โบรกลุ้นหุ้นไทย พ.ย.แนวต้านใหม่ 1,350 จุด แต่ระวังแรงขายทำกำไร

โบรกลุ้นหุ้นไทย พ.ย.แนวต้านใหม่ 1,350 จุด แต่ระวังแรงขายทำกำไร

ดัชนีหุ้นไทยทะลุ 1,300 จุดรอบสอง โบรกชี้พลังสามประสาน ‘โฟลว์ไหลเข้า-เจรจาสหรัฐกับจีนคลี่คลาย-เดลต้างบดี’ เดือนพ.ย.ลุ้นแนวต้านใหม่ 1,350 จุด เตือนระวังแรงขายทำกำไร

KEY

POINTS

  • โบรกเกอร์คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยเดือนพฤศจิกายนมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,350 จุด
  • ปัจจัยบวกสำคัญมาจากกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้า, ผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะเติบโตดี และความคืบหน้าในการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน
  • นักลงทุนควรระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจสลับเข้ามาเป็นระยะ หลังจากดัชนีปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ (27 ต.ค.2568) พุ่งแรงทะลุระดับ 1,300 จุดเป็นครั้งที่สองในรอบปี โดยเปิดตลาดช่วงเช้าพุ่งขึ้นกว่า 31จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 9.61 จุด หรือ 0.73% อยู่ที่ 1,323.52 จุด มูลค่าซื้อขาย 53,328.39 ล้านบาท โดยจากแรงหนุนหลายปัจจัย ทั้งกระแสเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ไหลเข้า กำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 3 ปี 2568 ที่น่าจะออกมาดีกว่าคาด และความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน    

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ปัจจัยบวกที่หนุนตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ ว่า มาจากการที่ฟันด์โฟลว์มีแนวโน้มไหลกลับเข้าหุ้นไทย หลังส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยิลด์) ไทย-สหรัฐ 10 ปี แคบลง ประกอบกับคาดเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น จากมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่คงอัตราดอกเบี้ยล่าสุด

โบรกลุ้นหุ้นไทย พ.ย.แนวต้านใหม่ 1,350 จุด แต่ระวังแรงขายทำกำไร

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหนุนจากคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในไตรมาส 3 ปี 2568 ที่คาดจะเติบโตสูงถึง 30% (YoY) เนื่องจากฐานต่ำในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และพลังงานที่ฟื้นตัวเด่นชัด ขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ในการประชุมครั้งล่าสุด มีแนวโน้มคลี่คลายลง และคาดว่าจะได้กรอบข้อตกลงเบื้องต้นในการประชุม APEC ปีหน้า 

พร้อมกันนี้ หุ้นบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ที่ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้ออกมาดีกว่าคาด ยังได้ดึงดูดแรงเก็งกำไรเข้ามาในตลาดด้วย ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทย หากปัจจัยบวกยังคงสนับสนุนต่อเนื่อง มองแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,350 จุดในเดือนพ.ย. และยังคงเป้าดัชนีปีนี้ที่ 1,376 จุด

อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของดัชนีหุ้นไทยมีลักษณะเป็นการ “ทยอยขึ้น” สลับกับ “อาจมีแรงขายทำกำไรสลับเข้ามา” ดังนั้น ยังต้องระมัดระวังจากความเสี่ยงที่การประกาศตัวเลขจีดีพีไทยช่วงครึ่งหลังยังมีแนวโน้มชะลอตัว แม้การส่งออกเดือนก.ย. จะเร่งตัวขึ้น 19% จากเดือนก่อน แต่การนำเข้าก็เร่งแรงถึง 17% ซึ่งสะท้อนแรงกดดันจากนโยบายการค้าโลก 

นายพิริยพล คงวาณิช นักกลยุทธ์การลงทุน บล. บัวหลวง เปิดเผยว่า หลัง DELTA เปิดกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2568 ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ราว 13% โดยมีกำไรสุทธิเติบโตขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์

นอกจากปัจจัยบวกเฉพาะตัวของ DELTA แล้ว หุ้นไทยยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยมหภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตัวเลขการส่งออกไทยในเดือนก.ย. 2568 ที่ขยายตัวสูงถึง 19% ซึ่งเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 42 เดือนนำโดยกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอาหารสัตว์เลี้ยงที่เติบโตได้ดีเป็นพิเศษ อีกทั้ง ประเทศไทยยังได้บรรลุข้อตกลงสันติภาพกับประเทศกัมพูชา ซึ่งคาดว่าจะสนับสนุนหุ้นในกลุ่มที่มีการดำเนินธุรกิจในกัมพูชา 

ในส่วนของสถานการณ์ระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเศรษฐกิจระดับสูงของจีนและสหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (26 ต.ค.) เกี่ยวกับกรอบข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-ไทย โดย สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ คาดการณ์ว่าจะมีการเลื่อนการบังคับใช้ระบบการออกใบอนุญาตส่งออกแร่ธาตุหายากและแม่เหล็กออกไปอีก 1 ปี และคาดว่าการสงบศึกทางภาษีกับจีนจะขยายออกไปเกินวันที่ 10 พฤศจิกายน รวมถึงจีนจะกลับมาซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ในปริมาณมากอีกครั้ง หลังจากที่ได้หยุดซื้อไปในช่วงเดือนกันยายนและหันไปสั่งซื้อจากบราซิลและอาร์เจนตินาแทน ข้อตกลงนี้คาดว่าจะหนุนหุ้นในกลุ่ม China play  โดยรวมแล้วยังคงมองแนวโน้มหุ้นไทยในเดือนพ.ย. นี้ ในลักษณะ “Sideway Up” โดยคาดการณ์กรอบแนวรับอยู่ที่ 1,300 จุด และแนวต้านที่ 1,350 จุด

นายรัฐศักดิ์ พิริยะอนนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ยังมองเทรนด์หลัก เป็น “แนวโน้มขาขึ้น” และการพักตัวระยะสั้นในช่วงราว 1 เดือนที่ผ่านมาในกรอบ 1,270-1,315 จุด น่าจะเพียงพอแล้ว

ด้วยหลายปัจจัยบวกตอนนี้ คาดจะเข้ามาช่วยหนุนประเมินดัชนีฯ เคลื่อนไหวในกรอบที่สูงขึ้น 1,290-1,350 จุด โดยเชื่อมีลุ้นเห็นดัชนีฯ ทะลุและยืนได้เหนือแนวต้านสำคัญ 1,315 จุดได้ ซึ่งจะทำให้ภาพรวมหุ้นไทยกลับมาดูดีขึ้น ให้ภาพเทรนด์หลักเป็นแนวโน้มขาขึ้นชัด