หุ้น PLANB บวก 6.22% โบรกเผยอานิสงส์พรีเมียร์ลีก คาดหนุนรายได้ในอนาคตเพิ่ม

หุ้น PLANB บวก 6.22% โบรกเผยอานิสงส์พรีเมียร์ลีก คาดหนุนรายได้ในอนาคตเพิ่ม

หุ้น PLANB ปรับตัวขึ้น 6.22% มาอยู่ที่ราคา 4.44 บาท นักวิเคราะห์ระบุว่า ราคาหุ้นได้รับแรงหนุนจากกระแสความคึกคักของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ปัจจัยดังกล่าวบวกกับบริการสตรีมมิ่ง Monomax ที่มีแนวโน้มดีขึ้น คาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานและรายได้ให้กับบริษัทในอนาคต

KEY

POINTS

  • หุ้น PLANB ปรับตัวขึ้น 6.22% มาอยู่ที่ราคา 4.44 บาท ในการซื้อขายภาคเช้าวันที่ 3 พ.ย. 2568
  • นักวิเคราะห์จาก บล. ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล ระบุว่า ราคาหุ้นได้รับแรงหนุนจากกระแสความคึกคักของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
  • ปัจจัยดังกล่าวบวกกับบริการสตรีมมิ่ง Monomax ที่มีแนวโน้มดีขึ้น คาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานและรายได้ให้กับบริษัทในอนาคต
  • อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าการปรับขึ้นอาจเป็นแรงเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากผลประกอบการในช่วงปลายปียังมีแนวโน้มไม่โดดเด่นและธุรกิจโดยรวมยังเปราะบาง

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 3 พ.ย. 2568 เวลา 10.20 น. หุ้น PLANB หรือ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) บวก 6.22% เพิ่มขึ้น 0.26 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 4.44 บาท 

หุ้น PLANB บวก 6.22% โบรกเผยอานิสงส์พรีเมียร์ลีก คาดหนุนรายได้ในอนาคตเพิ่ม

กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกกิจ" ว่า ราคาหุ้นได้รับแรงหนุนจากกระแสความคึกคักของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด เช่น ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ซึ่งเริ่มกลับมามีมูลค่าทางธุรกิจเพิ่มขึ้น บวกกับ Monnomax บริการสตรีมมิ่งในเครือมีแนวโน้มดีขึ้นหลังปรับราคาค่าบริการลงเหลือราว 199 บาท ซึ่งอาจช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานและรายได้ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นในครั้งนี้อาจมาจากปัจจัยเฉพาะตัวที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพื้นฐานโดยตรง โดยตลาดคาดว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/68 มีแนวโน้มทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน เนื่องจากอัตราการใช้สื่อยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน ขณะที่ภาพรวมธุรกิจในไตรมาส 4/68 ยังเผชิญแรงกดดันส่งผลให้กิจกรรมบันเทิงและการใช้สื่อโฆษณาชะลอตัวลง จึงคาดว่าผลประกอบการในช่วงปลายปีอาจยังไม่โดดเด่น

ทั้งนี้ มองว่า ธุรกิจสื่อโดยรวมยังอยู่ในช่วงเปราะบาง และการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นครั้งนี้อาจสะท้อนแรงเก็งกำไรระยะสั้น หรือความคาดหวังต่อข่าวดีบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต มากกว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริงของบริษัทที่ต้องรอติดตามต่อไป