดยมีปัจจัยหนุนสำคัญจากการผ่อนคลายความกังวล Yen Carry Trade หลังจากที่ทางฝั่งญี่ปุ่นเริ่มส่งสัญญาณว่า อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ช้าลง
ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ถึงโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้เม็ดเงินเริ่มไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง และสร้างความคาดหวังว่าจะเกิดปรากฏการณ์ Santa Rally จากปัจจัยภายนอก
สำหรับปัจจัยภายในประเทศและสถิติในอดีต มองว่าหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ประมาณ 2-3% ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ซึ่งเป็นสถิติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วง 4 ปีหลังสุดจากการเกิด Santa Rally โดยในรอบนี้จะมีแรงขับเคลื่อนเพิ่มเติมจากการเริ่มเปิดเวทีดีเบตเลือกตั้งผ่านสื่อต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้ภาพรวมของนโยบายประชานิยมจากพรรคการเมืองต่าง ๆ มีความชัดเจนมากขึ้น ส่งผลบวกโดยตรงต่อความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับนโยบายหาเสียง
นอกจากนี้ประเด็นภูมิภาคและการกระตุ้นการท่องเที่ยว ยังมีปัจจัยบวกจากการที่กัมพูชาที่มีโอกาสจะผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ รวมถึงการร่วมมือกับทางการจีนในการต่อต้านขบวนการสแกมเมอร์ ซึ่งภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการค้าที่เชื่อมโยงกับกัมพูชาให้มีความร้อนแรงขึ้น
สำหรับ กลยุทธ์การลงทุน-หุ้นแนะนำ นักลงทุนสามารถเข้าเก็งกำไรได้ในช่วง Santa Rally โดยเน้นเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่นกลุ่มอิงกระแสเลือกตั้งและนโยบายประชานิยม แนะนำ PLANB TIDLOR และ CPALL ขณะที่กลุ่มท่องเที่ยวและรับอานิสงส์จากกัมพูชาแนะนำ CBG ERW และ AWC
วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอร์เรเตอร์ เปิดเผยว่า ผลการประชุมธนาคารกลางต่างๆ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาสอดคล้องกับที่เราคาด โดย กนง. และ BOE ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ส่วนทางด้าน ECB คงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม และช่วงปลายสัปดาห์ BOJ มีมติเอกฉันท์ปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 0.25% สู่ระดับ 0.75% ตามคาด
โดยประเด็นสำคัญของการประชุม BOJ คือ แม้ว่าจะมีการประกาศขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังเน้นย้ำว่า ดอกเบี้ยที่แท้จริงในปัจจุบันยังคงติดลบมาก ดังนั้นช่วงถัดไปยังมีโอกาสขึ้นแต่ น้ำหนักยังเป็นในทิศทางค่อยเป็นค่อยไป โดยจะขึ้นกับสัญญาณของตัวเลขเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งจุดนี้เลยสะท้อนว่า BOJ ยังไม่ได้ส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายที่เข้มงวดมากเกินไปนัก ตลาดจึงสะท้อนออกมาที่ค่าเงินเยนยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยล่าสุดหากเทียบกับ USD พบว่าอยู่ที่ระดับ 157.75 เยนต่อดอลลาร์ เป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 11 เดือน
สำหรับสัปดาห์นี้ ปัจจัยในประเทศติดตามยอดการขายรถยนต์, ยอดการส่งออกไทย และความคืบหน้าทางการเมือง โดยติดตามการทยอยประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคการเมือง ส่วนปัจจัยภายนอกในสัปดาห์นี้ ติดตามตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯจาก ADP, การรายงานไตรมาส 3/68 US GDP และเงินเฟ้อญี่ปุ่น เป็นต้น
โดยกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นยังคงเน้นย่อสะสมโดยกลยุทธ์ยังเน้นหุ้นที่คาดแนวโน้มกำไรดี และมี Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ
สำหรับ หุ้นแนะนำวันนี้ CPN คาดกำไรไตรมาส 4/68 มีแนวโน้มขยายตัว จากทั้ง 1) ธุรกิจ Retail ที่ได้ปัจจัยบวกจากการเปิด Central Park และ Central กระบี่ 2) ธุรกิจโรงแรม ได้แรงหนุนจากการเข้าสู่ช่วง High Season และมาตรการของภาครัฐฯ เที่ยวดีมีคืน และ 3) ธุรกิจอสังหาฯ มีโอน 3 คอนโด และเปิดเพิ่ม 4 โครงการ Valuation อยู่ในระดับไม่แพง โดยเทรดเพียง PE 13 เท่า และคาดปันผลราว 4% ต่อปี ราคาเป้าหมาย 68 บาท







