“ตลาดหุ้นไทย” วันนี้ (19 ธ.ค. 2568) ปิดบวก 2.12 จุด เงินเฟ้อสหรัฐโตต่ำกว่าคาด

"ตลาดหุ้นไทย" ในวันนี้ (19 ธ.ค. 2568) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,252.19 จุด โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.12 จุด หรือคิดเป็น 0.17% นักวิเคราะห์ชี้มีสาเหตุมาจากรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐ (CPI) ซึ่งสะท้อนระดับเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด
"ตลาดหุ้นไทย" ในวันนี้ (19 ธ.ค. 2568) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,252.19 จุด โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.12 จุด หรือคิดเป็น 0.17% โดยดัชนีฯ ทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,257.50 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,248.35 จุด และมีมูลค่าซื้อขายรวม 34,064.09 ล้านบาท
หุ้นไทยวันนี้ ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
- KTB ราคาปิด 28.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 3.39% มูลค่าซื้อขาย 3,126.65 ล้านบาท
- DELTA ราคาปิด 169.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.60% มูลค่าซื้อขาย 2,336.46 ล้านบาท
- PTT ราคาปิด 31.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.80% มูลค่าซื้อขาย 2,156.67 ล้านบาท
- KBANK ราคาปิด 195.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 0.76% มูลค่าซื้อขาย 1,657.82 ล้านบาท
- AOT ราคาปิด 54.25 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.36% มูลค่าซื้อขาย 1,527.81 ล้านบาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในวันนี้ภาพรวมดัชนีแกว่งตัวในทางบวกตามตลาดภูมิภาค จากรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐ (CPI) ที่เติบโตที่ต่ำกว่าคาดที่ 2.7% และเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า ทำให้นักลงทุนมองแนวโน้มธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มการเงินยังคงทำผลงานได้ไม่ดีนัก และไม่ปรับตัวรับนโยบายการลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) คาดว่าปัจจัยหลักมาจากการคาดการณ์ถึงวัฎจักรดอกเบี้ยขาลงที่ใกล้สิ้นสุด ด้านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) ยังปรับตัวลงน้อยกว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทำให้ต้นทุนการเงินของกลุ่มไฟแนนซ์ไม่ลดลงมากนัก
ในขณะที่สัปดาห์หน้า (22 ธ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มเเกว่งตัวอยู่ในกรอบแนวรับ 1,230-1,250 จุด แนวต้าน 1,280 จุด โดยในช่วงนี้อาจเป็นช่วงที่นักลงทุนมีการปรับพอร์ตขายทำกำไร โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อ รวมถึงหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าและกลุ่มโรงพยาบาล
ด้านกลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนควรเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวเช่น CENTEL, MINT, AOT ที่ได้รับผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น กลุ่มการแพทย์ เช่น BDMS และ BH รวมถึงกลุ่มค้าปลีกอย่าง CPALL







