โบรกเผยหุ้นโรงพยาบาลเข้าไฮซีซั่น หนุนกำไรโต แต่ยังเผชิญแรงกดดันพื้นที่ชายแดนตึงเครียด

บล.ลิเบอเรเตอร์ คาดฤดูฝนลากยาวทำให้กลุ่มโรงพยาบาลเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น หนุนให้กำไรขยายตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ด้านการปรับขึ้นเพดานเงินสมทบของสำนักงานประกันสังคม (เริ่มในปี 2569 เป็นปัจจัยบวกต่อโรงพยาบาลในระบบประกันสังคม ด้านความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดการปะทะกันรอบใหม่ คาดกระทบและสร้างแรงกดดันต่อโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน
KEY
POINTS
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าฤดูฝนที่ลากยาวถึงเดือนพฤศจิกายนจะทำให้กลุ่มโรงพยาบาลเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น หนุนให้กำไรของบริษัทส่วนใหญ่ขยายตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (y-y)
- การปรับขึ้นเพดานเงินสมทบของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ที่จะเริ่มในปี 2569 ถูกมองว่าเป็นปัจจัยบวกต่อโรงพยาบาลในระบบประกันสังคม และคาดว่าจะทำให้การจ่ายค่ารักษาโรคซับซ้อนมีความมั่นคง
- ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดการปะทะกันรอบใหม่ คาดว่าจะส่งผลกระทบและสร้างแรงกดดันต่อโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน เช่น โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์ฯ อรัญประเทศ
- BCH พยายามลดผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนโดยการชักชวนผู้ป่วยชาวกัมพูชาให้ไปใช้บริการที่โรงพยาบาลสาขาเวียงจันทน์แทน
จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า หุ้นโรงพยาบาล ฤดูฝนลากยาวถึงไตรมาส 4/68 โดยเว้นช่วงไปในไตรมาส 3/68 และกลับมาช่วงปลายไตรมาสแล้วลากยาวถึงเดือน พ.ย. โดยนักวิเคราะห์มองกำไรของบริษัทส่วนใหญ่ในกลุ่มจะขยายตัว y-y จากฝนตกชุกกว่าปีก่อน ส่วนภาพ q-q ส่วนใหญ่มีแนวโน้มทรงตัว ส่วน BCH มีโอกาสโต q-q จากฐานต่ำ
ทั้งนี้ BCH เผย สาธารณสุขคูเวต จะมาตั้ง Medical officer office ในเดือน ธ.ค. นี้ เพื่อคัดกรองการจัดส่งผู้ป่วย และเบิกจ่ายแก่ โรงพยาบาลไทย โดยไม่ต้องผ่านสถานฑูตเหมือนแต่ก่อน เราคาดผู้ป่วย GOP คูเวตจะเริ่มกลับมารักษาในปี 2569 ในบางโรคที่โรงพยาบาลคูเวตไม่เชี่ยวชาญ อาทิ การรักษาแผลเบาหวาน ซึ่งในอดีตผู้ป่วยคูเวตรักษากับ BCH มายาวนาน
นอกจากนี้ สปส.ปรับเพดานเงินสมทบขึ้น ดังนี้
(1) ปี 2569-2571 ปรับเพดานค่าจ้างสูงสุดเป็น 17,500 บาท เงินสมทบสูงสุด 875 บาท
(2) ปี 2029-31 ปรับเพดานค่าจ้างสูงสุดเป็น 20,000 บาท เงินสมทบสูงสุด 1,000 บาท และ
(3) ตั้งแต่ปี 2032 ปรับเพดานค่าจ้างสูงสุดเป็น 23,000 บาท เงินสมทบสูงสุด 1,150 บาท
ทำให้เราเชื่อว่าปี 2569 สปส. จะจ่ายค่ารักษาโรคซับซ้อน (RW>2) ที่ 1.2 หมื่นบาท/ RW ได้ตลอดปี และมีโอกาสปรับเพิ่มอีก โดยงบประมาณของสปส. ณ สิ้นไตรมาส 3/68 ยังเหลือ 45% จากงบส่วนค่ารักษาพยาบาล 1.4 แสนล้านบาท
ขณะที่ชายแดนกัมพูชาตึงเครียดต่อเนื่องวานนี้ (8 ธ.ค.) มีการปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชารอบใหม่ คาดทำให้โรงพยาบาลตามแนวชายแดนจะกระทบ อาทิ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์ฯ อรัญประเทศ อย่างไรก็ดี BCH ได้ชักชวนผู้ป่วยกัมพูชาไปที่โรงพยาบาลสาขาเวียงจันทน์ ทดแทนแล้ว
“เราคงน้ำหนักลงทุนมากกว่าตลาดจากโครงสร้างประกันสังคมที่แข็งแกร่งกว่าในอดีต เรามั่นใจว่าสปส. จะไม่ปรับค่ารักษาโรคซับซ้อนลงอีก และลุ้นการกลับมาของผู้ป่วย GOP คูเวต เราชอบ BCH ซื้อ 13.30 บาท คาดรายได้ไตรมาส 4/68 จะขยายตัว q-q ทำจุดสูงสุดของปี 2568 และคาดปี 2569 จะได้ผู้ป่วย GOP คูเวตกลับมารักษา อย่างไรก็ดีอาจมีการตั้งสำรองหนี้รัฐบาลคูเวตอีกบางส่วน กำไรจึงจะถูกกดดันเล็กน้อย ด้าน PR9 (เป้าเฉลี่ย Bloomberg cons. 27.71 บาท) นักวิเคราะห์คาดกำไรไตรมาส 4/68 จะทรงตัว q-q และขยายตัว +3.8% y-y เป็น 215 ล้านบาท จากฤดูฝนลากยาว แม้ไม่มีรายได้ประกันสังคม แต่ผู้บริหารคาดปี 2569 จะได้ผู้ป่วย GOP คูเวตกลับมารักษา และวอร์ดผู้ป่วยในที่ 12 ใกล้ปรับปรุงเสร็จ”







