แนสแด็กปิดตลาดสูงขึ้น แรงหนุนจาก Amazon บริษัทชั้นนำด้านเอไอ

แนสแด็กปิดตลาดสูงขึ้น แรงหนุนจาก Amazon บริษัทชั้นนำด้านเอไอ

ดัชนีแนสแด็ก NASDAQ ปิดตลาดสูงขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวสูงขึ้นของหุ้น Amazon และบริษัทชั้นนำด้าน AI อื่นๆ

ซีเอ็นบีซี รายงานดัชนี Nasdaq Composite ปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ ( 3 พ.ย.68) เนื่องจากนักลงทุนหันเข้าซื้อหุ้นปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) มากขึ้นหลังจากมีการประกาศข้อตกลงหลายฉบับ แนสแด็ก ซึ่งเน้นเทคโนโลยีเป็นหลัก เพิ่มขึ้น 0.46% ปิดที่ 23,834.72 จุด

ขณะที่ดัชนี S&P 500 ซื้อขายเพิ่มขึ้น 0.17% ปิดที่ 6,851.97 จุด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ร่วงลง 226.19 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 47,336.68 จุด

หุ้น Amazon หนึ่งในกลุ่มเจ็ดนางฟ้า “Magnificent Seven” หนุนตลาด โดยราคาหุ้นพุ่งขึ้น 4% หลังจากที่บริษัทบรรลุข้อตกลงมูลค่า 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ กับ OpenAI โดยความร่วมมือครั้งนี้ Amazon จะใช้ชิปหน่วยประมวลผลกราฟิกของ Nvidia หลายแสนตัว

หุ้นของผู้ผลิตชิปปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันในวันจันทร์ หลังจากที่บริษัทศูนย์ข้อมูล Iren บรรลุข้อตกลงระยะยาวมูลค่า 9.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กับ Microsoft เพื่อให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แห่งนี้สามารถเข้าถึง GPU Nvidia GB300 ได้  หุ้น Micron Technology ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 5% ส่งผลให้หุ้นชิปปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ Nvidia ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% ด้านกองทุนรวมดัชนี VanEck Semiconductor ETF  ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 1% ในขณะเดียวกัน หุ้นของ Iren ก็พุ่งขึ้น 11%

หุ้นเอไอนำทิ้งห่างหุ้นกลุ่มอื่นๆ

หุ้น Nvidia ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันจันทร์ หลังจากที่ Microsoft ประกาศว่าได้รับใบอนุญาตส่งออกจากรัฐบาลทรัมป์เพื่อจัดส่งชิป Nvidia ไปยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บริษัทเสริมว่าการลงทุนทั้งหมดในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะมีมูลค่า 1.52 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในสิ้นปี 2572

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากหุ้นเทคโนโลยีแล้ว ผลตอบแทนกลับมีน้อยมากในวันทำการซื้อขาย เนื่องจากหุ้นกว่า 300 ตัวในดัชนี S&P 500 ปิดตลาดในแดนลบ ความอ่อนแอในวงกว้างนี้ยังคงเป็นข้อกังวลของตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยมีหุ้นในดัชนีชี้วัดหลักที่ราคาลดลงมีจำนวนมากกว่าบริษัทที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม แม้ว่าการซื้อขาย AI จะผลักดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นในเดือนนั้นก็ตาม

“ตลาดกำลังให้ผลตอบแทนแก่ผู้เล่น AI หลักในวันนี้” กิล ลูเรีย หัวหน้าฝ่ายวิจัยเทคโนโลยีของ D.A. Davidson กล่าวกับซีเอ็นบีซี โดยชี้ไปที่ Nvidia, Microsoft, Google และ Amazon รวมถึงบริษัทอื่นๆ เช่น Palantir ที่น่าจับตามอง

“บริษัทเหล่านี้กำลังเป็นผู้นำ และคว้ามูลค่าเกือบทั้งหมดใน AI” เขากล่าวต่อ “พวกเขาสามารถรักษาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการให้บริการลูกค้า และทุกรายกำลังมองเห็นจุดเปลี่ยนเชิงบวกของความต้องการ พวกเขาไม่เพียงแต่มีเงินสดสำหรับสร้างขีดความสามารถในการประมวลผล AI เพิ่มเติมด้วยตนเองเท่านั้น แต่พวกเขายังสามารถขยายขอบเขตการเข้าถึงได้โดยการให้เช่าขีดความสามารถจากบริษัทคลาวด์ใหม่ และผู้ให้บริการศูนย์ข้อมูลรายอื่นๆ”

วอลล์สตรีทเพิ่งผ่านวันแห่งชัยชนะ ซึ่งช่วยเสริมสร้างผลตอบแทนของดัชนีหลักในเดือนตุลาคม ดัชนี S&P 500 และ Dow ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3% และ 2.5% ตามลำดับในเดือนนี้ ดัชนี Nasdaq Composite ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.7% การปรับตัวเพิ่มขึ้นนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแรงส่งอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ AI รวมถึงสัญญาณบ่งชี้ถึงการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน

บริษัทในดัชนี S&P 500 กว่า 300 แห่งได้รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่สามแล้ว โดยในจำนวนนี้มากกว่า 80% ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตามข้อมูลของ FactSet วอลล์สตรีทจะมีบริษัทอีกกว่า 100 แห่งรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI อย่าง Palantir และ AMD

วอลล์สตรีทอาจได้รับแรงหนุนจากปัจจัยตามฤดูกาลในเดือนนี้ ข้อมูลจาก Stock Trader’s Almanac แสดงให้เห็นว่าดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 1.8% ในเดือนพฤศจิกายน ทำให้เป็นเดือนที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของดัชนีนี้ 

 

 

 


พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์