วิกฤตใหญ่ มหาอุทกภัย น้ำท่วมภาคใต้ เปิดหุ้นรับ-เสียประโยชน์ 

วิกฤตใหญ่ มหาอุทกภัย น้ำท่วมภาคใต้ เปิดหุ้นรับ-เสียประโยชน์ 

นักวิเคราะห์เผย หุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์น้ำท่วมคือกลุ่มซ่อมสร้างและวัสดุก่อสร้าง เช่น HMPRO, GLOBAL, DOHOME, TOA, TASCO และ SCC เนื่องจากความต้องการซ่อมแซมบ้านและโครงสร้างพื้นฐานหลังน้ำลด ส่วนกลุ่มที่คาดว่าจะเสียประโยชน์คือกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และการท่องเที่ยว แต่ผลกระทบโดยตรงประเมินว่าอยู่ในวงจำกัด เช่น CENTEL และ ERW มีการปิดบริการโรงแรมบางแห่งชั่วคราวซึ่งกระทบรายได้รวมเพียง 1-2%

KEY

POINTS

  • หุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์น้ำท่วมคือกลุ่มซ่อมสร้างและวัสดุก่อสร้าง เช่น HMPRO, GLOBAL, DOHOME, TOA, TASCO และ SCC เนื่องจากความต้องการซ่อมแซมบ้านและโครงสร้างพื้นฐานหลังน้ำลด
  • กลุ่มที่คาดว่าจะเสียประโยชน์คือกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และการท่องเที่ยว แต่ผลกระทบโดยตรงประเมินว่าอยู่ในวงจำกัด เช่น CENTEL และ ERW มีการปิดบริการโรงแรมบางแห่งชั่วคราวซึ่งกระทบรายได้รวมเพียง 1-2%
  • สถานการณ์น้ำท่วมส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการเดินทางของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียซึ่งเป็นตลาดหลัก โดยพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ลดลง 12% ในช่วงสัปดาห์ที่มีฝนตกหนัก
  • แม้ผลกระทบโดยตรงต่อ GDP ของประเทศจะไม่รุนแรงเท่ามหาอุทกภัยปี 2554 แต่น้ำท่วมได้ส่งผลกระทบเชิงลบต่อจิตวิทยาการลงทุนและสร้างความไม่แน่นอนทางการเมืองในช่วงใกล้เลือกตั้ง

ภาคใต้กำลังเผชิญสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ขยายวงกว้างและยาวนานกว่าที่หลายฝ่ายประเมินไว้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่เพียงกระทบต่อชุมชนและเศรษฐกิจท้องถิ่น แต่ยังส่งแรงสั่นสะเทือนมาถึงระดับประเทศ โดยเฉพาะต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่งกำลังเผชิญทั้งแรงกดดันจากปัญหาน้ำท่วมและความไม่แน่นอนทางการเมืองในช่วงใกล้เลือกตั้ง ทำให้ภาพรวมตลาดยังถูกกดดันจากปัจจัยลบหลายด้านและยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังคงติดขัดจากประเด็นน้ำท่วมภาคใต้ที่ยังมีความรุนแรงอยู่ในช่วงนี้ ทำให้นำไปสู่ความเชื่อมั่นทางการเมืองลดน้อยลงไปด้วย จึงทำให้หุ้นไทยไม่เฟอร์ฟอร์มเลย ณ ขณะนี้ 

แต่อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจจังหวัดสงขลา มีสัดส่วนแค่ 1 ใน 25 ของกรุงเทพฯ เท่านั้น จึงนำมาเทียบกับช่วงปี 2554 ไม่ได้ แต่ทว่า เริ่มมีสัญญาณที่ดีน้ำไม่ท่วมแล้ว ขณะที่กนง.หากมีสัญญาณว่าจะปรับลดดอกเบี้ยมากขึ้นก็อาจจะทำให้ดัชนีหุ้นไทยมีการกลับมารีบาวด์ขึ้นมาได้เร็ว 

"หากเทียบช่วงน้ำท่วมในราวปี 2554 ประมาณ 2 เดือน ดัชนีหุ้นไทยลงไปประมาณ 24% ถือว่าลงมาค่อนข้างเยอะ เนื่องจาก World Bank ออกมาบอกว่า เศรษฐกิจไทยมีความเสียหายเยอะ จึงคาดการณ์ที่ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท และในปีนี้ด้านหอการค้าคาดการณ์ไว้ที่น้ำท่วมนานในทุก ๆ 1 วัน จะทำให้เกิดความเสียหายประมาณ 1- 1.5 หมื่นล้านบาท ยังคงต้องเฝ้าติดตามต่อไปว่าจะท่วมนานหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติก็มีการชะลอตัวลงไปด้วย" 

สำหรับหุ้นที่ได้รับประโยชน์จะได้จากหุ้นซ่อมสร้างต่าง ๆ เช่น HMPRO GLOBAL DOHOME และกลุ่มทาสีบ้านหลังจากที่น้ำลดลงแล้วได้แก่หุ้น TOA รวมถึงกลุ่มซ่อมสร้างถนนที่ต้องใช้ปูนเยอะขึ้นได้แก่ TASCO SCC 

กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บล. ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เริ่มมีความกังวลต่อกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มอื่น ๆ เซนติเมนไม่ค่อยดี ต้องยอมรับว่าประเด็นเรื่องน้ำท่วมเป็นจิตวิทยาที่ทำให้การเมืองเกิดความไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นในช่วงที่ใกล้จะเลือกตั้ง ในช่วงแรกยังคงมองว่า พรรคภูมิใจไทยอาจจะได้รับคะแนนเสียงค่อนข้างมากแต่ทว่าในขณะนี้ทำให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้น เพราะอาจทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจจึงเกิดการขายหุ้นออกมาก่อน 

 "จิตวิทยาลบจากปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาค ผลกระทบจากน้ำท่วมต่อ GDP ไทยยังไม่มากนัก เนื่องจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบคิดเป็นไม่ถึง 10% ของ GDP แต่ส่งผลต่อ จิตวิทยาการลงทุนและคะแนนเสียงเลือกตั้งมากกว่า โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์เชิงจิตวิทยาระยะสั้น ได้แก่กลุ่มสร้างบ้าน เช่น GLOBAL HMPRO"

บล.กรุงศรี ระบุว่า สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่ายังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของภาคใต้ รวม 10 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยหลายพื้นที่ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

โดยประเมินผลกระทบต่อภาคโรงแรมและร้านอาหารอยู่ในระดับจำกัด 1–4% คาดว่าอยู่ในวงจำกัด โดยคำนวณจากจำนวนสาขาและโรงแรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งผลกระทบโดยตรงต่อโรงแรมถือว่าจำกัด มีเพียงสองบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการปิดให้บริการชั่วคราว CENTEL ปิดโรงแรม 1 แห่ง ราว 1% ของรายได้รวม และสาขาในธุรกิจอาหารได้รับผลกระทบ 27 แห่งจากทั้งหมด 1,390 สาขา ราว 1% ของรายได้ รวมผลกระทบประมาณ 2% ขณะที่ ERW ปิดโรงแรม Hop Inn ชั่วคราว 3 แห่งในสงขลา ราว 2% ของรายได้รวมจาก 87 แห่ง ส่วน MINT ไม่ได้รับผลกระทบในธุรกิจโรงแรม เนื่องจากไม่มีโรงแรมในพื้นที่ประสบภัย แต่มีร้านอาหารได้รับผลกระทบ 20 สาขา ต่ำกว่า 1% ของรายได้รวม

ขณะที่ผลกระทบต่อกลุ่มร้านอาหารยังคงจำกัดเช่นกัน สอดคล้องกับสัดส่วนสาขาที่ตั้งในพื้นที่น้ำท่วม AU ได้รับผลกระทบ 1 สาขาในหาดใหญ่ ราว 4% ของรายได้จาก 60 สาขา M ได้รับผลกระทบ 18 สาขาจากทั้งหมด 675 สาขา ราว 2–3% ของรายได้ และ ZEN ได้รับผลกระทบ 1 สาขา ต่ำกว่า 1% ของรายได้ โดยรวมแล้ว ร้านอาหารส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบจากความเสียหายโดยตรง แต่ได้รับแรงกดดันจากกำลังซื้อในพื้นที่ที่ชะลอตัวลงมากกว่า

อย่างไรก็ตาม แม้ผลกระทบต่อธุรกิจจะไม่รุนแรง แต่ความเสี่ยงสำคัญในช่วงสั้นคือผลต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจเดินทาง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดหลักคิดเป็น 14% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด สะสม 4.1 ล้านคน YTD

