หุ้นน้องใหม่ NTF ส่งออกผลไม้ไทย เทรดวันแรกเหนือจอง 45% แตะ 8.70 บาท จากราคา IPO 6.00 บาท

หุ้นน้องใหม่ NTF ผู้ส่งออกผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียนสด สร้างความคึกคักให้ตลาด mai เทรดวันแรกพุ่งแรง เหนือจอง 45% แตะ 8.70 บาท จากราคา IPO 6.00 บาท โบรกเผย หลังโชว์ผลงาน 9 เดือนปี 68 กำไรโตทะลุ 251% จากดีมานด์ทุเรียนไทยในตลาดจีนที่ยังขยายตัวสูง พร้อมตั้งเป้ายอดขายปีนี้แตะ 2,900 ล้านบาท
ความเคลื่อนไหว "ตลาดหุ้นไทย" ภาคเช้า ณ วันที่ 16 ธ.ค.2568 เวลา 10.00 น. หุ้นน้องใหม่ NTF หรือ บริษัท เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เทรดวันแรกราคาอยู่ที่ 8.70 บาท เพิ่มขึ้น 45.00% จากราคา IPO ที่ 6.00 บาท
บล.ทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัท เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NTF จำหน่ายผลไม้สดและแช่แข็งทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่
ทุเรียน ลำไย มะพร้าว และผลไม้อื่น ภายใต้แบรนด์ของบริษัทและแบรนด์ของลูกค้า ทั้งนี้ NTF มีวัตถุประสงค์ IPO 60 ล้านหุ้นที่ราคา 6 บาทต่อหุ้น พาร์ 0.50 บาท เข้าซื้อขายใน mai กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร โดยจะนำเงิน IPO ไปใช้ ลงทุนในเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิต 120 ล้านบาท รวมถึงคืนเงินกู้ยืม 50 ล้านบาท และเป็นเงินทุนหมุนเวียน 171.6 ล้านบาท
สำหรับกำไรในช่วง 9 เดือนของปี 2568 +251.4% y-y เป็น 203 ล้านบาท รายได้ขาย +133.8% เป็น 2,107 ล้านบาท จากรายได้โตอย่างมีนัยสำคัญ จากความนิยมอย่างมากในสินค้าทุเรียนสดของผู้บริโภคในประเทศจีนเป็นหลัก โดยมีรายได้จากการส่งออกเกือบ 100% และทุเรียนสดคิดเป็น 94.9% ของรายได้ ต้นทุนขาย +125.1% ตามการขายที่สูงขึ้น ต้นทุนกว่า 99% เป็นวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเป็น 19.6% จาก 16.5% ส่วน SG&A +128.5% ตามยอดขาย หากดเทียบกับยอดขาย (SG&A to Sale) ทำได้ดีขึ้น ลดลงเป็น 7.8% จาก 8% ปีนี้มีกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 15 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุนราว 1 ล้านบาท จึงมีกำไรสุทธิ +251.4% y-y เป็น 203 ล้านบาท แต่หากดูกำไรปกติ +225.6% ที่ 188 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิ 9.6% หากไม่รวมผลกระทบอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 8.9% จากปีก่อน 6.4%
ขณะที่ด้านความเสี่ยงในการดำเนินงาน NTF พึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ ลูกค้าน้อยรายและการกระจุกตัวของลูกค้าในประเทศจีน พึ่งพิงโรงคัดบรรจุผลไม้ การผลิตสินค้าไม่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า ขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ ความชำนาญในการปฏิบัติงาน ผลไม้มีฤดูกาลและการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ พึ่งพาผู้บริหาร โรคระบาดในพืช พึ่งพิงการขายทุเรียนเป็นสินค้าหลัก อัตราแลกเปลี่ยน แผนการขยาย กำลังการผลิต นโยบายของภาครัฐและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในประเทศของคู่ค้าและประเทศไทยที่อาจเปลี่ยนแปลง โดยให้ราคาพื้นฐาน 22-30 บาท
