นิกเกอิร่วง 3.1% จาก 3 ปัจจัยลบ 'หุ้นเทคแพง-บอนด์ยีลด์พุ่ง-พิพาทจีน'

นิกเกอิร่วง 3.1% จาก 3 ปัจจัยลบ 'หุ้นเทคแพง-บอนด์ยีลด์พุ่ง-พิพาทจีน'

หุ้นญี่ปุ่นเผชิญแรงเทขายหนัก ฉุดดัชนีนิกเกอิร่วง 3.1% จาก 3 ปัจจัยลบ ตลาดกังวลหุ้นเทคแพง แผนกระตุ้นเศรษฐกิจทาคาอิจิดันบอนด์ยีลด์พุ่ง จับตาข้อพิพาทญี่ปุ่น-จีน

บลูมเบิร์กรายงานตลาดหุ้นญี่ปุ่นเผชิญกับการ ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องและรุนแรง โดยดัชนีหลักอย่าง Nikkei 225 ดิ่งลงถึง 3.1% สู่ระดับ 48,788.95 จุด และดัชนี Topix ลดลง 2.7% เหลือ 3,256.84 จุด สาเหตุหลักมาจากความกังวลหลายประการที่ทำให้นักลงทุนพากันเทขายสินทรัพย์เสี่ยง

3 ปัจจัยฉุดตลาดดิ่ง 

  • ตลาดมอง ‘หุ้นเทค’ แพงเกิน 

นักลงทุนเริ่มกังวลว่าราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและ  AI นั้นพุ่งขึ้นสูงจนเกินจริง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดัชนี Topix ร่วงลง นำโดยSoftBank Group ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนด้านเทคโนโลยีรายใหญ่ ร่วงลงมากถึง 7.6% รวมทั้งราคาหุ้น Furukawa Electric, Sumitomo Electric และ Fujikura ก็ปรับตัวลดลง

ยูทากะ มิอุระ นักวิเคราะห์จาก Mizuho Securities กล่าวว่าความกังวลและความเสี่ยงในตลาดอาจจะลดลงหากประกอบการของบริษัท Nvidia ที่จะประกาศในวันพุธนี้ทำผลงานได้ดีกว่าคาด เนื่องจากราคาหุ้นเทคโนโลยีในปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูงใกล้ทำสถิติใหม่ ทำให้ตลาดมีความคาดหวังสูงมาก หากผลประกอบการของ Nvidia ออกมาน่าผิดหวัง จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการเทขายหุ้นครั้งใหญ่และรุนแรงขึ้น

  • บอนด์ยีลด์พุ่งสูง

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุยาวดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของนายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ อาจมีมูลค่ารวมสูงถึง 17 ล้านล้านเยน หรือราว 3.56 ล้านล้านบาท ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อสถานะทางการเงินและหนี้สินของประเทศ

สถานการณ์นี้ทำให้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 40 ปี พุ่งขึ้น 0.8% มาอยู่ที่ 3.68% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการเปิดตัวพันธบัตรนี้ในปี 2550

  • ข้อพิพาท 'ญี่ปุ่น-จีน'

ความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและจีนเริ่มเข้าสู่ภาวะตึงเครียด หลังเกิดวิวาทะระหว่างกัน ความตึงเครียดเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น ได้เสนอแนะในที่ประชุมรัฐสภาของญี่ปุ่นว่า ญี่ปุ่นอาจตอบโต้ด้วยกำลังทางทหาร หากจีนโจมตีไต้หวัน  โดยนักการทูตระดับสูงของทั้ง 2 ประเทศมีกำหนดพบกันที่ปักกิ่งในวันนี้ (18 พ.ย.)

โทโมะ คิโนชิตะ นักกลยุทธ์ตลาดโลกจากบริษัท อินเวสโก (Invesco) ได้ให้ความเห็นถึงสถานการณ์ตลาดญี่ปุ่นในปัจจุบันว่า เกิดจากความกังวลหลัก 2 ประการ คือ ความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินของรัฐบาลญี่ปุ่น และความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการทูตระหว่างญี่ปุ่นและจีน ปัจจัยลบเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบพร้อมกันต่อตลาดการเงินถึง 3 ด้าน ได้แก่ “แรงขายหุ้น เงินเยนอ่อนค่า ราคาพันธบัตรลดลง”