หุ้น BCPG บวก 3.23% กำไรเติบโตกว่า 57% ทำสถิติสูงสุดใหม่

หุ้น BCPG บวก 3.23% กำไรเติบโตกว่า 57% ทำสถิติสูงสุดใหม่

BCPG เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรก่อนรายการพิเศษที่ 711.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 57.4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และร้อยละ 442.7 จากไตรมาส 2/2568 มีกำไรสุทธิ 626.0 ล้านบาท จากการเติบโตของผลการดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา

KEY

POINTS

  • หุ้น BCPG ปรับตัวขึ้น 3.23% มาอยู่ที่ราคา 8.00 บาท ในการซื้อขายภาคเช้าวันที่ 6 พ.ย. 2568
  • บริษัทประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2568 มีกำไรก่อนรายการพิเศษ 711.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • กำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาสนี้ถือเป็นจุดสูงสุดใหม่และสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท
  • ปัจจัยหนุนการเติบโตมาจากการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 6 พ.ย.2568 เวลา 11.00 น. หุ้น BCPG หรือ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) บวก 3.23% เพิ่มขึ้น 0.25 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 8.00 บาท

หุ้น BCPG บวก 3.23% กำไรเติบโตกว่า 57% ทำสถิติสูงสุดใหม่

นายรวี บุญสินสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาส 3 ปี 2568 มีกำไรก่อนรายการพิเศษ 711.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ร้อยละ 57.4 และมีกำไรสุทธิ 626.0 ล้านบาท โดยปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ผลประกอบการเติบโตโดดเด่น มาจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้นตามฤดูกาล และได้รับอานิสงส์จากฤดูฝนที่ยาวนานกว่าปกติ รวมถึงการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับค่าความพร้อมจ่าย (Capacity Revenue) ในอัตรา 270 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเมกะวัตต์ต่อวัน เต็มไตรมาส และจะได้รับต่อเนื่องจนถึงเดือนพฤษภาคม 2569 ก่อนจะปรับเพิ่มเป็น 329 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเมกะวัตต์ต่อวัน ถัดไปอีกหนึ่งปี

“ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ถือเป็นจุดสูงสุดใหม่ของบริษัทฯ โดยมีกำไรจากการดำเนินงานปกติสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของโครงสร้างธุรกิจ และความสามารถในการบริหารจัดการโครงการพลังงานสะอาดในหลากหลายประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมขยายการลงทุนธุรกิจใหม่ เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน” นายรวีกล่าวเพิ่มเติม

นอกจากนี้ โครงการพลังงานลมมอนซูน ขนาด 600 เมกะวัตต์ ใน สปป.ลาว ซึ่งมีสัญญาขายไฟฟ้าไปยังประเทศเวียดนาม ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วในไตรมาสนี้ ซึ่งจะเริ่มสร้างรายได้และผลกำไรเพิ่มเติมในปีนี้เป็นต้นไป แม้จะมีส่วนแบ่งขาดทุนในช่วงเริ่มต้นจากการเปิดดำเนินงานไม่เต็มไตรมาสและอยู่ในช่วงนอกฤดูกาลก็ตาม ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 99 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อเสริมพอร์ตการลงทุนในภูมิภาคและต่อยอดสู่การเติบโตระยะยาว

“บีซีพีจี ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานสะอาด พร้อมสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้แก่ผู้ถือหุ้น ผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่นในไตรมาสนี้ เป็นอีกก้าวสำคัญของเรา ในการตอกย้ำบทบาทผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาดของภูมิภาค และเป็นแรงขับเคลื่อนสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต” นายรวีกล่าวทิ้งท้าย