NASDAQ ร่วงหนักปิดลบ 2% หลังแรงเทขายฉับพลันในกลุ่มเอไอ Nvidia

ซีเอ็นบีซี รายงานหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงแรงในวันพฤหัสบดี (20 พ.ย.68) เนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดโดยรวมที่เกิดจากผลประกอบการและแนวโน้มของ Nvidia ที่แข็งแกร่งเริ่มหมดแรง และนักลงทุนหมดความหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ลดลง 386.51 จุด หรือ 0.84% ปิดที่ 45,752.26 จุด หลังจากพุ่งขึ้นกว่า 700 จุดในช่วงสูงสุดของวัน 

ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 1.56% ปิดที่ 6,538.76 จุด แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นมากถึง 1.9% ในช่วงต้นวัน ดัชนีแนสแด็ก Nasdaq Composite ร่วงลงแรง 2.16% ปิดที่ 22,078.05 จุด ลดลงจากช่วงหนึ่งที่ปรับตัวขึ้น 2.6%

การกลับตัวของ ราคาหุ้นNvidia ฉุดตลาดหุ้นโดยรวมให้ปรับตัวลดลง ราคาหุ้นพุ่งขึ้นถึง 5% หลังจากที่ผู้ผลิตชิปรายนี้ประกาศผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และคาดการณ์ยอดขายในไตรมาสที่สี่ที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ในที่สุดราคาหุ้นก็ปิดตัวลดลง 3% แม้ว่าซีอีโอ เจนเซน ฮวง จะยืนยันว่าความต้องการชิป Blackwell รุ่นปัจจุบันนั้น “สูงเกินคาด” เขายังปฏิเสธแนวคิดเรื่องฟองสบู่ AI อีกด้วย

แต่ความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้น AI กลับกลับมาอีกครั้ง โดยนักลงทุนต่างกังวลถึงผลกระทบต่อภาคส่วนนี้ หากเฟดไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 

Oracle และ AMD เป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่ม AI แรกๆ ที่ราคาหุ้นลดลง ตามมาด้วย Nvidia

จ้างงานสหรัฐดีเกินคาด ฉุดโอกาสลดดอกเบี้ย

อีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันให้ราคาหุ้นตกคือรายงานการจ้างงานเดือนกันยายนที่ล่าช้าเนื่องจากการปิดเมือง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 119,000 ตำแหน่ง เป็นระดับที่มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ 

จากข้อมูลดังกล่าว ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดอกเบี้ยเฟดล่าสุดชี้ให้เห็นว่ามีโอกาสน้อยกว่า 40% ที่ธนาคารกลางจะลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สามในเดือนหน้า ซึ่งเป็นปัจจัยลบสำหรับนักลงทุนที่คาดหวังอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงอีกครั้งในปีนี้

“ความร้อนแรงของ Nvidia กำลังดับวูบลงจากความน่าจะเป็นที่ลดลงของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม” เจฟฟ์ คิลเบิร์ก จาก KKM Financial กล่าว “ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม แต่สถานการณ์ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปแล้ว”

การเปลี่ยนแปลงในวันพฤหัสบดีนี้ สืบเนื่องจากเดือนซื้อขายหุ้นที่ค่อนข้างอ่อนแอสำหรับการซื้อหุ้น AI และตลาดโดยรวม  เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาหุ้นปรับขึ้นไปมากในปีนี้ 

หุ้น Nvidia  มีแนวโน้มที่จะลดลงเกือบ 11%  เมื่อสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายนซึ่งเป็นเดือนที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม

หุ้น Walmart สามารถรักษาระดับราคาไว้ได้ โดยเพิ่มขึ้นประมาณ 6% ในวันพฤหัสบดี หลังจากยอดขายและรายได้ในไตรมาสที่สามของปีงบประมาณที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การเคลื่อนไหวของ Walmart ซึ่งถือเป็นหุ้นที่มั่นคงในทุกสภาวะเศรษฐกิจ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขายหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงออก เพื่อไปลงทุนกลุ่มหุ้นปลอดภัย

"ตลาดต้องใช้เวลาพอสมควรในการย่อยและตัดสินใจว่าจะวางสถานะอย่างไร ในเรื่องการเลือกระหว่างหุ้นเติบโต  กับหุ้นคุณค่า และการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเทียบกับสินทรัพย์ที่ลดความเสี่ยง" โทมัส มาร์ติน ผู้จัดการพอร์ตอาวุโสที่ Globalt Investments กล่าวกับซีเอ็นบีซี