5 CEO หญิงป้ายแดง สุดสตรองปี 2568

ในปี 2568 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) เป็นจำนวนมาก โดยทุกการเปลี่ยนแปลงจะต้องมีการแจ้งผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการต่อทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งตลอดปีนี้พบว่ามีการเปลี่ยนตัว CEO แล้วกว่า 40 ราย โดยส่วนใหญ่ยังคงเป็นผู้บริหารเพศชาย อย่างไรก็ตาม ยังมีสุภาพสตรีจำนวนไม่น้อยที่ได้รับความไว้วางใจให้เข้ามารับบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กร

"กรุงเทพธุรกิจ" ได้คัดเลือก 5 ผู้นำหญิงแกร่ง ที่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และได้รับการแต่งตั้งให้กุมทิศทางองค์กรในฐานะ CEO เพื่อพาบริษัทเดินหน้าสู่เป้าหมายที่วางไว้ภายใต้ความท้าทายของโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน

1.มุกดา ไพรัชเวทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Chief Executive Officer) บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ  OSP คนใหม่ที่เข้ามานั่งเก้าอี้แทน “วรรณิภา ภักดีบุตร” ที่เกษียณจากตำแหน่ง  มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568

นอกจากนี้ "มุกดา" ยังเป็น กรรมการ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ด้วย

ด้านการศึกษา "มุกดา"  จบปริญญาโท บริหารธุรกิจ Wagner College, New York และปริญญาตรี บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ 

และได้รับการอบรม

• Directors Certification Program (DCP) รุ่น 242 ปี 2560
• Advanced Audit Committee Program (AACP) รุ่น 29 ปี 2561
• Board Nomination and Compensation Program (BNCP) รุ่น 3 ปี 2561
• Strategic Board Master Class (SBM) รุ่น 5 ปี 2561

ปัจจุบัน OSP มีมาร์เก็ตแคป 45,356.63 ล้านบาท P/E 18.29 เท่า ราคาปิด ณ วันที่ 6 พ.ย.2568 ที่ 15.10 บาท และช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาผลตอบแทนราคา -1.31% 

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ไตรมาส 3/2025 บริษัทมีแนวโน้มรายงานกำไรปกติราว 702 ล้านบาท ลดลง 30% QoQ ตามฤดูกาลของดีมานด์ในตลาดต่างประเทศ และได้รับผลกระทบจาก การปิดด่านชายแดนเมียนมา ทำให้สินค้ากลุ่ม Personal Care และเครื่องดื่มชูกำลังบางรายการไม่สามารถส่งออกได้ตามปกติ ขณะที่ ภาวะการเมืองในอินโดนีเซีย ยังคงส่งแรงกดดันต่อช่องทางการจัดจำหน่าย

อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารายได้จะชะลอตัว แต่ OSP ยังคง รักษาประสิทธิภาพด้านต้นทุน ได้อย่างโดดเด่น ส่งผลให้ อัตรากำไรขั้นต้นยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบและการผลิตได้ดีขึ้น

ขณะที่ ไตรมาส 4/68 สัญญาณเชิงบวกเริ่มมองเห็นได้ชัดขึ้นในช่วงปลายไตรมาส โดยยอดขายในเมียนมามีการฟื้นตัว แบบรายเดือน ขณะที่ตลาดในประเทศคาดว่าจะได้รับแรงส่งจาก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งมีแนวโน้มช่วยหนุนกำลังซื้อในสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะ เครื่องดื่มชูกำลังและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล

โดยได้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2568-2569 ขึ้นราว 5–7% จากสมมติฐาน GPM ที่ดีขึ้นกว่าคาด โดยสะท้อนความสามารถของบริษัทในการบริหารวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ราคาเหมาะสมยังคงเดิมที่ 20.00 บาท ยังคงคำแนะนำ “TRADING” และรอจังหวะสะสมหลังประกาศงบไตรมาส 3/68 ออก

2.นฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL แต่งตั้งเมื่อวันที่ 3 มี.ค.2568 และดำรงตำแหน่ง กรรมการบริษัท / กรรมการบริหาร แต่งตั้งเมื่อวันที่ 12 ก.พ.2551 จนถึงปัจจุบัน 

