หุ้นไทยเปิดเช้านี้ ร่วงเกือบ 10 จุด ชายแดนยังตึงเครียด

หุ้นไทยเปิดเช้านี้ ร่วงเกือบ 10 จุด ชายแดนยังตึงเครียด

ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ 3 พ.ย.2568 ปรับตัวขึ้น 6.60 จุด หรือ 0.50% หรืออยู่ที่ 1,316.10 จุด โบรกชี้ ฟื้นตัวรับเฟดหั่นดอกเบี้ยตามคาด

KEY

POINTS

  • ดัชนีหุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้าปรับตัวลดลง 9.19 จุด มาอยู่ที่ระดับ 1,260.68 จุด
  • ปัจจัยกดดันหลักมาจากสถานการณ์ความขัดแย้งที่ยังตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
  • นักวิเคราะห์มองว่าปัญหาชายแดนเป็นปัจจัยที่จำกัดการฟื้นตัวของดัชนี แม้จะมีปัจจัยบวกจากต่างประเทศก็ตาม
  • นักลงทุนยังต้องติดตามปัจจัยการเมืองในประเทศ เช่น การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจส่งผลต่อตลาด

ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ 11 ธ.ค.2568  ปรับลง 9.19 จุด หรือ 0.72% หรืออยู่ที่ 1,260.68จุด  มูลค่าการซื้อขาย 6,821.79 ล้านบาท  

หุ้นไทยเปิดเช้านี้ ร่วงเกือบ 10 จุด ชายแดนยังตึงเครียด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล  ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีฟื้นตัวขึ้นต่อ ได้รับอานิสงส์จากการที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามคาด พร้อมทั้งมีแผนการเข้าซื้อสินทรัพย์เพื่อบริหารสภาพคล่องในระบบเป็นมูลค่าราว 4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ถือเป็นผลดีต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยอาจฟื้นตัวจำกัด เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังตึงเครียด ต้องติดตามท่าทีของสหรัฐฯ จะเข้ามามีบทบาทการเจรจาระหว่างทั้งสองประเทศอย่างไร อาจต้องระวังประเด็นการค้าหรือในรูปแบบอื่น ซึ่งยังต้องติดตามผลของการเจรจา

นอกจากนี้ปัจจัยในประเทศระยะถัดไปแนะติดตาม การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญในวันนี้เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญในวันพรุ่งนี้ ซึ่งต้องจับตาดูว่าฝ่ายค้านจะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือไม่ แต่มองว่าอาจยังไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะทำให้ประเด็นการเมืองผ่อนคลายลง

รวมทั้งในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด

นอกจากนี้ แนะติดตามโครงการ TISA ต้องรอความชัดเจนจากกระทรวงการคลังเกี่ยวกับรายละเอียดและเงื่อนไขของโครงการ ซึ่งหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากร่างเดิม อาจไม่ได้ส่งผลต่อตลาดได้อย่างมีนัยสำคัญ

โดยให้กรอบแนวต้าน 1,280-1,285 จุด และแนวรับ 1,260-1,250 จุด