ดาวโจนส์ปิดบวก 200 จุด หลังศาลฎีกาไต่สวนประเด็นภาษีทรัมป์

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 200 จุดในวันพุธ หลังศาลฎีกาไต่สวนประเด็นภาษีศุลกากรของทรัมป์พร้อมส่งสัญญาณว่าอาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขณะที่หุ้น AMD จุดประกายหุ้นเอไอ ฟื้นตัว
ซีเอ็นบีซี รายงานตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นในวันพุธ (4 พ.ย.68) หลังจากศาลฎีกาสหรัฐฯ ตั้งคำถามอย่างเข้มงวดเกี่ยวกับมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าอาจมีการลดหย่อนภาษีบางส่วนลง ขณะเดียวกัน หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะบริษัทผู้ผลิตชิปอย่าง Advanced Micro Devices (AMD) และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) อื่น ๆ ก็ฟื้นตัว หลังจากก่อนหน้านี้ถูกกดดันด้วยความกังวลเรื่องมูลค่าหุ้นที่สูงเกินไป
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 225.76 จุด หรือ 0.48% ที่ระดับ 47,311.00 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.37% ปิดที่ 6,796.29 จุด และดัชนีแนสแด็ก Nasdaq Composite ขยับขึ้น 0.65% ปิดตลาดที่ 23,499.80 จุด
ประเด็นร้อน: ศาลฎีกาสหรัฐฯ กับมาตรการภาษีของทรัมป์
นักลงทุนให้ความสนใจกับการไต่สวนของศาลฎีกาเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์ในวันพุธนี้ ประเด็นสำคัญคือประธานาธิบดีมีอำนาจในการกำหนดภาษีตามกฎหมายภายใต้พระราชบัญญัติอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (International Emergency Economic Powers Act: IEEPA) หรือไม่ โดยผู้พิพากษาศาลฎีกาทั้งสายอนุรักษ์นิยมและเสรีนิยมต่างก็สอบถามนาย ดี. จอห์น ซอเออร์ อัยการสูงสุดเกี่ยวกับเหตุผลของฝ่ายบริหารทรัมป์ที่ออกมาตรการภาษีนี้
ขณะเดียวกัน ผู้ค้าในตลาดเดิมพันลดโอกาสที่ศาลฎีกาจะตัดสินให้มาตรการภาษีของทรัมป์ถูกต้องตามกฎหมายหลังจากเห็นแนวโน้มความสงสัยของศาล หุ้นบริษัทรถยนต์ดีทรอยต์อย่าง Ford และ General Motors ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดความเสี่ยงด้านภาษีต่างปรับตัวขึ้นมากกว่า 2% เช่นเดียวกับบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างและทำเหมือง Caterpillar ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 4%
ฟิล บลังคาโต หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดของ Osaic กล่าวว่า “เรายังคงเห็นการถกเถียงกันต่อไปว่า...มาตรการภาษีมีประสิทธิภาพแค่ไหน ผมคิดว่าเราคงยังไม่รู้ผลกระทบหรือผลลัพธ์ของมาตรการนี้ รวมถึงผลต่อราคา จนกว่าจะถึงไตรมาสแรกของปีหน้า ดังนั้นมันจึงเพิ่มความรู้สึกสับสนในตลาด”
การฟื้นตัวของหุ้น AI นำโดย AMD
ในบรรดาหุ้นที่ฟื้นตัว AMD เปิดตลาดต่ำกว่าเดิมแต่สามารถกลับมาบวกและดันหุ้น AI ตัวอื่น ๆ ขึ้นตามไปด้วย บริษัทประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ดีกว่าคาด แม้ว่านักลงทุนจะกังวลเกี่ยวกับอัตรากำไรของบริษัท หุ้น AMD ปิดเพิ่มขึ้น 2.5%
นอกจากนี้ หุ้นบริษัท Broadcom และ Micron Technology ก็กลับตัวจากขาลงในวันก่อนหน้ามาเพิ่มขึ้น 2% และประมาณ 9% ตามลำดับ หุ้น AI ชั้นนำอย่าง Oracle ก็ฟื้นตัวจากการปรับฐานเมื่อวันอังคารเช่นกัน
ความกังวลและความผันผวนในหุ้น AI
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจาก หุ้น Palantir ร่วงลงประมาณ 8% เมื่อวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าราคาหุ้นของบริษัทซอฟต์แวร์นี้ รวมถึงกลุ่ม AI โดยรวม เริ่มสูงเกินไป โดย Palantir มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิล่วงหน้ามากกว่า 200 เท่า หุ้น Palantir ยังปรับตัวลดลงต่ออีกกว่า 1% ในวันพุธ ขณะที่หุ้น Super Micro Devices ซึ่งเกี่ยวข้องกับ AI ก็ร่วงลง 11% จากผลประกอบการไตรมาสแรกที่น่าผิดหวัง และหุ้น Arista Networks ที่เป็นหุ้น AI เช่นกันก็ร่วงลงเกือบ 9% หลังประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด
บลังคาโต กล่าวว่า “ตลาดเวลานี้ยังขาดความหลากหลาย คุณมีทั้งหุ้น AI ที่ชนะและแพ้ และด้วยราคาที่สูงเกินไป ผมคิดว่าเราต้องเลือกลงทุนในหุ้น AI อย่างระมัดระวัง”
เขาเสริมว่า “กระแสการซื้อหุ้น AI นี้กำลังหมดแรงแล้ว นี่คือปัญหาที่เราเจอ และเป็นเหตุผลที่ตลาดเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ”
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณบวก
นักลงทุนหุ้นยังได้รับข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกในวันพุธนี้ จากข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ที่ออกมาดีกว่าคาด และดัชนีภาคบริการจาก ISM ที่แข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่แข็งแกร่งนี้ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งอาจไม่เป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุนบางกลุ่ม โดยเฉพาะในช่วงที่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สามในเดือนธันวาคมนี้
บลังคาโต กล่าวเพิ่มเติมว่า “ข้อมูล ADP เช้านี้บ่งชี้ว่า เรายังคงอยู่ในตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และบางครั้งเราก็ลืมว่าตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง หมายความว่าเศรษฐกิจยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย และยังไม่มุ่งหน้าไปสู่ภาวะนั้นเลย นี่ถือเป็นสัญญาณบวกอย่างมากสำหรับสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปัจจุบัน ยกเว้นว่าราคาหุ้นยังคงสูงเกินไป ดังนั้นเราจึงอยู่ในช่วงเวลาที่แปลกมากที่ถ้าไม่มีปัจจัยใหม่ ๆ ที่สำคัญ ผมไม่คิดว่าตลาดจะปรับขึ้นไปได้มากกว่านี้ แต่ก็ไม่เห็นว่าจะเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่เช่นกัน”