นอกจากนี้ยังพบว่า "นฤชล" ดำรงตำแหน่ง  กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) หรือ TURBO ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.2564

ทั้งนี้ "นฤชล" เป็นทายาทรุ่นที่ 2 บุตรสาวของ ดร.กัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ ผู้ก่อตั้งบริษัท หลังจากเข้ารับตำแหน่งเดินหน้านำองค์กรสู่การทรานฟอร์มครั้งสำคัญ ภายใต้วิสัยทัศน์ “The Most Recognized Partner in Inclusive Green Energy and Infrastructure across Asia” และการเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้สะท้อนความมุ่งมั่นของ GUNKUL ในการต่อยอดจุดแข็งการเป็น “พาร์ตเนอร์ด้านโซลูชั่นพลังงานสีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานครบวงจร” ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย โดยอาศัยประสบการณ์ในแวดวงพลังงานกว่า 15 ปี ของผู้บริหารคนใหม่ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลก

โดย GUNKUL ยังคงเดินหน้าสานต่อพันธกิจในการพัฒนาโครงการพลังงานสะอาด การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐาน และส่งมอบโซลูชั่นที่สร้างคุณค่าให้กับภาคธุรกิจ ชุมชน และสิ่งแวดล้อม พร้อมยกระดับสู่บทบาทผู้นำด้านพลังงานสีเขียวในระดับภูมิภาคอย่างมั่นคง

สำหรับประวัติการศึกษา "นฤชล" จบปริญญาโท 2 ใบ สาขาบริหารธุรกิจ (MBA) มหาวิทยาลัยบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา และสาขาศิลปศาสตรการบริหาร มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ปัจจุบัน GUNKUL มีมาร์เก็ตแคป 17,054.46 ล้านบาท P/E 9.43 เท่า ราคาปิด ณ วันที่ 6 พ.ย.2568 ที่ 1.92 บาท และช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาผลตอบแทนราคาบวก 20% 

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/68 "นฤชล" กล่าวว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการจะดีต่อเนื่อง โดยโครงการโรงไฟฟ้าลมยังอยู่ในทิศทางที่ดี อีกทั้งไตรมาส 4/2568 จะบันทึกโครงการก่อสร้างในหลายโครงการ สำหรับปีนี้บริษัทตั้งป้ารายได้กว่า 10,000 ล้านบาท เติบโต 10-15% โดยยังเดินหน้าขยายธรกิจทุกกลุ่ม

3.อรพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ เข้าดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN แทนนายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ โดยเริ่มดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งก่อนเข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “อรพัทธ์” ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ (ธุรกิจระหว่างประเทศ และการจัดการ) รวมทั้งเป็นกรรมการ และประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง TKN

นอกจากนี้ "อรพัทธ์" ยังถือหุ้นใหญ่อันดับ 5 จำนวน 58,395,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 4.23% 

ด้านการศึกษา "อรพัทธ์" จบปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และปริญญาตรี อุตสาหกรรมบริการ มหาวิทยาลัยรังสิต และเคยเข้ารับการอบรมหลักสูตร Directors Accreditation Program (DAP) รุ่น 86 ปี 2553

ทั้งนี้ยังพบว่า "อรพัทธ์" เป็นกรรมการอยู่ 7 บริษัท ได้แก่  บจก.เรนโบว์ โปรเจกต์ บจก.จิ๊บว่าดี บจก.พีระเดชาพันธ์ โฮลดิ้ง บจก.ดร.โทบิ บจก.เถ้าแก่น้อย เรสเตอรองท์ แอนด์แฟรนไชส์ บจก.เถ้าแก่น้อย แคร์ และบจก.เอ็นซีพี เทรดดิ้งแอนด์ซัพพลาย

ปัจจุบัน TKN มีมาร์เก็ตแคป 6,458.40 ล้านบาท P/E 13.94 เท่า ราคาปิด ณ วันที่ 6 พ.ย.2568 ที่ 4.68 บาท และช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาผลตอบแทนราคา -37.18% 

