หุ้นไทยวันนี้ 10 พ.ย.68 โบรกคาดเคลื่อนไหว 1290-1310 จุด แนะจังหวะเก็บหุ้นปัจจัยเด่นรายตัว

หุ้นไทยวันนี้ 10 พ.ย.68 โบรกคาดเคลื่อนไหว 1290-1310 จุด แนะจังหวะเก็บหุ้นปัจจัยเด่นรายตัว

บล.พาย คาดการณ์ดัชนี SET วันนี้ (10 พ.ย. 68) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1290 – 1310 จุด แนะกลยุทธ์ให้เลือกลงทุนในหุ้นรายตัว มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หุ้นเด่นที่แนะนำ ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก ธนาคารพาณิชย์ การเงิน และเครื่องดื่ม

KEY

POINTS

  • บล.พาย คาดการณ์ดัชนี SET วันนี้ (10 พ.ย. 68) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1290 – 1310 จุด
  • แนะกลยุทธ์ให้เลือกลงทุนในหุ้นรายตัว (Selective Buy) ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
  • หุ้นเด่นที่แนะนำ ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, CPAXT, HMPRO), ธนาคารพาณิชย์ (BBL, KBANK, SCB), การเงิน (MTC) และเครื่องดื่ม (TACC)
  • ชู TACC เป็นหุ้นน่าสนใจหลังประกาศกำไรไตรมาส 3/68 โตเด่น 49% จากปีก่อน จากยอดขายใน 7-11 และมี P/E ไม่แพงพร้อมปันผลสูง
  • ปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตามคือการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้เงินบาทแข็งค่า และการเจรจางบประมาณเพื่อเปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ

หุ้นไทยวันนี้ 10 พ.ย.68  บล.พาย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 74 จุด (+0.16%) ท่ามกลางการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวนกับความกังวล Valuation หุ้น Technology ของสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.4% ท่ามกลางความคาดหวังอุปสงค์จะดีขึ้น

ทั้งนี้ สหรัฐฯ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง 6% สาเหตุลดลงจากสถานะการเงินส่วนบุคคลในปัจจุบัน และอีกส่วนมองว่าสภาพธุรกิจในข้างหน้าไม่ค่อยดีเท่าใดนักจากการที่รัฐบาลปิดหน่วยงานเป็นระยะเวลาค่อนข้างยาวนานกว่า 1 เดือน และการลดลงของความเชื่อมั่นเกิดขึ้นในหลายๆ ช่วงอายุยกเว้นกลุ่มที่ถือหุ้นในอัตราสูง พบว่า มีความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้น

โดยรวมตัวเลขข้างต้นสะท้อนความเปราะบางของกำลังซื้อ กดดันให้ US Dollar กลับมาอ่อนค่าพร้อมกับเงินบาทที่แข็งค่าทดสอบ 32.4 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ค่อนข้างผันผวนจากความกังวล Valuation เริ่มแพง โดยเฉพาะกลุ่ม Technology อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเป็นเพียงระยะสั้นเพราะทิศทางการเติบโตของกำไรยังเด่นชัด จังหวะย่อตัวอาจมองเป็นโอกาสสะสม DR 

สำหรับปัจจัยในประเทศนักลงทุนรอดูการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/68 อย่างล่าสุดในวันศุกร์มีหุ้นรายงานกำไรโดดเด่นอย่าง TACC ประกาศกำไรสุทธิที่ 90 ล้านบาท +49%YoY และรายได้ขยายตัว +29%YoY บริษัทระบุว่า สาเหตุหลักมาจากรายได้ใน 7-11 ที่เพิ่มขึ้น พร้อมกับกระแสความนิยมของเครื่องดื่มชาไทยและชาเขียวในกลุ่มผู้บริโภคที่ยังมีต่อเนื่อง โดยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 32% ลดลงเล็กน้อย 1% จากปีก่อนตามต้นทุนที่ปรับขึ้น (กาแฟ) มองหุ้นข้างต้นยังน่าสนใจด้วย PE ไม่แพงและปันผลที่สูง พร้อมกับเติบโตตามการขยายตัวของ 7-11 

ส่วนคืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญต้องติดตามเนื่องจากสหรัฐฯยังไม่มีการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวกรอบ 1290 – 1310 เน้นกลยุทธ์เลือกเป็นรายตัวในหุ้นที่มีปัจจัยบวก อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB) การเงิน (MTC) เครื่องดื่ม (TACC) นอกจากนี้รอติดตามการกลับมาเปิดหน่วยงานของสหรัฐฯหลังมีรายงานว่ารีพับลิกันและเดโมแครตใกล้จะบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณ