หุ้น THANI พุ่งแรง 10.26% ผลงานไตรมาส 3/68 ดีเกินคาด แถมปันผลสูงถึง 7%

หุ้น THANI ปรับตัวขึ้นแรง 10.26% มาอยู่ที่ 1.72 บาท โบรกเผย ปัจจัยหลักมาจากผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ที่มีกำไรสุทธิ 301 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ หลังตั้งสำรองหนี้สูญที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์และลูกหนี้ที่ดีขึ้น นอกจากนี้บริษัทจะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับสูงประมาณ 6-7%
KEY
POINTS
- ราคาหุ้น THANI ปรับตัวขึ้นแรง 10.26% มาอยู่ที่ 1.72 บาท ในการซื้อขายภาคเช้าวันที่ 6 พ.ย. 2568
- ปัจจัยหลักมาจากผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ที่มีกำไรสุทธิ 301 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ถึง 15-18%
- ผลกำไรที่ดีเกินคาดเป็นผลมาจากการตั้งสำรองหนี้สูญที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์และลูกหนี้ที่ดีขึ้น
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทจะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ในระดับสูงประมาณ 6-7%
- บล.กรุงศรี แนะนำ "ซื้อ" และให้ราคาเป้าหมายใหม่สำหรับปี 2569 ที่ 2.20 บาท โดยมองว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง
ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 6 พ.ย.2568 เวลา 10.05 น. หุ้น THANI หรือ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) บวก 10.26% เพิ่มขึ้น 0.16 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.72 บาท
นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ราคาหุ้น THANI ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างโดดเด่น ซึ่งแรงขับเคลื่อนหลักมาจากผลประกอบการไตรมาส 3/68 ที่เพิ่งประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (5 พ.ย.2568) ออกมาดีกว่าที่ตลาดและทางบริษัทวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยสาเหตุสำคัญมาจากส่วนของสำรอง หรือสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ดีกว่าคาดเป็นผลมาจากคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี จึงทำให้งบไตรมาส 3/68 งบออกมาดีบวกกับนโยบายสินทรัพย์ก็มีการบริหารจัดการที่ดีด้วย
สำหรับ มุมมองไตรมาส 4/68 ประเมินว่า ผลประกอบการไม่น่าจะแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงไตรมาส 3/68 ที่ผ่านมา เนื่องจากไตรมาส 3/68 ทุกอย่างทำได้ดีมากอยู่แล้ว คาดว่าผลประกอบการจะยังคงอยู่ในระดับเดิม ประมาณ 300 ล้านบาท
ทั้งนี้ ณ ปัจจุบัน คำแนะนำการลงทุนยังคงแนะนซื้อ ซึ่งมีการปรับใช้ราคาเป้าหมายใหม่ โดยกำหนดราคาเป้าหมายไว้ที่ 2.20 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ใช้สำหรับการประเมินปี 2569 ปัจจัยสนับสนุนคือ การบริหารจัดการนโยบายสินทรัพย์ที่ดี รวมถึงได้รับประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง โดย THANI เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์ดอกเบี้ยที่กำลังปรับตัวลง
นอกจากนี้ คาดว่ากำไรในปี 2569 จะกลับมาเติบโตเท่ากับระดับที่เคยทำได้ในปี 2567 ซึ่งแสดงถึงการฟื้นตัวของกำไร และคาดว่าผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ประมาณ 6-7%
สำหรับ THANI รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/68 THANI รายงานกำไรสุทธิที่ 301 ล้านบาท ดีกว่าเราและตลาดคาด +18% และ +15% ตามลำดับ เพราะค่าใช้จ่ายสำรอง ดีกว่าคาด จากคุณภาพลูกหนี้ที่ดีขึ้นโดยกำไรเพิ่มขึ้น +277%y-y และ +8%q-q มาจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง -40%y-y จากการโอนกลับค่าใช้จ่ายด้อยค่ารถยึด ค่าใช้จ่ายสำรองลดลง -63% y-y และ -46% q-q จากคุณภาพลูกหนี้ที่ดีขึ้นทั้งขาดทุนรถยึดลดลง
และ Gross NPL ลดลง -44% y-y และ-3% q-q ทำให้ NPLRatio อยู่ที่ 2.57% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/68 ที่ 2.54% สำหรับยอดปล่อยสินเชื่อใหม่เฉลี่ยเดือนละ 1,200 ล้านบาท เทียบกับไตรมาส 3/67 ที่ 1,360 ล้านบาท และไตรมาส 2/68 ที่ 1,160 ล้านบาท ส่งผลต่อสินเชื่อรวม -4%q-q หรือ -13% YTD กำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนของปี 2568 คิดเป็น 76% ของประมาณการทั้งปีนี้ที่ 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +38%y-y