บล.กรุงศรี ระบุวา ยังคงคาแนะนา NEUTRAL และราคาเป้าหมายที่ 6.00 บาท เชื่อว่าTKN ยังคงเผชิญความท้าทายจากราคาสาหร่ายที่เพิ่มขึ้นในปี 2568 เนื่องจากความต้องการสาหร่ายเติบโตเร็วกว่าอุปทานเพราะสาหร่ายสามารถเพาะปลูกได้เฉพาะในจีนเกาหลีและญี่ปุ่นเท่านั้น อย่างไรก็ตามอัตราส่วน P/E ปีนี้ ที่ 17.1 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ -0.8SD ซึ่งบ่งชี้ว่า แนวโน้มที่ท้าทายได้ถูกสะท้อนในราคาไปแล้ว

4.ธิติมา วัฒนศักดากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จำกัด (มหาชน) หรือ PAP แต่งตั้งเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2568 

ด้านการศึกษา จบ ปริญญาโท สาขา E-Commerce เกียรตินิยม, University of Wollongong, Australia และ ปริญญาโท สาขาเศรษฐศาสตร์การเงินระหว่างประเทศ, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะที่ปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีสาขาการเงินและการธนาคาร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นอกจากนี้เคยผ่านการอบรมหลักสูตรของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) 2556 Director Certificate Program (DCP 177/2013)

บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายท่อเหล็ก มีมาร์เก็ตแคป 1,273.80 ล้านบาท ราคาปิด ณ วันที่ 6 พ.ย.2568 ที่ 1.93 บาท และช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาผลตอบแทนราคา +25.32% 

"ธิติมา" บอกว่า PAP เป็นผู้ผลิตท่อเหล็กรายแรกๆ ในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 และมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ครบทุกผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ยังได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยจากสถาบันชั้นนำระดับโลกอย่าง FM Approvals และ UL จากสหรัฐอเมริกา รวมถึง JIS MARK จากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยทุกขั้นตอนการผลิตได้รับการตรวจสอบทดสอบคุณภาพอย่างเข้มงวดจากห้องปฏิบัติการทดสอบที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 17025

ทั้งนี้ PAP ไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุน และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง เช่น โปรแกรม SAP, CRM, RPA และการนำระบบ Internet of Things (IoT) มาใช้ในการตรวจสอบคุณภาพแบบเรียลไทม์ และการใช้โปรแกรม CMMS ในการบำรุงรักษาเครื่องจักร

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้พัฒนาชุดท่อสวมและข้อต่อสำหรับการทดสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็มเจาะด้วยวิธี Sonic Logging Test ภายใต้แบรนด์ ZONA ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นและผลิตขึ้นเองเพื่อรองรับการก่อสร้างเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ของประเทศ ช่วยให้การตรวจสอบโครงสร้างฐานรากมีความแม่นยำและเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น

5.ปัทมา วงษ์ถ้วยทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) หรือ SOLAR ได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 12 มี.ค.2568 และก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการบริษัท ได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2549

จบการศึกษาปริญญาตรี คณะบัญชีบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโท Master of Business Administration (Finance,Policy and Planning) University of Missouri,USA) 

บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแผงเซลล์แสงอาทิตย์ รวมถึงให้บริการออกแบบและติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทมีการเติบโตของกำไร การได้รับโครงการสำคัญ จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้เป็นผู้ชนะการเสนอราคาโครงการแม่เมาะโซลาร์ฟาร์ม ระยะที่ 1 จังหวัดลำปาง มูลค่า 937 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้เป็นความร่วมมือกับบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) ถือเป็นสัญญาณบวกที่ชี้ให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพนี้

ทั้งนี้ การขยายธุรกิจใหม่ SOLAR เข้าสู่ด้านคาร์บอนเครดิต โดยการเข้าซื้อหุ้นบริษัท ซิมเมอร์มานน์ ในสัดส่วน 40% ซึ่งจะสร้างโอกาสในการขยายฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้ในอนาคตในฐานะที่ปรึกษาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ปัจจุบัน บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน)  มีมาร์เก็ตแคป 405.21 ล้านบาท ราคาปิด ณ วันที่ 6 พ.ย.2568 ที่ 0.31 บาท และช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาผลตอบแทนราคา +3.33%