ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 650 จุด ความหวังเฟดลดดอกเบี้ยหนุนตลาดหุ้น

ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 650 จุด ความหวังเฟดลดดอกเบี้ยหนุนตลาดหุ้น

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 650 จุด เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำสถิติปรับขึ้นต่อเนื่องกัน 3 วัน ความหวังลดดอกเบี้ยเดือนธันวาคมหนุนตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

ซีเอ็นบีซี รายงาน ดัชนีดาวโจนส์  Dow Jones Industrial Average ปิดบวกในวันอังคาร (25 พ.ย.68) หลังจากทำผลงานชนะอีกหนึ่งวัน โดยนักเทรดประเมินความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดดอกเบี้ย และจับตาธีมการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI)

ดัชนีบลูชิพเพิ่มขึ้น 664.18 จุด หรือ 1.43% ปิดที่ 47,112.45 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 บวก 0.91% ปิดที่ 6,765.88 จุด และแนสแด็ก Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.67% ปิดที่ 23,025.59 จุด ถือเป็นการพลิกฟื้นจากช่วงต้นวันที่ติดลบ โดยช่วงต่ำสุดระหว่างวัน S&P 500 ลดลงราว 0.7% ส่วนดาวโจนส์และ Nasdaq ที่เน้นหุ้นเทคฯ ลดต่ำลงมากกว่า 100 จุด (ประมาณ 0.2%) และมากกว่า 1% ตามลำดับ

นักลงทุนยังคงรอข่าวที่อาจมีผลต่อการตัดสินใจนโยบายการเงินรอบหน้า ตลาดให้น้ำหนักเกือบ 83% ต่อการที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม ตามเครื่องมือติดตามเฟด CME FedWatch

ความคาดหวังได้รับแรงหนุนเล็กน้อยหลังมีรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ว่า เควิน แฮสเซ็ตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติทำเนียบขาว ถูกมองว่าเป็นแคนดิเดตตัวเต็งสำหรับตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไป ซึ่งนักลงทุนมองว่าเขามีแนวโน้มผลักดันนโยบายดอกเบี้ยต่ำ สอดคล้องกับจุดยืนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่รัฐมนตรีคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ ให้สัมภาษณ์ ซีเอ็นบีซี ว่า “มีโอกาสสูงมาก” ที่ทรัมป์จะ “ประกาศเรื่องดังกล่าวก่อนคริสต์มาส”

โอกาสดังกล่าวพุ่งขึ้นหลังจากประธานเฟดนิวยอร์ก จอห์น วิลเลียมส์ กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า มีช่องให้ลดดอกเบี้ยได้ “ในระยะใกล้”

“ก่อนวันศุกร์ ความน่าจะเป็นที่เฟดจะลดดอกอยู่ที่ 40% ตอนนี้ขึ้นมาเป็น 80% ผมไม่เคยเห็นความผันผวนของความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยของเฟดในช่วงไม่กี่วันแบบนี้มาก่อน ตลาดกำลังโฟกัสสุดๆ กับประเด็นนี้” รอน อัลบาฮารี ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ LNW กล่าว “ผมทำนายอนาคตไม่ได้ แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์กำลังโน้มเอียงไปทางการลดดอกเบี้ยของเฟดวันที่ 10 ธ.ค. ซึ่งจะหนุนให้เกิดซานตาคลอสแรลลี ‘Santa Claus rally’”

หุ้นอัลฟาเบทโดดเด่น

Alphabet เป็นหุ้นผู้ชนะในรอบการซื้อขายวันอังคาร ปิดบวก 1.5% และทำจุดสูงสุดใหม่ หลังจาก The Information รายงานโดยอ้างแหล่งข้อมูลว่า Meta Platforms กำลังพิจารณาใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อซื้อชิป AI จาก Alphabet

"เมื่อต้นทุนการประมวลผล (compute) ถูกลงไป จะเพิ่มการบริโภคหรือไม่? ใช่ มันน่าจะเพิ่มการบริโภคและความต้องการ เราเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นจริง ๆ ในเวลาจริงเมื่อ Meta ซื้อชิปจาก Google" อัลบาฮารีกล่าวกับซีเอ็นบีซี "ผมคิดว่านี่เป็นสัญญาณดีสำหรับธีม AI ในวงกว้าง"

ระหว่างที่ Meta กำลังพิจารณาซื้อชิป Alphabet และการประกาศของ Alphabet เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับโมเดล AI ที่อัปเกรดขึ้นเป็น Gemini 3 ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนมั่นใจว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะได้ประโยชน์จาก AI เขาระบุว่าต้นทุนการประมวลผลที่อาจลดลงจากนี้ไปจะทำให้บริษัทนอกภาคเทคโนโลยีสามารถ "ใช้ประโยชน์จากการเพิ่มผลผลิตและขับเคลื่อนการเติบโตของกำไร" ได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม หุ้น Nvidia ร่วงมากกว่า 2% หลังรายงานดังกล่าว นักลงทุนอาจมองนี่เป็นสัญญาณว่าความเป็นผู้นำของบริษัทในอุตสาหกรรมชิป AI อาจถูกคุกคาม

"สิ่งที่ผมกังวลมากกว่า หรือกำลังคิดอยู่ คือผลกระทบลำดับที่สองต่อผู้เล่นรายใหญ่เช่น Microsoft และ Amazon" อัลบาฮารีเสริม "นี่เป็นช่วงเวลาที่คุณอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงในผู้นำอุตสาหกรรมจากผู้เล่นอย่าง Nvidia หรือไม่?"

ราคาหุ้น Alphabet เพิ่มขึ้นมากกว่า 6% ในวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นวันที่ Nasdaq ทำผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม

นักลงทุนเข้าซื้อหนุนหุ้นสมาชิกกลุ่มเจ็ดนางฟ้า “Magnificent Seven” รวมถึง Broadcom ซึ่งเกี่ยวโยงกันผ่านธุรกิจชิปประสิทธิภาพสูงแบบเฉพาะงาน หรือ ASIC

แม้หุ้นจะฟื้นตัวกลับมาบางส่วนจากที่ร่วงลงเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ดัชนีหลักของสหรัฐฯ ทั้งสามยังมีแนวโน้มปิดลบในเดือนนี้ เนื่องจากนักลงทุนตั้งคำถามต่อมูลค่าหุ้นเทคโนโลยี  ดัชนีS&P 500 ลดลงราว 1% ในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ Nasdaq ร่วงประมาณ 3% ส่วนดาวโจนส์ 30 หุ้นใหญ่ ลดลงราว 1% ตั้งแต่ต้นเดือนจนถึงปัจจุบัน