นอกจากนี้ ในสัปดาห์17–23 พ.ย.2568 จำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ลดลง 12% WoW จากเหตุฝนตกหนักและน้ำท่วมในช่วงสุดสัปดาห์ คาดว่ายอดนักท่องเที่ยวอาจชะลอต่อเนื่องอีก 1–2 สัปดาห์ ก่อนทยอยฟื้นกลับสู่ระดับปกติเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย

ทั้งนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" ได้รวบรวมหุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากอุทกภัยน้ำน้ำท่วม และกลุ่มที่คาดว่าอาจจะเสียประโยชน์ มีดังนี้ 

หุ้นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากอุทกภัยน้ำท่วมภาคใต้ 

บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLOBAL

  • วิทูร  สุริยวนากุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
  • หมวดธุรกิจ พาณิชย์
  • ผลตอบแทนราคา 5 วัน 11.11 %   
  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน  -13.91%
  • กำไร 9 เดือน 1,535 ล้านบาท
  • รายได้ 9 เดือน  24,571 ล้านบาท

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)หรือ HMPRO

  • วีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ
  • หมวดธุรกิจ พาณิชย์
  • ผลตอบแทนราคา 5 วัน +9.40%   
  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน  -7.25%
  • กำไร 9 เดือน 4,410 ล้านบาท
  • รายได้ 9 เดือน  52,862 ล้านบาท

บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA 

  • จตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
  • หมวดธุรกิจ วัสดุก่อสร้าง
  • ผลตอบแทนราคา 5 วัน +4.88%   
  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน  +3.20%
  • กำไร 9 เดือน 2,073 ล้านบาท
  • รายได้ 9 เดือน  16,194 ล้านบาท

บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC

  • ธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่
  • หมวดธุรกิจ วัสดุก่อสร้าง
  • ผลตอบแทนราคา 5 วัน  +1.92%   
  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน  -11.00%
  • กำไร 9 เดือน 17,767 ล้านบาท
  • รายได้ 9 เดือน  386,188 ล้านบาท

บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD

  • นำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
  • หมวดธุรกิจ วัสดุก่อสร้าง
  • ผลตอบแทนราคา 5 วัน -%   
  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน  +2.90%
  • กำไร 9 เดือน 744 ล้านบาท
  • รายได้ 9 เดือน  17,717 ล้านบาท

บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME

  • อดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา กรรมการผู้จัดการ
  • หมวดธุรกิจ พาณิชย์
  • ผลตอบแทนราคา 5 วัน -0.55%   
  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน  -10.78%
  • กำไร 9 เดือน 504 ล้านบาท
  • รายได้ 9 เดือน  22,337 ล้านบาท

บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK

  • ณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่
  • หมวดธุรกิจ บริการรับเหมาก่อสร้าง
  • ผลตอบแทนราคา 5 วัน -1.60%   
  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน  -20.13%
  • กำไร 9 เดือน 2,884 ล้านบาท
  • รายได้ 9 เดือน  34,784 ล้านบาท

บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON

  • ภาคภูมิ ศรีชำนิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม/กรรมการผู้จัดการใหญ่
  • หมวดธุรกิจ บริการรับเหมาก่อสร้าง
  • ผลตอบแทนราคา 5 วัน -2.59%   
  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน  -31.52%
  • กำไร 9 เดือน 1,017 ล้านบาท
  • รายได้ 9 เดือน  23,532 ล้านบาท

บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO

  • ชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่
  • หมวดธุรกิจ วัสดุก่อสร้าง
  • ผลตอบแทนราคา 5 วัน -3.45%   
  • ผลตอบแทนราคา 1 เดือน  +0.72%
  • กำไร 9 เดือน 1,025 ล้านบาท
  • รายได้ 9 เดือน  20,209 ล้านบาท

ขณะที่หุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมภาคใต้ ได้แก่ กลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร กลุ่มท่องเที่ยว แต่ทว่านักวิเคราะห์คาดว่าจะได้รับผลกระทบในวงจำกัดเท่านั้น 

วิกฤตใหญ่ มหาอุทกภัย น้ำท่วมภาคใต้ เปิดหุ้นรับ-เสียประโยชน์