ผ่าขุมทรัพย์ ‘ต๊อบ-อิทธิพัทธ์’ เจ้าของอาณาจักรเถ้าแก่น้อย ผู้สร้างตำนานอายุน้อยร้อยล้าน

ต๊อบ อิทธิพัทธ์ เป็นกรรมการใน 13 บริษัท และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน 19 บริษัท โดยมีมูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ปัจจุบันถือหุ้นในบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN จำนวน 307,726,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 22.30%
KEY
POINTS
- ต๊อบ อิทธิพัทธ์ เป็นกรรมการใน 13 บริษัท และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน 19 บริษัท โดยมีมูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท
- ปัจจุบันถือหุ้นในบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN จำนวน 307,726,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 22.30% (ข้อมูล ณ วันที่ 27 ส.ค. 2568)
- มีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการถือหุ้น TKN มาโดยตลอด โดยเคยถือสูงสุดที่ 33.48% ในช่วง IPO และมีการซื้อขายหุ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2559-2568
- เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ในหลายบริษัท เช่น บริษัท พีระเดชาพันธ์ โฮลดิ้ง จำกัด (70.00%), บริษัท ทองหล่อ 24 จำกัด (99.80%), บริษัท ต๊อบ แคปปิตอล 24 จำกัด (99.98%) และ บริษัท ดร.โทบิ จำกัด (81.93%)
- มีการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายนอกเหนือจากธุรกิจหลัก เช่น ธุรกิจเทคโนโลยี (บมจ. สกิลเลน เทคโนโลยี 8.49%), ธุรกิจเครื่องดื่ม (บริษัท โทฟุซัง จำกัด 1.00%), และธุรกิจร้านอาหาร (บริษัท เฮนรี่ส์ เบอร์เกอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 19.99%)
หลังจากเกิดกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ดำเนินคดีทางแพ่งกับบุคคล 5 ราย หนึ่งในนั้นมี ได้แก่ อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ณัชชัชพงศ์ พีระเดชาพันธ์ (พี่ชาย) พนิดา วิริยะกิจนุกูล ฐิติรัตน์ ภานุวัฒน์วนิชย์ และจักรพันธ์ ชาติปรีชา จากกรณีซื้อหุ้นบริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN โดยอาศัยข้อมูลภายใน (Insider Trading)
ส่งผลให้ในองค์กรมีความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ซึ่ง TKN ได้ออกมาชี้แจงว่า "ต๊อบ อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์" ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2568 ต่อมาในวันที่ 28 ตุลาคม TKN มีมติแต่งตั้ง อรพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ (พี่สาว) เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แทน
ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปตั้งแต่ TKN เข้ามาเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดหุ้นไทย ตั้งแต่ 3 ธ.ค.2558 ราคาหุ้นอยู่ที่ 4.00 บาท และช่วงปี 2560 ราคาหุ้นเคยพุ่งสูงสุดถึง 29.50 บาท แต่และหลังจากนั้นราคาก็ร่วงหล่นลงมาเรื่อย ๆ อยู่บริเวณเฉลี่ยที่ 14.00 - 5.00 บาท ทว่า ณ ปัจจุบัน 29 ต.ค.2568 ราคาหุ้นอยู่ที่ 4.72 บาท
จากข้อมูลในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า ต๊อบ อิทธิพัทธ์ เข้าถือหุ้น TKN ตั้งแต่ IPO จำนวน 462,000,000 หุ้น สัดส่วน 33.48% จนกระทั่งปิดสมุด ณ วันที่ 25 ส.ค.2559 มีการขายบางส่วนออกหลัง IPO จำนวน 42,000 หุ้น ทำให้เหลือหุ้น 420,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30.43% ขณะเดียวกันวันปิดสมุด 15 มี.ค.2560 พบว่า มีการขายออกต่อเนื่องอีก 80,500 หุ้น เหลือ 339,500,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 24.60% แต่เมื่อปิดสมุดวันที่ 31 ส.ค.2560 มีการซื้อหุ้นคืนบางส่วนที่ 7,040,700 หุ้น ทำให้หุ้นเพิ่มขึ้นมา 346,540,700 หุ้น สัดส่วน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 25.11%
หลังจากนั้นปี 2561 ปิดสมุดวันที่ 13 มี.ค. พบว่า มีการหุ้นออกไปเล็กน้อยที่ 15,500,000 หุ้น ทำให้จำนวนหุ้นลดลงมาเหลือที่ 331,040,700 หุ้น สัดส่วน 23.99% ปี 2562 ปิดสมุดวันที่ 14 มี.ค. มีการเข้าซื้อหุ้น 12,903,800 หุ้น เพิ่มขึ้น 343,944,500 หุ้น สัดส่วน 24.92% วันที่ 29 ส.ค. ขายออกอีก 30,818,300 หุ้น เหลือ 313,126,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 22.69%
ปี 2563 วันปิดสมุด 10 มี.ค. พบว่า มีการซื้อหุ้นเพิ่มเล็กน้อยที่ 4,750,000 หุ้น เพิ่มขึ้น 317,876,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 23.03% และในวันปิดสมุดที่ 9 ก.ค.พบว่า มีการซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 5,020,000 หุ้น เพิ่มขึ้น 322,896,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 23.40%
ปี 2564 ปิดสมุดวันที่ 16 มี.ค. พบว่า มีการขายออก 5,700,000 หุ้น เหลือ 317,196,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 22.99% และปี 2565 ปิดสมุดวันที่ 8 มี.ค. พบว่า มีการซื้อเล็กน้อย 800,000 หุ้น เพิ่มขึ้น 317,996,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 23.04% และปิดสมุดวันที่ 25 ส.ค. พบว่า มีการขายออกอีก 19,320,000 หุ้น ลดลงเหลือ 298,676,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 21.64% และพบว่าปี 2566-2567 จำนวนหุ้นเท่าเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ขณะที่ปี 2568 วันปิดสมุดที่ 20 มี.ค.พบว่า มีการเข้าซื้อหุ้นเพิ่ม 3,600,000 หุ้น เพิ่มขึ้น 302,276,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 21.90% และปิดสมุดวันที่ 27 ส.ค.พบว่า มีการซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 5,450,000 หุ้น เพิ่มขึ้น 307,726,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 22.30%
นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบข้อมูล CredenData ยังพบว่า ต๊อบ อิทธิพัทธ์ เข้าเป็นกรรมการ 13 บริษัท และถือหุ้นใหญ่ 19 บริษัท รวมมูลค่า 3,000 กว่าล้านบาท
1.บริษัท พีระเดชาพันธ์ โฮลดิ้ง จำกัด ประกอบกิจการเพื่อถือหุ้นในบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนอื่นๆ ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 70,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 70.00%
2.บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยว ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 จำนวน 307,726,200 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 22.30%
3.บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการผลิตน้ำตาลทรายจากอ้อย ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 23 จำนวน 2,380,900 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.40%
4.บริษัท สกิลเลน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการกิจกรรมการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์อื่นๆ ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวน 7,216,800 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 8.49%
5.บริษัท ฟินโนมีนา จำกัด ประกอบกิจการการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 13 จำนวน 16,500 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.82%
6.บริษัท ฟินีม่า จำกัด ประกอบกิจการให้คำปรึกษาทางด้านซอฟต์แวร์ ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวน 5,951 หุ้น สัดส่วน 9.00%
7.บริษัท ทองหล่อ 24 จำกัด ประกอบการเช่าและการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองหรือเช่าจากผู้อื่นที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 998 หุ้น สัดส่วน 99.80%
8.บริษัท โทฟุซัง จำกัด ประกอบกิจการจำหน่ายและผลิตเครื่องดื่มที่ทำจากถั่วเหลือง ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวน 9,000 หุ้น สัดส่วน 1.00%
9.บริษัท ต๊อบ แคปปิตอล 24 จำกัด ประกอบกิจการกิจกรรมของบริษัทโฮลดิ้งที่ไม่ได้ลงทุนในธุรกิจการเงินเป็นหลัก ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 9,998 หุ้น สัดส่วน 99.98%
10.บริษัท เซเว่น มังกี้ส์ แลนด์ จำกัด ประกอบกิจการการเช่าและการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองหรือเช่าจากผู้อื่นที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ยังดำเนินกิจการอยู่
ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 5,000 หุ้น สัดส่วน 50.00%
11.บริษัท เจ้าพระยา เอสเตต เรสซิเด้นซ์ จำกัด ประกอบกิจการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยได้รับ ค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 24 จำนวน 39,933 หุ้น สัดส่วน 0.30%
12.บริษัท จิ๊บว่าดี จำกัด ประกอบกิจการ การบริการทำความสะอาดทั่วไปของตัวอาคาร ยังดำเนินกิจการอยู ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวนหุ้น 3,000 หุ้น สัดส่วน 10.00%
13.บริษัท เอ็นซีพี เทรดดิ้ง แอนด์ ซัพพลาย จำกัด ประกอบกิจการการผลิตเครื่องปรุงอาหารประจำโต๊ะและเครื่องประกอบอาหารอื่นๆ ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวน 1 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.01%
14.บริษัท เถ้าแก่น้อย แคร์ จำกัด ประกอบกิจการการขายส่งผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวน 1 หุ้น สัดส่วน 0%
15.บริษัท เถ้าแก่น้อย เรสเตอรองท์ แอนด์ แฟรนไชส์ จำกัด ประกอบกิจการร้านขายปลีกอาหารอื่นๆ ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น ภัตตาคาร ร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวน 1 หุ้น สัดส่วน 0%
16.บริษัท เฮนรี่ส์ เบอร์เกอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประกอบกิจการการบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 จำนวน 1,999 หุ้น สัดส่วน 19.99%
17.บริษัท ฮับบา จำกัด ประกอบกิจการให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการอื่นๆซึ่งมิได้จัด ประเภทไว้ในที่อื่น ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 13 จำนวน 45,305 หุ้น สัดส่วน 2.24%
18.บริษัท ดร.โทบิ จำกัด การดำเนินงานเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการแข่งขัน กีฬา ยังดำเนินกิจการอยู่ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 จำนวน 680,000 หุ้น สัดส่วน 81.93%
19.บริษัท สกิลเลน เอดูเคชั่น จำกัด ประกอบกิจการจัดทำ ผลิต ให้บริการและจำหน่ายสื่อการเรียนรู้ การสอน สถานภาพกิจการแปรสภาพ ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 จำนวน 360,840 หุ้น สัดส่วน 8.49%







