ดาวโจนส์ปิดร่วงมากกว่า 550 จุด Nvidia และหุ้นเทคโนโลยีฉุดดัชนีลง

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงในวันจันทร์ ดาวโจนส์ร่วงมากกว่า 550 จุด หุ้นเทคฯร่วงลงอีกครั้ง วอลล์สตรีทรอข้อมูลสำคัญในสัปดาห์นี้ รวมผลประกอบการ Nvidia จ้างงานเดือนก.ย.
ซีเอ็นบีซี รายงานดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวันจันทร์ (17 พ.ย.68) ที่ผ่านมาลดลงกว่า 550 จุด ท่ามกลางแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Nvidia ในขณะที่วอลล์สตรีทกำลังรอรายงานผลประกอบการสำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงรายงานผลประกอบการของ Nvidia และข้อมูลการจ้างงานเดือนกันยายน
ดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ร่วง 557.24 จุด หรือ 1.18% ปิดที่ 46,590.24 จุด จากแรงขายหุ้น Nvidia, Salesforce และ Apple ที่ฉุดดัชนีกลุ่มบลูชิปลดลง
ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.92% ปิดที่ 6,672.41 จุด และแนสแด็ก Nasdaq Composite ดิ่ง 0.84% ปิดที่ 22,708.07 จุด
ราคาหุ้น Nvidia ร่วงลงเกือบ 2% ก่อนประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ซึ่งมีกำหนดหลังปิดตลาดวันพุธนี้ หุ้นกลุ่มชิป AI และบริษัทที่เกี่ยวข้องถูกกดดันจากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่สูงเกินจริง ขณะที่ Blue Owl Capital ซึ่งเป็นผู้ให้กู้เอกชน ลดลงเกือบ 6% เนื่องจากนักลงทุนกังวลเรื่องการปล่อยกู้ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างศูนย์ข้อมูล AI ในปัจจุบัน
รอสส์ เมย์ฟิลด์ นักกลยุทธ์การลงทุนจาก Baird ระบุว่า “สิ่งสำคัญสำหรับ Nvidia คือการยืนยันว่าความต้องการยังคงมีอยู่และยังไม่เห็นสัญญาณชะลอตัว แต่ถ้าไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม คำถามถัดไปที่ยังค้างคาอยู่ก็คือ ‘เรารู้ว่ามีความต้องการด้านการประมวลผล แล้วผลตอบแทนจากการลงทุนของบริษัทที่ซื้อชิปเหล่านี้คืออะไร?’”
เขาเสริมว่า “ถ้า Nvidia ให้คำแนะนำหรือคาดการณ์เกี่ยวกับความต้องการที่ดูน้อยกว่าคาด ตลาดก็จะตอบรับในแง่ลบ”
หลังจาก Nvidia, บริษัท Walmart จะรายงานผลประกอบการก่อนเปิดตลาดในวันพฤหัสบดี ซึ่งอาจสะท้อนถึงสภาพการใช้จ่ายของผู้บริโภคและชี้ให้เห็นว่าการใช้จ่ายมีความแตกต่างกันในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งหรือไม่
เมย์ฟิลด์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “หุ้นกลุ่มผู้บริโภค โดยเฉพาะเมื่อขาดข้อมูลตลาดแรงงานบางส่วน จะมีความสำคัญอย่างมากต่อทิศทางตลาดในช่วงเทศกาลปลายปีนี้”
นักลงทุนยังจับตารายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมเดือนกันยายนในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นข้อมูลชุดแรกหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯเปิดทำการอีกครั้งหลังจากปิดทำการบางส่วน รายงานฉบับนี้ รวมถึงรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประจำเดือนตุลาคม ซึ่งแม้อาจไม่สดใหม่มากนัก แต่ก็จะช่วยให้ตลาดมีความชัดเจนขึ้นในช่วงที่ข้อมูลเศรษฐกิจยังมีจำกัดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ตลาดได้ลดความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในการประชุมรอบสุดท้ายของปีในเดือนหน้า ขณะนี้นักลงทุนในตลาดฟิวเจอร์ คาดการณ์โอกาสลดดอกเบี้ยเพียงราว 45% ลดลงอย่างมากจากโอกาสกว่า 90% เมื่อเดือนก่อน ตามข้อมูลจาก CME FedWatch
- หุ้นอัลฟาเบทปรับขึ้นหลังเบิร์กเชียร์ของบัฟเฟตต์เข้าซื้อ
ในขณะที่ Alphabet กลายเป็นจุดเด่นในวันจันทร์ หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้น 3.1% เนื่องจาก Berkshire Hathaway ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ เปิดเผยว่าได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทแม่ Google และ YouTube นักลงทุนต่างมีความมั่นใจว่า Berkshire ยังเห็นคุณค่าในหุ้นกลุ่ม AI แม้ราคาจะปรับขึ้นแรงในปีนี้ โดยคาดว่าการตัดสินใจซื้อน่าจะมาจากผู้จัดการฝ่ายลงทุนของ Berkshire มากกว่าตัวบัฟเฟตต์ เอง
ในทางตรงกันข้าม บิตคอยน์ ร่วงลงกว่า 2% สะท้อนถึงนักลงทุนลดความเสี่ยงลงและความเชื่อมั่นของนักลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนแอลง สกุลเงินดิจิทัลนี้ร่วงต่ำกว่าระดับ 95,000 ดอลลาร์ในวันศุกร์ที่ผ่านมา
จากความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในวันนี้ ดัชนี S&P 500 ลดลงกว่า 2% แล้วในเดือนพฤศจิกายน หลังจากที่ปรับขึ้นติดต่อกัน 6 เดือน ดัชนีนี้อยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลกว่า 3% ส่วน Nasdaq ที่เน้นหุ้นเทคโนโลยีกลับปรับลดลงมากกว่า 5% จากจุดสูงสุด ด้านหุ้นเทคโนโลยีใน ดัชนี S&P 500 เดือนนี้ลดลง 5% และร่วงลงเกือบ 7% จากจุดสูงสุดที่ผ่านมา







