หุ้นไทยเช้านี้เปิดบวก 2.73 จุด แรงหนุนเฟดจ่อลดดอกเบี้ย โบรกแนะน้ำท่วมใต้-การเมืองไทยยังเสี่ยง

หุ้นไทยเช้านี้เปิดบวก 2.73 จุด  แรงหนุนเฟดจ่อลดดอกเบี้ย โบรกแนะน้ำท่วมใต้-การเมืองไทยยังเสี่ยง

ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าเปิดบวก 2.73 จุด หรือ 0.22% มาอยู่ที่ระดับ 1,263.91 จุด โบรกเผยรับแรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม แต่ทว่าการปรับขึ้นของดัชนียังเป็นไปอย่างจำกัดและเคลื่อนไหวต่ำกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค เนื่องจากถูกกดดันจากปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศ ทั้งสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้และความไม่แน่นอนทางการเมือง

KEY

POINTS

  • ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าเปิดบวก 2.73 จุด หรือ 0.22% มาอยู่ที่ระดับ 1,263.91 จุด
  • ดัชนีได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีสัญญาณชะลอตัว
  • อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของดัชนียังเป็นไปอย่างจำกัดและเคลื่อนไหวต่ำกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค (Underperform) เนื่องจากถูกกดดันจากปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศ ทั้งสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้และความไม่แน่นอนทางการเมือง

ความเคลื่อนไหว "หุ้นไทย" ภาคเช้า ณ วันที่ 27 พ.ย.68 เปิดตลาดปรับเพิ่มขึ้น 2.73 จุด หรือ 0.22% อยู่ที่ 1,263.91 จุด มูลค่าการซื้อขาย 1,702.05 ล้านบาท

หุ้นไทยเช้านี้เปิดบวก 2.73 จุด  แรงหนุนเฟดจ่อลดดอกเบี้ย โบรกแนะน้ำท่วมใต้-การเมืองไทยยังเสี่ยง

ภราดร เตียรณปราโมทย์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายสายงานวิจัย บล.เอเชีย พลัส ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้มีรีบาวด์เล็กน้อยตามทิศทางตลาดโลก โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของดัชนีหุ้นไทยยังเป็นไปอย่างเชื่องช้า เพราะถูกถ่วงด้วยปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศ ทั้งความไม่มั่นใจทางการเมืองและสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ที่ยังส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง

"ความหวังเฟดลดดอกเบี้ยเริ่มทวีความชัดเจน FedWatch Tool ให้น้ำหนักคาดการณ์การลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นแตะ 80% ขณะที่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 7,000 ราย บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจแรงงานเริ่มอ่อนแรง หนุนความคาดหวังต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ขณะเดียวกัน ตลาดสหรัฐฯ โดยเฉพาะ NASDAQ มักเห็นการรีบาวด์ราว 5% เมื่อราคาปรับฐานลึกจนช่องว่างฝั่งขาขึ้นเปิดกว้าง ดังนั้นภาพรวมทั้งหมดช่วยดึงเม็ดเงินออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น"

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีแรงหนุนจากต่างประเทศ แต่ตลาดหุ้นไทยกลับเคลื่อนไหวต่ำกว่าภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง จากภัยน้ำท่วมภาคใต้ และปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมือง กดดันบรรยากาศลงทุนในประเทศ ทำให้ SET Underperform ชัดเจน เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเอเชียอย่างฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ที่มีเงินทุนไหลเข้าโดดเด่นที่สุดของปีในเดือนนี้ ซึ่งเป็นทิศทางปกติของตลาดเกิดใหม่เมื่อเฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ย

ขณะเดียวกัน หากสถานการณ์น้ำเริ่มคลี่คลาย และกนง. ส่งสัญญาณผ่อนคลายดอกเบี้ยมากขึ้น โอกาสที่ SET จะรีบาวด์เร็วขึ้นก็มีความเป็นไปได้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมสร้างและรับเหมาที่น่าจะได้ประโยชน์จากระยะฟื้นฟูหลังน้ำลด

วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า รายงาน Beige Book เมื่อคืนที่ผ่านมา สะท้อนภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อยู่ในระดับที่ยังไม่ชะลอแรง แต่ก็แผ่วลงจากช่วงต้นปี โดยภาคแรงงานมีสัญญาณการชะลอการจ้างงาน แต่ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการจ้างงานครั้งแรก ยังอยู่ในระดับต่ำ บ่งชี้ว่าบริษัทไม่เร่งปลดคนออก แต่ชะลอการจ้างงานแทนคนที่ลาออก 

ส่วนด้านราคาสินค้าเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง สะท้อนเงินเฟ้อยังไม่รุนแรงนัก ส่วนด้านการใช้จ่ายผู้บริโภคอ่อนตัวลง โดยฉพาะกลุ่มรายได้กลาง-ล่าง ด้านภาคธุรกิจ พบว่ารายงานยอดขายในภาคบริการและค้าปลีกทรงตัวถึงชะลอลงเล็กน้อย ขณะที่การผลิตและการลงทุนหลายเขตยังแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ จากรายงาน Beige Book พบว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงผ่อนลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ไม่รุนแรง ซึ่งถือเป็นแรงหนุนโอกาสที่ FED จะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 9-10 ธ.ค.นี้ ความน่าจะเป็นล่าสุดอยู่ที่ระดับ 82% ยังเป็นแรงบวกต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 

อย่างไรก็ดี ภาพรวมในประเทศอาจยังมีแรงกดดันจากภาวะน้ำท่วมหนักภาคใต้ ซึ่งเพิมแรงกดดันการดำเนินธุรกิจ, การบริโภค และปัญหาหนี้ต่างๆ จึงอาจทำให้ SET ยังอ่อนแอกว่าตลาดภูมิภาค โดยกลยุทธ์รอซื้อเมื่ออ่อนตัว เน้นกลุ่มที่คาดแนวโน้มกำไรยังเติบโต และมีการจ่ายปันผลในระดับทีน่าสนใจ  

สำหรับ หุ้นแนะนำวันนี้ BCP คาดกำไรปกติไตรมาส 4/68 กลับมาฟื้นตัวแกร่ง โดยเฉพาะธุรกิจการกลั่นที่ได้อานิสงส์ค่าการกลั่นเร่งตัวขึ้นมาก และเริ่มใช้งานระบบรับน้ำมันดิบจากเรือ VLCC ช่วยลดค่าขนส่ง 0.4 USD/bbl ตั้งแต่กลางเดือน ต.ค. และการประกาศซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 1.1 พันล้านบาท ถือเป็นโมเมนตัมเชิงบวกต่อราคาหุ้น ท่ามกลาง Valuation ปัจจุบันที่เทรดเพียง PBV 0.6 เท่า ราคาเป้าหมาย 36 บาท