“ตลาดหุ้นไทย” วันนี้ (18 ธ.ค. 2568) ปิดลบ 6.78 จุด DELTA กระทบหนัก หลังนักลงทุนย้ายไปหุ้น value 

“ตลาดหุ้นไทย” วันนี้ (18 ธ.ค. 2568) ปิดลบ 6.78 จุด DELTA กระทบหนัก หลังนักลงทุนย้ายไปหุ้น value 

"ตลาดหุ้นไทย" ในวันนี้ (18 ธ.ค. 2568) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,250.07 จุด โดยปรับตัวลดลง 6.78 จุด หรือคิดเป็น 0.54% นักวิเคราะห์ชี้มีสาเหตุมาจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับฟองสบู่เอไอ (AI bubble) ทำให้มีการย้ายการลงทุนไปสู่หุ้นกลุ่มคุณค่ากันมากขึ้น กระทบหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่าง DELTA

KEY

POINTS

  • ตลาดหุ้นไทยปิดทำการวันที่ 18 ธ.ค. ปรับตัวลดลง 6.78 จุด มาอยู่ที่ระดับ 1,250.07 จุด
  • การปรับตัวลงของดัชนีมีสาเหตุหลักมาจากแรงเทขายอย่างหนักในหุ้น DELTA
  • แรงขายดังกล่าวสะท้อนการที่นักลงทุนย้ายเงินจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีไปยังหุ้นคุณค่า (value stock) ตามทิศทางตลาดสหรัฐฯ

"ตลาดหุ้นไทย" ในวันนี้ (18 ธ.ค. 2568) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,250.07 จุด โดยปรับตัวลดลง 6.78 จุด หรือคิดเป็น 0.54% โดยดัชนีฯ ทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,262.63 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,243.94 จุด โดยมีมูลค่าซื้อขายรวม 40,164.99 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  1. PTT ราคาปิด 31.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.81% มูลค่าซื้อขาย 2,921.62 ล้านบาท
     
  2. DELTA ราคาปิด 168.00 บาท ลดลง 5.00 บาท หรือ 2.89% มูลค่าซื้อขาย 2,777.67 ล้านบาท
     
  3. KBANK ราคาปิด 197.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท หรือ 3.41% มูลค่าซื้อขาย 2,338.15 ล้านบาท
     
  4. SCB ราคาปิด 136.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 1.49% มูลค่าซื้อขาย 2,178.14 ล้านบาท
     
  5. TTB ราคาปิด 2.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.09 บาท หรือ 4.52% มูลค่าซื้อขาย 1,945.74 ล้านบาท

นายสุวัฒน์ วัฒนพรพรหม ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า ในวันนี้ภาพรวมดัชนีแกว่งตัวในทางลบ จากแรงขายหุ้น DELTA เข้ามากดดันดัชนีเป็นสำคัญ

สาเหตุเกิดจากความกังวลเรื่องของฟองสบู่ AI สอดคล้องไปกับทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ ที่มีการเปลี่ยนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ไปสู่หุ้นคุณค่า (Value Stock) โดยเมื่อดัชนีทดสอบแนวรับ 1,250 จุด ตลาดก็มีการเร่งขาย อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารยังคงประคองตลาดทำให้ดัชนีรีบาวน์กลับขึ้นมาได้เล็กน้อย

ในขณะที่วันพรุ่งนี้ (19 ธ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มเเกว่งตัวในทางบวก อยู่ในกรอบแนวรับ 1,230-1,245 จุด แนวต้าน 1,265-1,270 จุด จากปัจจัยการเฝ้ารอการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือน ต.ค. และ พ.ย. ซึ่งอาจส่งผลต่อการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในอนาคต

ด้านกลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนควรเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและบริการ เช่น CENTEL กลุ่มธนาคาร และกลุ่มปันผล รวมถึงกลุ่มอสังหาฯ อย่าง AP หรือ SC