หุ้นชิ้นส่วนฯ บวกยกแผง โบรกเผย DELTA รีบาวด์แรง หลังประเมิน TISA ไม่จูงใจอย่างที่คิด

หุ้นชิ้นส่วนฯ บวกยกแผง โบรกเผย DELTA รีบาวด์แรง หลังประเมิน TISA ไม่จูงใจอย่างที่คิด

หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยมี DELTA เป็นหุ้นนำที่ราคาปรับขึ้น 3% และเป็นแรงหนุนสำคัญต่อดัชนีหุ้นไทย โบรกเผย การดีดตัวขึ้นของ DELTA เกิดขึ้นหลังจากวานนี้ (8 ธ.ค.) ราคาหุ้นถูกเทขายอย่างหนักจากกระแสข่าวมาตรการลดหย่อนภาษี TISA ซึ่งทำให้นักลงทุนโยกเงินไปซื้อหุ้นตัวอื่นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์

KEY

POINTS

  • หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยมี DELTA เป็นหุ้นนำที่ราคาปรับขึ้น 3% และเป็นแรงหนุนสำคัญต่อดัชนีหุ้นไทย
  • การดีดตัวขึ้นของ DELTA เกิดขึ้นหลังจากวานนี้ (8 ธ.ค.) ราคาหุ้นถูกเทขายอย่างหนักจากกระแสข่าวมาตรการลดหย่อนภาษี TISA ซึ่งทำให้นักลงทุนโยกเงินไปซื้อหุ้นตัวอื่นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์
  • นักลงทุนประเมินรายละเอียดของมาตรการ TISA อีกครั้งและมองว่าอาจไม่จูงใจเท่าที่คาดไว้ เนื่องจากสิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับผู้มีรายได้สูงค่อนข้างน้อย และมีเงื่อนไขต้องถือครองเงินลงทุนยาวนานถึงอายุ 55 ปี
  • เมื่อความน่าสนใจของ TISA ลดลง จึงเกิดแรงซื้อเก็งกำไรไหลกลับเข้ามาในหุ้น DELTA ส่งผลให้ราคาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในวันนี้

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 9 ธ.ค.2568 เวลา 10.10 น. หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับบวก นำโดย 

1. หุ้น DELTA บวก 3.13% เพิ่มขึ้น 6.00 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 198.00 บาท 
2. หุ้น CCET บวก 2.99% เพิ่มขึ้น 0.14 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 4.82 บาท 
3. หุ้น SMT บวก 2.70% เพิ่มขึ้น 0.03 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.14 บาท 
4. หุ้น HANA บวก 2.52% เพิ่มขึ้น 0.40 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 16.30 บาท
5. หุ้น KCE บวก 1.91% เพิ่มขึ้น 0.40 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 21.30 บาท 
6. หุ้น TEAM บวก 1.82% เพิ่มขึ้น 0.04 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 2.24 บาท

หุ้นชิ้นส่วนฯ บวกยกแผง โบรกเผย DELTA รีบาวด์แรง หลังประเมิน TISA ไม่จูงใจอย่างที่คิด

กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ภาพรวมตลาดหุ้นวันนี้ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยมีหุ้น DELTA เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ราคาหุ้นปรับขึ้น 3% กลายเป็นแรงหนุนสำคัญต่อทิศทางดัชนีหุ้นไทย

อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นเกิดจากแรงซื้อเก็งกำไรที่ไหลกลับเข้ามา หลังจากสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดสหรัฐฯ ปรับฐานเมื่อคืนที่ผ่านมา จากแรงกดดันของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น 
 

ขณะเดียวกัน วานนี้ (8 ธ.ค.2568)  หุ้น DELTA ถูกเทขายอย่างหนัก จนราคาหลุดระดับ 200 บาท หลังจากมีกระแสข่าวว่ามาตรการ TISA ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เตรียมเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ ส่งผลให้เกิดบรรยากาศเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และหุ้นที่เกี่ยวข้องปรับตัวลงมา ทำให้ในช่วงแรกตลาดกลับเห็นแรงขายในหุ้น DELTA และมีการโยกเม็ดเงินไปเข้าซื้อหุ้นตัวอื่นแทน

แต่ทว่า ภายหลังการประเมินรายละเอียดของมาตรการมากขึ้น มองว่า TISA อาจไม่ได้จูงใจสูงอย่างที่ตลาดคาดไว้ ซึ่งสิทธิในการลดหย่อนทางภาษีผู้มีรายได้มากกว่า 1.5 ล้านบาท อาจได้สิทธิลดหย่อนเพียงประมาณ 0.7 เท่า ขณะที่ผู้มีรายได้ต่ำกว่า อาจได้สิทธิลดหย่อนสูงกว่า ถึงประมาณ 1.3 เท่า ซึ่งตัวเลขค่อนข้างต่างกันมาก ส่วนเงื่อนไขการถือครองเงินลงทุนต้องยาวไปจนถึงอายุ 55 ปี ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับกองทุน RMF จึงลดความน่าสนใจ วันนี้จึงมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้น DELTA ส่งผลให้ราคาฟื้นตัวแรง

"แม้ราคาหุ้น DELTA จะปรับขึ้นมา 3% แต่ยังมีความเสี่ยงที่ราคาจะปรับตัวลงต่ำกว่า 200 บาท ได้อีก แต่ทว่าวันนี้ปรับขึ้นมาได้แล้วก็อาจจะต้องตั้งจุดตัดขาดทุน หรือ Stop Loss ให้เหมาะสม เนื่องจากราคาปรับขึ้นมาเร็ว"

สำหรับหุ้นกลุ่มอื่นที่อาจได้รับประโยชน์จาก TISA โดยเฉพาะ กลุ่มธนาคาร แนะนำให้เลือกเป็นรายตัว โดยให้น้ำหนักกับหุ้น SCB มากกว่า เนื่องจากราคายังปรับขึ้นน้อยเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่อื่น ๆ เช่น BAY, BBL และ KTB

อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังมีความตั้งใจผลักดัน TISA อย่างชัดเจน แต่รายละเอียดสุดท้าย โดยเฉพาะสิทธิประโยชน์ทางภาษี ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา และยังมีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ นักลงทุนจึงควรติดตามความชัดเจนของนโยบายอย่างใกล้ชิด