ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สูงขึ้นเล็กน้อย การซื้อขายเดือนพ.ย.เริ่มขึ้น

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นน้อยเมื่อคืนวันอาทิตย์ ขณะเดือนใหม่ของการซื้อขายเริ่มต้นขึ้น
ซีเอ็นบีซี รายงานตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อคืนวันอาทิตย์ (2 พ.ย.68) เคลื่อนไหวเล็กน้อย ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ S&P 500 ฟิวเจอร์ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะเดือนใหม่ของการซื้อขายเริ่มต้นขึ้น
สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้น 0.1% เช่นเดียวกับ Nasdaq-100 ฟิวเจอร์ และดาวโจนส์ ฟิวเจอร์ปรับตัวสูงขึ้น 16 จุด หรือขึ้นน้อยกว่า 0.1%
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดตลาดในแดนบวก ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับดัชนีอ้างอิงในเดือนตุลาคม ดัชนี S&P 500 และดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวสูงขึ้น 2.3% และ 2.5% ตามลำดับในเดือนดังกล่าว ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก Nasdaq Composite ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 4.7%
การเพิ่มขึ้นดังกล่าวส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแรงหนุนอย่างต่อเนื่องของการซื้อขายปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมถึงสัญญาณของการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
จนถึงขณะนี้ บริษัทที่อยู่ในดัชนี S&P 500 กว่า 300 แห่งได้รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่สามแล้ว จากข้อมูลของ FactSet พบว่ามากกว่า 80% ของหุ้นทั้งหมดทำผลงานได้ดีกว่าที่ตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ จะมีบริษัทอีกกว่า 100 แห่งรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง Palantir และ AMD บริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI
3 ปัจจัยหลักหนุนตลาด
โดยพื้นฐานแล้ว ภาพรวมผลประกอบการของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และได้รับแรงหนุนจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ ภาพรวมการใช้จ่ายด้าน AI ยังคงแข็งแกร่ง และรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 ที่แข็งแกร่งของ Amazon เป็นหลักฐานล่าสุดที่ยืนยันเรื่องนี้ ภาคการเงินกำลังขับเคลื่อนนวัตกรรมผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีท่าทีผ่อนคลายทางการเงินและลดอัตราดอกเบี้ย และมาตรการคุมเข้มเชิงปริมาณ (QT) จะสิ้นสุดในวันที่ 1 ธันวาคมนี้” ทอม ลี หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Fundstrat กล่าว
วอลล์สตรีทอาจได้รับแรงหนุนจากปัจจัยตามฤดูกาลในเดือนนี้ ข้อมูลจาก Stock Trader’s Almanac แสดงให้เห็นว่าดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 1.8% ในเดือนพฤศจิกายน ทำให้เป็นเดือนที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของดัชนีอ้างอิง
นักลงทุนยังคงจับตาดูวอชิงตัน เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงปิดทำการบางส่วน การหยุดชะงักดังกล่าวทำให้การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการล่าช้าออกไป รวมถึงรายงานการจ้างงานรายเดือน
นอกจากนี้ ศาลฎีกาคาดว่าจะรับฟังการโต้แย้งด้วยวาจาเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของภาษีศุลกากรของรัฐบาลทรัมป์







