ก.ล.ต. สั่งถอนสิทธิ พาย แอ๊ดไวเซอรี่ ยุติบทบาท FA และผู้ควบคุมงาน

ก.ล.ต. สั่งถอนสิทธิ พาย แอ๊ดไวเซอรี่ ยุติบทบาท FA และผู้ควบคุมงาน

ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบ “พาย แอ๊ดไวเซอรี่”และผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน “สัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ” ในการเป็น FA เวลา 10 ปีเหตุบกพร่องทำหน้าที่

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบ ในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท พาย แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด(บริษัท พาย) และผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน นายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ เป็นเวลา 10 ปี (นายสัมฤทธิ์ชัย) เนื่องจากบกพร่องในการปฏิบัติงานในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่บริษัทมหาชนที่ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (คำขออนุญาต IPO)

ก.ล.ต. ตรวจสอบพบว่า บริษัท พาย และนายสัมฤทธิ์ชัย บกพร่องอย่างร้ายแรงในการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการร่วมยื่นคำขออนุญาต IPO ของบริษัทมหาชนจำกัด* โดยมีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึงการมีเจตนาไม่สุจริต ให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทที่จะทำ IPO ในการปกปิดข้อเท็จจริงซึ่งอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อการพิจารณาคำขออนุญาต IPO ของ ก.ล.ต. หรือต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุน

รวมทั้งพบว่ามีเจตนาปกปิดข้อมูลเงื่อนไขของการสิ้นสุดสัญญาการเป็นตัวแทนนายหน้าซึ่งเป็นธุรกิจหลักและเป็นรายการที่มีนัยสำคัญของบริษัทที่จะทำ IPO โดยแจ้งข้อมูลเฉพาะส่วนที่เป็นคุณแก่บริษัท ทั้งที่ผู้ควบคุมการปฏิบัติงานทราบถึงเงื่อนไขที่กำหนดเพิ่มเติมระหว่างบริษัทที่จะทำ IPO กับคู่สัญญาที่ระบุให้สัญญาการเป็นตัวแทนนายหน้าดังกล่าวสิ้นสุดทันทีภายหลังจากที่ครบกำหนดของการขยายระยะเวลาของสัญญาแต่กลับปกปิดเงื่อนไขดังกล่าว โดยแจ้งเฉพาะความคืบหน้าในการต่อสัญญาเท่านั้น ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวเป็นเงื่อนไขที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้บริษัทที่จะทำ IPO สูญเสียค่าตอบแทนที่จ่ายไปล่วงหน้าและกระทบต่อฐานะการเงินรวมถึงผลการดำเนินงาน  

รวมทั้ง ยังพบข้อบกพร่องจากการปฏิบัติหน้าที่โดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือขาดความระมัดระวังรอบคอบอย่างมากในการตรวจสอบหรือสอบทานข้อมูลที่สำคัญ (due diligence) ของบริษัทที่จะทำ IPO ดังกล่าวในอีกโครงการหนึ่ง โดยผู้ควบคุมการปฏิบัติงานไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลรายการทางการเงินที่น่าสงสัย (red flags) และ

ขาดความระมัดระวังในการตรวจสอบธุรกรรมการซื้อขายของบริษัทที่จะทำ IPO ว่าเป็นรายการซื้อขายจริง (true transaction) ทั้งที่เงินมัดจำในโครงการดังกล่าวในขณะที่ยื่นคำขออนุญาต IPO มีมูลค่าเกือบร้อยละ 20 ของสินทรัพย์รวมของบริษัท จึงเป็นทรัพย์สินที่สำคัญที่บริษัทใช้ในการประกอบธุรกิจ รวมถึงการไม่วิเคราะห์และเปิดเผยความเสี่ยงในการทำสัญญาตัวแทนนายหน้า อันทำให้บริษัทที่จะทำ IPO มีโอกาสจะสูญเสียเงินมัดจำจากการทำสัญญาดังกล่าวในจำนวนที่มีนัยสำคัญทั้งจำนวน

นอกจากนี้ ยังพบข้อบกพร่องในเรื่องที่มีนัยสำคัญมาก โดยมีพฤติกรรมแสดงถึงการขาดความระมัดระวังรอบคอบอย่างมากในการตรวจสอบหรือสอบทานข้อมูลที่สำคัญ (due diligence) ของบริษัทที่จะทำ IPO ในประเด็นการทำธุรกรรมของบริษัทย่อยซึ่งมีความเสี่ยงในการสูญเสียเงินมัดจำ การใช้ทรัพยากรของบริษัทเพื่อประโยชน์ส่วนตัวของผู้บริหารโดยไม่มีนโยบายรองรับ การไม่ตรวจสอบความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของธุรกิจส่วนตัวของกรรมการและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ การไม่ตรวจสอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายของบริษัทจากกิจกรรมทางการตลาดหรือ Business Model ใหม่ และการไม่ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของการจ้าง sub contract ซึ่งการไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบหรือสอบทานข้อมูลที่สำคัญข้างต้นของผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน ส่งผลให้มีข้อสังเกตเกี่ยวกับความเหมาะสมและเพียงพอของระบบควบคุมภายในของบริษัทที่จะทำ IPO ดังกล่าว

รวมทั้งความครบถ้วนถูกต้องของการเปิดเผยข้อมูลในแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนสำหรับเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนของบริษัทที่จะทำ IPOด้วยข้อบกพร่องที่ตรวจพบข้างต้นแสดงถึงการปฏิบัติงานที่บกพร่องของผู้ควบคุมการปฏิบัติงานอย่างร้ายแรง โดยไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานและจรรยาบรรณเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพพึงกระทำตามที่กฎหมายกำหนด

รวมทั้งแสดงถึงความบกพร่องของระบบในการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้ควบคุมการปฏิบัติงานในสังกัดบริษัท พาย ซึ่งไม่สามารถควบคุมให้การปฏิบัติงานเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เป็นไปตามมาตรฐานและจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ

ก.ล.ต. จึงสั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท พาย และผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน นายสัมฤทธิ์ชัย เป็นระยะเวลา 10 ปี โดยกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้ควบคุมการปฏิบัติงานในครั้งต่อไป** เมื่อพ้นระยะเวลา 10 ปีนับแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568

อนึ่ง ที่ปรึกษาทางการเงินมีบทบาทสำคัญในการคัดเลือกและกลั่นกรองคุณภาพของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดูแลให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลให้ครบถ้วน ถูกต้อง ไม่ทำให้สำคัญผิด และเพียงพอต่อการตัดสินใจลงทุน ซึ่งผลงานของที่ปรึกษาทางการเงินมีความสำคัญอย่างมากกับผู้ลงทุนและผู้เกี่ยวข้องในวงกว้าง ดังนั้น ที่ปรึกษาทางการเงินจึงต้องปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานในการปฏิบัติงานของผู้ประกอบวิชาชีพและรักษาจรรยาบรรณวิชาชีพ