OKJ กำไร Q3/68 วูบ 71 % ที่ 17 ล้าน ตัวเลข SSSG -23.0 % เผชิญการแข่งขันสูง

OKJ รายงานกำไร Q/68 ที่ 17 ล้านบาท ลดลงหนัก 71 % จากการขายของสาขาเดิม (SSSG) -23.0 % สาเหตุหลักจากการลดลงของยอดขายสาขาในเมืองและสาขาในโซนที่มีการแข่งขันสูง
บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ รายงานผลประกอบการ มีรายได้จากการขาย อยู่ที่ 711.4 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 12.3 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แบ่งเป็นแบรนด์ โอ้กะจู๋ 7 สาขา แบรนด์ โอ้ จู๊ซ 18 สาขา และแบรนด์ โจ วิงส์ 2 สาขา
ในขณะที่อัตราการเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG คำนวณจากแบรนด์โอ้กะจู๋ จำนวน 29 สาขา) อยู่ที่ร้อยละ -23.0 สาเหตุหลักจากการลดลงของยอดขายสาขาในเมืองและสาขาในโซนที่มีการแข่งขันสูง และฐานเปรียบเทียบที่สูงจากปีก่อน เนื่องจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของแบรนด์โอ้กะจู๋ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและมียอดขายติดอันดับต้น
นอกจากนี้ ยังได้รับ ผลกระทบจากฤดูฝน รวมถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลต่อกำลังซื้อผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 298.9 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นไปตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตรากำไร ขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 42.0 ปรับตัวลงจากปีก่อน
กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย อยู่ที่ 88.8 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 28.1 และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 17.3 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 71.3 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากยอดขายที่น้อยกว่าคาดจากกำลังซื้อผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง ในขณะที่บริษัทฯ ยังต้องรับรู้ ค่าใช้จ่ายคงที่ เช่น ค่าใช้จ่ายพนักงาน ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค รวมถึงค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำ
ขณะที่ 9 เดือน รายได้จากการขายอยู่ที่ 2,104.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 374.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 21.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แบ่งเป็นแบรนด์โอ้กะจู๋ 7 สาขา แบรนด์โอ้ จู๊ซ 18 สาขา และแบรนด์โจ วิงส์ 2 สาขา
โดยยอดขายเติบโตขึ้นจากทุกแบรนด์รวมถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากช่องทางการขายใหม่ ได้แก่ การร่วมมือกับการบินไทย และร้านวนัสนันท์ สาขา สนามบินเชียงใหม่1 สาขา ทำให้มีช่องทางรายได้ใหม่เพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตราการเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG คำนวณจากแบรนด์โอ้กะจู๋ จำนวน 29 สาขา) อยู่ที่ร้อยละ -18.4
สาเหตุ หลักจากการลดลงของยอดขายสาขาในเมืองและสาขาในโซนที่มีการแข่งขันสูง และฐานเปรียบเทียบที่สูงจากปีก่อนเนื่องจากการออกผลิตภัณฑ์ ใหม่ของแบรนด์โอ้กะจู๋ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและมียอดขายติดอันดับต้น นอกจากนี้ ยังได้รับผลกระทบจากฤดูฝน รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ ชะลอตัวส่งผลต่อกำลังซื้อผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง
กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 929.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 20.0 เมื่อเทียบกับ ปีก่อน เป็นไปตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสาขาและการเปิดแบรนด์ใหม่ โดยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 44.2 ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงการทำโปรโมชันฉลองครบรอบ 12 ปี แบรนด์โอ้กะจู๋ และฉลองครบรอบ 1 ปี แบรนด์โอ้ จู๊ซ
กำไรสุทธิอยู่ที่ 104.7 ล้านบาท ลดลง 57.8 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 35.5 เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 4.9 ลดลงร้อยละ 4.4 เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นไปตามสาเหตุที่กล่าวไปข้างต้น







