2026: ช่วงเวลาแห่งศตวรรษของ AI

ปี 2026 จะยังคงเป็นยุคของ AI โดยชี้ว่าการลงทุนใน AI ปัจจุบันคิดเป็นเพียง 0.8% ของ GDP ซึ่งยังน้อยมากเมื่อเทียบกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอดีต เช่น รถไฟ (2-4.5% ของ GDP) และเทคโนโลยีสารสนเทศ (1.5% ของ GDP)
KEY
POINTS
- ผู้เขียนเชื่อว่าปี 2026 จะยังคงเป็นยุคของ AI โดยชี้ว่าการลงทุนใน AI ปัจจุบันคิดเป็นเพียง 0.8% ของ GDP ซึ่งยังน้อยมากเมื่อเทียบกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอดีต เช่น รถไฟ (2-4.5% ของ GDP) และเทคโนโลยีสารสนเทศ (1.5% ของ GDP)
- จากข้อมูลการลงทุนในอดีตและช่วงเริ่มต้นของ "Labor Productivity boom" (การเพิ่มขึ้นของผลิตภาพแรงงาน) บ่งชี้ว่ากระแส AI อาจยังไม่ใช่ฟองสบู่ แม้ราคาหุ้นจะสูงแล้วก็ตาม
- กลยุทธ์การลงทุนในปี 2026 คือ "แพงหมด แต่ก็ต้องมีหมด" หมายความว่าแม้สินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้นสหรัฐฯ บิตคอยน์ และทองคำจะมีราคาสูง แต่ก็ควรมีไว้ในพอร์ตการลงทุน เนื่องจากยังมีโอกาสเติบโตสูง
- แนะนำให้ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Value Averaging (VA) คือซื้อเพิ่มเมื่อราคาลง และซื้อน้อยลงเมื่อราคาขึ้น แทนการทำ Dollar-Cost Averaging (DCA) ซึ่งอาจเสียเปรียบในภาวะที่ราคาสินทรัพย์แพง
- ในการลงทุนหุ้น AI ไม่ควรใช้แนวคิดแบบ Value Investor (VI) ที่เน้นซื้อของถูก เพราะราคาที่สูงของหุ้น AI สะท้อนถึงศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงแห่งศตวรรษ ซึ่งอาจทำให้พลาดโอกาสการลงทุนได้
ใกล้จะเข้าสู่ช่วงเทศกาลปีใหม่เข้าไปทุกที ทุกสายตาของโลกการลงทุนจึงมองไปยังปี 2026 หรือ ปีหน้ากันแล้ว ว่าจะเป็น “ม้าลำพอง” หรือ “ม้าพยศ”
ก่อนอื่นผมขออนุญาตกล่าว สวัสดีปีใหม่ผู้อ่านทุกท่าน เดินทางปลอดภัยในช่วงปีใหม่นี้ และ มีแต่ความสุขความเจริญด้วยนะครับ
เข้าเรื่องกันเลย ... ผมเชื่อว่าปีหน้า เรื่องของ AI ก็ยังจะเป็นประเด็นต่อไป ว่า
AI ใช่ฟองสบู่หรือไม่? แพงเกินไปแล้วรึยัง?
ผมจึงได้นำเสนอรูปที่บ่งบอกถึงการลงทุนของอุตสาหกรรมต่างๆตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันที่มีผลต่อเศรษฐกิจในยุคต่างๆ
กล่าวคือ ตั้งแต่อุตสาหกรรมรถไฟของสหราชอาณาจักร มาจนถึง AI ปัจจุบัน
สิ่งที่ผมพบ คือ
ในยุค UK Railroads (1860s) มีการลงทุนสูงสุดประมาณ 4.5% ของ GDP
ต่อมายุค US Railroads (1880s) และ US Auto Infrastructure (1910s) มีการลงทุนตามมาในระดับ 2-3% ของ GDP
และ พอเข้าสู่ยุค 90 หรือ ยุค US Electric Motor (1920s) และ US ICT Hardware (1990s) การลงทุนจะอยู่ราว 2% และ 1.5% ตามลำดับ
ส่วนปลายยุค 90 หรือ ยุค US Telecommunications (1990s) ตัวเลขอยู่ประมาณ 1.4%
และ ท้ายสุด ตัดภาพมาปัจจุบัน ยุค AI Generation (2020s) ตัวเลขอยู่ราว 0.8% ของ GDP
ใช่ครับ ตัวเลขการลงทุนปัจจุบันยังน้อยอยู่ และ หากพิจารณาภาพทางขวา จะพบว่า ช่วง Labor Productivity boom ยังเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น
หากสมมติฐานและภาพดังกล่าวเป็นจริง ฟองสบู่ในหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐฯก็อาจจะยังนะ แต่แน่นอนความเสี่ยงที่จะผิดก็มีพอสมควรเนื่องจากราคาหุ้นก็แพงมาก
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในปี 2026 ท่ามกลางความไม่แน่นอนมีอยู่ด้วยกัน 3 ข้อ
ประการแรก แพงหมด แต่ ก็ต้องมีหมด
ประการที่สอง อย่า DCA แต่จง VA
ประการสุดท้าย จะเล่นหุ้น AI อย่าคิดแบบ VI
หรือพูดง่ายๆ
“ไม่ว่าจะเป็นหุ้นสหรัฐฯ บิตคอยน์ ทองคำ ที่มองไปทางไหนก็แพงแสนแพง แต่ เราก็ต้องมีทั้งหมด เพราะ โอกาสที่ปัจจุบันยังเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นมีสูงหากพิจารณาจากภาพข้างต้น และ จงลงทุนด้วยการทำ VA (Value Averaging) หรือ ซื้อสะสมเพิ่มขึ้นเมื่อราคาปรับลดลง และ ซื้อน้อยลงเมื่อราคาปรับเพิ่มขึ้น เพราะ DCA (Dollar Cost Averaging) ณ ราคาที่แพง เสียเปรียบกว่า อีกอย่างคือ จงจำไว้เสมอครับ ว่า หุ้น AI คือ การเปลี่ยนแปลงในรอบศตวรรษ ดังนั้น ถ้าเราคิดแบบ VI (Value Investor) เราอาจจะไม่ได้ซื้อหุ้น AI เนื่องจากราคาของหุ้นของมันนั่นเอง”
สวัสดีปีใหม่ครับ
*การแสดงความเห็นให้คำแนะนำดังกล่าว ข้าพเจ้าขอเรียนว่า เป็นการกระทำในนามส่วนตัวของข้าพเจ้า เท่านั้น บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด มิได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ใดๆ ทั้งสิ้น







