ดาวโจนส์ปิดตลาดพุ่งขึ้นเฉียด 500 จุด เฟดฟื้นความหวังลดดอกเบี้ย

ดาวโจนส์ปิดตลาดพุ่งขึ้นเฉียด 500 จุด เฟดฟื้นความหวังลดดอกเบี้ย

ดาวโจนส์ปิดตลาดดีดขึ้นราว 500 จุด ท่ามกลางการฟื้นตัวของตลาดครั้งใหญ่ หลังจากถูกเทขายอย่างหนักในสัปดาห์นี้ กรรมการเฟดฟื้นความหวังลดดอกเบี้ยเดือนหน้าส่งหุ้นขึ้น

ซีเอ็นบีซี รายงานดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ฟื้นตัวขึ้นในวันศุกร์ (21 พ.ย.68) หลังจากที่นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ระบุว่าธนาคารกลางอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้

ดัชนีบลูชิพ Dow Jones Industrial Averageเพิ่มขึ้น 493.15 จุด หรือ 1.08% ปิดที่ 46,245.41 จุด ดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต Nasdaq Composite

เพิ่มขึ้น 0.88% ปิดที่ 22,273.08 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.98% ปิดที่ 6,602.99 จุด

"ผมมองว่านโยบายการเงินยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างตึงตัว แม้ว่าจะน้อยลงกว่าเดิม หลังจากการดำเนินการล่าสุดของเรา" วิลเลียมส์ระบุในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงซานติอาโก ประเทศชิลี "ดังนั้น ผมยังเห็นว่ามีช่องว่างสำหรับการปรับเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพิ่มเติมในระยะใกล้ เพื่อให้นโยบายเข้าใกล้ระดับความเป็นกลางมากขึ้นและรักษาความสมดุลระหว่างเป้าหมายสองประการของเรา"

ความคิดเห็นของสมาชิกเฟดคนสำคัญอย่างวิลเลียมส์ ส่งสัญญาณต่อนักลงทุนว่า ผู้นำของธนาคารกลางมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนมาตรฐานในการประชุมเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าเป็นครั้งที่สามในปี 2568

ปัจจุบัน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดอกเบี้ยเฟดกำลังประเมินโอกาสมากกว่า 70% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากโอกาสน้อยกว่า 40% ที่เคยประเมินไว้ในวันก่อนหน้า ตามข้อมูลของเครื่องมือติดตามเฟด FedWatch ของ CME

หุ้นที่อาจได้รับประโยชน์สูงสุดจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ซึ่งอาจกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค เป็นตัวขับเคลื่อนการฟื้นตัวของตลาด ซึ่งรวมถึง Home Depot, Starbucks และ McDonald’s

นักลงทุนหวังว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลงจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซา และสนับสนุนการประเมินมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่สูงเป็นประวัติการณ์

“เราคิดว่าควรมีการปรับลดอย่างแน่นอน” เจย์ แฮตฟิลด์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Infrastructure Capital Advisors กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี “มันขึ้นอยู่กับรายงานการจ้างงานครั้งต่อไป ผมคิดว่าคงต้องอ่อนแอมากทีเดียวถึงจะโน้มน้าวให้ลดดอกเบี้ย”

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทกำลังฟื้นตัวจากภาวะตลาดผันผวนอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 700 จุดในวันพฤหัสบดี ขณะที่นักลงทุนต่างแสดงความยินดีกับรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สามของปีงบประมาณของ Nvidia ที่โดดเด่น  แต่ดัชนีดาวโจนส์  S&P 500 และแนสแด็กปิดตลาดลดลงแรง เพราะหุ้น Nvidia พลิกกลับมาร่วงกว่า 3% ขณะที่นักลงทุนกังวลว่าเฟดอาจยังไม่ลดดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม

แม้จะฟื้นตัวในวันศุกร์ แต่ดัชนีหลักทั้งสามยังคงลดลงอย่างหนักในสัปดาห์นี้ ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดลดลงประมาณ 2%  เช่นเดียวกับดัชนีดาวโจนส์  ส่วนดัชนี Nasdaq ลดลง 2.7% ในช่วงเวลาดังกล่าว

ส่วนฟองสบู่ของตลาดกำลังแตก

เมื่อกล่างถึงแรงกดดันล่าสุด แฮตฟิลด์ เชื่อว่า “นี่เป็นการหดตัวของมูลค่าตามปกติตามฤดูกาลหลังการประกาศผลประกอบการ” และเสริมว่า “ส่วนฟองสบู่ของตลาดกำลังถูกทำลาย” 

ด้านบิตคอยน์ลดลงมากกว่า 2% ในวันศุกร์ ทำให้ร่วงลงล่าสุดในสัปดาห์นี้อยู่ที่เกือบ 11% สกุลเงินดิจิทัลนี้ร่วงลงสู่ระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่เดือนเมษายน เนื่องจากนักลงทุนได้ลดการรับความเสี่ยงในตลาดลง

“คำถามที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวคือ ‘เราจะถึงจุดต่ำสุดตรงไหน’” แฮตฟิลด์ กล่าวถึงภาพรวมของตลาด