“ตลาดหุ้นไทย” วันนี้ (12 ธ.ค. 68) ปิดบวก 0.56 จุด ดอลลาร์อ่อนค่า-ยุบสภาลุ้นเลือกตั้ง

"ตลาดหุ้นไทย" ในวันนี้ (12 ธ.ค. 2568) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,254.10 จุด โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.56 จุด หรือคิดเป็น 0.04% นักวิเคราะห์ชี้ภาพรวมดัชนีไซด์เวย์ มีสาเหตุมาจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าและข่าวการยุบสภาฯ ที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาด ส่งผลให้ปิดบวกน้อยกว่าตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาค
KEY
POINTS
- ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อย 0.56 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขายเบาบาง
- ปัจจัยหนุนตลาดมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ
- ข่าวการยุบสภาสร้างความไม่แน่นอนทางการเมืองและนโยบายการคลัง
- นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับนโยบายภาครัฐจากความกังวล
"ตลาดหุ้นไทย" ในวันนี้ (12 ธ.ค. 2568) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,254.10 จุด โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.56 จุด หรือคิดเป็น 0.04% โดยดัชนีทำจุดสูงสุด อยู่ที่ 1,263.34 จุด และจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,252.65 จุด และมีมูลค่าซื้อขาย รวม 36,693.42 ล้านบาท
หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
- AOT ราคาปิด 50.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 4.76% มูลค่าซื้อขาย 3,413.92 ล้านบาท
- BDMS ราคาปิด 20.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท หรือ 4.15% มูลค่าซื้อขาย 2,481.01 ล้านบาท
- DELTA ราคาปิด 182.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 1.62% มูลค่าซื้อขาย 2,117.13 ล้านบาท
- ADVANC ราคาปิด 305.00 บาท ลดลง 5.00 บาท หรือ 1.61% มูลค่าซื้อขาย 1,624.45 ล้านบาท
- KBANK ราคาปิด 192.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.26% มูลค่าซื้อขาย 1,552.37 ล้านบาท
ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในวันนี้ภาพรวมดัชนีแกว่งตัวในลักษณะไซด์เวย์ ปิดบวกเล็กน้อย มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบาง underperform ตลาดอื่น ๆ จากปัจจัยที่เงินดอลลาร์อ่อนค่า และข่าวการยุบสภาที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาด ส่งผลให้ตลาดวันนี้ปิดบวกน้อยกว่าตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาค
การยุบสภาเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมความไม่แน่นอนของนโยบายการคลัง โดยจะเห็นได้ว่ามีการเทขายหุ้นกลุ่ม Domestic หรือค้าปลีกที่เกี่ยวโยงกับนโยบายของภาครัฐออกมาจำนวนหน่ึง สวนทางกับหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันโลกที่ปรับลดลง (Anti-commodity) เช่น ธุรกิจปูน หรือปิโตรเคมี ที่อาจไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
ในขณะที่สัปดาห์หน้า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มเเกว่งตัวไปในทางลบ อยู่ในกรอบแนวรับ 1,240 จุด แนวต้าน 1265 จุด โดยคาดว่าตลาดจะยังคงพักรอสัญญาณการลดดอกเบี้ยจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
กลยุทธ์การลงทุน นักลงทุนควรใช้กลยุทธ์แบบ defensive หรือเลือกลงทุนในกลุ่มธนาคารพาณิชย์และธุรกิจการเงิน เช่น KTB SAWAD TIDLOR กลุ่มสื่อสารอย่าง TRUE หรือพักเงินลงทุนเอาไว้ในกลุ่มรีต เช่น 3BBIF LHHOTEL