นายวิชัย ศิระมานะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นทีเอฟ อินเตอร์กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NTF กล่าวว่า NTF ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ NTF เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงใช้พัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อยกระดับกระบวนการผลิตให้มีความแม่นยำ ลดความสูญเสีย และเงินบางส่วนจะนำไปชำระคืนสถาบันการเงิน ซึ่ง NTF จะดำเนินธุรกิจด้วยความรอบคอบ ควบคู่กับการบริหารจัดการที่โปร่งใส พร้อมสร้างโอกาสเติบโตตามความสามารถของธุรกิจ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิ
" NTF เป็นผู้ส่งออกผลไม้สดไปยังต่างประเทศ ไม่ได้ดำเนินธุรกิจล้ง แต่ดำเนินงานร่วมกับ ล้งพันธมิตร หรือโรงคัดบรรจุ เพื่อจัดหาผลผลิตจากสวน พร้อมควบคุมคุณภาพในสวนและโรงคัดบรรจุตามมาตรฐาน 2Q2T ที่ NTF กำหนด ตลอดจนการจัดการด้านโลจิสติกส์แบบครบวงจร ทำให้สินค้าที่ส่งมอบเป็นผลไม้คุณภาพสูง เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของลูกค้า ส่งผลให้มียอดขายเติบโตตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง"
สินค้าของ NTF กว่า 95% ที่ส่งออกเป็นทุเรียนสด รองลงมา ได้แก่ มะพร้าว ลำไย ผลไม้อื่นๆ ทุเรียนแกะเนื้อ และทุเรียนแช่แข็ง โดยส่งไปจำหน่ายให้กับผู้ค้าส่งผลไม้ในประเทศจีน โดยเฉพาะตลาดผลไม้ขนาดใหญ่ที่มีปริมาณการซื้อขายเป็นอันดับต้นๆ และมีความต้องการบริโภคผลไม้ไทยในระดับสูงต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นตลาดเจียซิง (Jiaxing Market) ตลาดเจียงหนาน (Jiangnan Fruit Market) และตลาดเจิ้งโจว (Zhengzhou)
สำหรับสินค้าของ NTF จะอยู่ภายใต้แบรนด์ของ NTF ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อทำการตลาดให้สอดคล้องในการจำหน่ายในต่างประเทศ ได้แก่ เหม่ย ลี่ (Mei Li), ไท่ ถิง ห่าว (Tai Ting Hao), โมมันไท่ (Mo Man Tai) และ มินิ (Mini) รวมถึงแบรนด์ที่พัฒนาร่วมกับลูกค้า ได้แก่ ไท่ จี๋ (Tai Ji) และ จิน เยี่ยน (Jin Yan) และแบรนด์ลูกค้าที่เป็นแบรนด์ระดับโลก ได้แก่ โดล (Dole)
ผลดำเนินงานในปี 68 NTF มีคำสั่งซื้อล่วงหน้าตามความต้องการผลไม้ไทยที่เพิ่มขึ้นในตลาดต่างประเทศ ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ประมาณ 2,900 ล้านบาท จากเดิม 1,800 ล้านบาท โดยงวด 9 เดือนปี 68 มียอดขาย 2,107 ล้านบาท กำไรสุทธิ 203 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 9.6% ล้านบาท สูงกว่ารายได้รวมและกำไรสุทธิทั้งปีในช่วง 65-67
ครึ่งปีแรกของปี 68 NTF มีรายได้จากการขายรวม 1,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189% และมีกำไรสุทธิ 166 ล้านบาท เติบโต 282%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรสุทธิสูงขึ้นมาที่ 9.9% จากปี 67 อยู่ที่ 5.7% โดยรายได้หลักกว่า 99% มาจากการส่งออกผลไม้ไปยังประเทศจีน และอีก 1% จากตลาดในประเทศ ซึ่งถือเป็นหลักฐานของการขยายตัวเชิงรุกและการบริหารจัดการซัพพลายเชนที่มีประสิทธิภาพของ NTF ได้เป็นอย่างดี
"ตอนนี้คนจีนกินทุเรียนเฉลี่ยแค่คนละ 1 กิโลกรัม/ปี คนไทยเฉลี่ยคนละ 5 กิโลกรัม/ปี และเรายังมีส่วนแบ่งในตลาดทุเรียนไทยที่ส่งออกไปจีนแค่ 1% ในช่วง 6 เดือนแรก ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก"







