หุ้นไทยวันนี้ 8 ธ.ค.68 รอติดตามประชุมเฟด

หุ้นไทยวันนี้ 8 ธ.ค.68 รอติดตามประชุมเฟด

ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1260 – 1280 จุด โดยนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ หากผลการประชุมเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน จะเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญและมีโอกาสทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อได้

KEY

POINTS

  • ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1260 – 1280 จุด โดยนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
  • ตลาดหุ้น Dow Jones และราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและอุปสงค์
  • ข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE) ที่ออกมาตามคาด และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้น กดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับขึ้น ซึ่งสร้างแรงกดดันเล็กน้อยต่อตลาดหุ้นในระยะสั้นก่อนการประชุมเฟด
  • หากผลการประชุมเฟดส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน จะเป็นปัจจัยบวกที่สำคัญและมีโอกาสทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อได้
  • กลยุทธ์การลงทุนแนะให้จับตากลุ่มที่จะได้ประโยชน์หากดอกเบี้ยปรับลดลง เช่น กลุ่มการเงิน (MTC, SAWAD), อสังหาริมทรัพย์ (AP, SPALI) และค้าปลีก (CPALL, HMPRO) เพื่อรอรับสัญญาณจากเฟด

หุ้นไทยวันนี้ 8 ธ.ค.68 บล.พาย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 0.2% +104 จุด ตลาดคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.7% ได้ปัจจัยหนุนจากความคาดหวังอุปสงค์จะเร่งตัวขึ้นหาก FED ลดดอกเบี้ย
 

ทั้งนี้ วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ประกาศเงินเฟ้อ (PCE) พบว่า ขยายตัว 2.8%YoY ใกล้เคียงกับที่ Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ สอดคล้องกับเงินเฟ้อพื้นฐานที่ขยายตัว 2.8%YoY เป็นไปตามที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ 

ในขณะที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนได้รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคพบว่า ดีขึ้นจากครั้งก่อนและมากกว่าคาดการณ์ รายละเอียดภายในระบุว่าความเชื่อมั่นขยับดีขึ้นโดยเฉพาะในคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้พบว่าผู้บริโภคมีความคาดหวังเพิ่มมากขึ้น ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสถานะการเงิน จากเงินเฟ้อที่สอดคล้องกับคาดการณ์และยังอยู่ระดับสูงผสานกับความเชื่อมั่นปรับดีขึ้น กดดันให้ US Bond Yield ทยอยปรับขึ้น (ระยะสั้นสร้างแรงกดดันเล็กน้อยต่อตลาดหุ้นทั้งไทยและต่างประเทศ) 

สำหรับปัจจัยในประเทศยังมิได้มีปัจจัยอะไรที่มีนัยยะสำคัญทำให้ SET INDEX วันศุกร์ปิดทรงตัว (-0.08%) นักลงทุนหันไปให้น้ำหนักเป็นรายตัวมากกว่าอย่าง AOT ที่ปรับขึ้นเด่นจากความชัดเจนทั้ง King Power , การปรับขึ้นค่าบริการสนามบิน (PSC) หากปีหน้าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาจะเป็นปัจจัยเชิงบวกอย่างมากกับหุ้น AOT แต่อย่างไรก็ตามด้วยราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมา 5.5% ระยะสั้นอาจเผชิญแรงทำกำไรบ้างแต่การปรับตัวลงยังมองเป็นโอกาสท่ามกลางปัจจัยต่างๆที่คลี่คลาย 

คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญต้องติดตามแต่ระหว่างสัปดาห์เข้มข้นจากประชุม FED , ตำแหน่งเปิดรับสมัครงาน , คนขอรับสวัสดิการว่างงานรวมไปถึงประชุมคณะรัฐมนตรีของไทย วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1260-1280 ตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่ๆทำให้กรอบการเคลื่อนไหวอาจจำกัดแต่ก็มีปัจจัยหนุนสั้นๆ จากการกระตุ้นตลาดของรัฐมนตรีคลังพร้อมกับหากประชุม FED ส่งสัญญาณผ่อนคลายมองตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสขยับขึ้นต่อ 

ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนแนะหันไปมองหากลุ่มค้าปลีก (CPALL HMPRO) ที่ยัง Laggard ท่องเที่ยวที่ยัง Laggard (MINT) รวมไปถึงพวกศูนย์การค้า (CPN) กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยปรับลง (MTC SAWAD TIDLOR) อสังหาฯ (AP SPALI)