S&P 500 ดาวโจนส์ แนสแด็ก ปิดตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์วันที่สอง

หุ้นวอลล์สตรีท ดัชนี S&P 500 ดาวโจนส์ และแนสแด็ก ปิดตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นวันที่สอง ท่ามกลางการซื้อขายเอไอ ที่ร้อนแรงก่อนการตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ซีเอ็นบีซี รายงานหุ้นวอลล์สตรีททำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในวันอังคาร (28 ต.ค.68) เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าซื้อหุ้นปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากขึ้น ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ จะประกาศการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยคืนนี้
ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.23% ปิดที่ 6,890.89 จุด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทะลุระดับ 6,900 จุดเป็นครั้งแรกระหว่างวัน
ดัชนีแนสแด็ก Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.80% ปิดที่ 23,827.49 จุด
ขณะที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 161.78 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 47,706.37 จุด นอกจากราคาปิดตลาดสูงสุดแล้ว ดัชนี Nasdaq ซึ่งเน้นกลุ่มเทคโนโลยี และดัชนี Dow 30 ตัว ยังทำสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาลระหว่างวัน ควบคู่ไปกับดัชนี S&P 500
หุ้น Nvidia นำตลาด
โดยราคาหุ้น Nvidia พุ่งขึ้นประมาณ 5% และทำสถิติสูงสุดใหม่ บริษัทชิป AI ชื่อดังได้ประกาศหลายดีลในวันอังคารที่การประชุม GTC ซึ่งรวมถึงความร่วมมือกับ Nokia บริษัทสัญชาติฟินแลนด์ Nvidia จะเข้าซื้อหุ้น Nokia มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โนเกียระบุว่าจะนำเงินที่ได้ไปใช้ในแผนงาน AI บางส่วน บริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ AI เช่น Broadcom ก็ได้รับแรงหนุนเช่นกัน
หุ้น Microsoft ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 2% ก่อนผลประกอบการหลังตลาดเปิดทำการในวันพุธ มูลค่าหุ้นของ Microsoft และ Apple ทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงการซื้อขายในวันอังคาร
ในวันเดียวกันบริษัท OpenAI ประกาศว่าได้เสร็จสิ้นการเพิ่มทุนแล้ว ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้ Microsoft มีโอกาสทำกำไรมหาศาล เนื่องจากถือหุ้นประมาณ 27% ใน OpenAI Group PBC ซึ่งเป็นบริษัทที่แสวงหาผลกำไร
นอกจาก Microsoft และ Apple แล้ว ยังมีบริษัทในกลุ่มเจ็ดนางฟ้า “Magnificent Seven” อีกจำนวนหนึ่งที่จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ เช่น Alphabet, Amazon และ Meta Platforms ซึ่งทั้งห้าบริษัทนี้รวมกันคิดเป็นมูลค่าประมาณหนึ่งในสี่ของมูลค่ารวมของดัชนี S&P 500
ไมค์ ดิกสัน จากบริษัทจัดการกองทุน Horizon Investments ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี ว่า ฤดูกาลประกาศผลประกอบการเริ่มต้นได้อย่าง “ยอดเยี่ยม” บริษัทที่อยู่ในดัชนี S&P 500 ประมาณหนึ่งในสามได้รายงานผลประกอบการแล้ว โดย 83% ของบริษัทเหล่านี้มีผลประกอบการที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ตามข้อมูลของ FactSet
“เห็นได้ชัดว่ามูลค่าหุ้นค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับมาตรฐานในอดีต และเราน่าจะได้รับความช่วยเหลือจากเฟดอย่างเต็มที่โดยที่ไม่มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น” หัวหน้าฝ่ายวิจัย และกลยุทธ์เชิงปริมาณของบริษัทกล่าว “เรื่องนี้ต้องมาจากผลประกอบการ และพูดตรงๆ ว่า เราเห็นสิ่งนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว” เขากล่าวต่อ พร้อมเสริมว่า “เราต้องดูว่าบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้จะมีความเห็นอย่างไร”
คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเป็นครั้งที่สองในปี 2568 ในวันพุธ(29 ต.ค.68) นักลงทุนยังหวังสัญญาณจากเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีในเดือนธันวาคม
นักลงทุนในช่วงการซื้อขายวันจันทร์ต่างแสดงความยินดีกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนที่คลี่คลายลง ก่อนการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในวันพฤหัสบดีที่ทุกคนต่างตั้งตารอ ทรัมป์กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าทั้งสองประเทศคาดว่าจะ "บรรลุ" ข้อตกลงการค้า ซึ่งอาจช่วยแก้ไขปัญหาการควบคุมส่งออกแร่หายากของจีน การซื้อถั่วเหลืองสหรัฐ และติ๊กต็อก TikTok หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานเมื่อวันอังคารว่าภาษีสินค้าจากจีนจะลดลง หากปักกิ่งควบคุมการส่งออกสารเคมีที่ผลิตสารเสพติดเฟนทานิล
ดิกสัน กล่าวว่า "ตลาดคาดว่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนจากการประชุมครั้งนี้" “หากเราไม่ได้รับข้อตกลงใดๆ ที่จะสร้างความฮือฮาได้ ผมคิดว่านั่นคงเป็นเรื่องน่าผิดหวัง นั่นไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะได้รับการแก้ไข มันแค่หมายความว่ามีความคืบหน้าที่ชัดเจนว่ามีข้อตกลงบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว”
ในการซื้อขายวันก่อน ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดเหนือระดับ 6,800 จุดเป็นครั้งแรก ขณะที่ดัชนี Nasdaq และดัชนี Dow ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดัชนี Russell 2000 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นขนาดเล็กก็ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







