S&P 500 ทุบสถิติปิดตลาดเหนือ 6,800 จุดครั้งแรก การค้าจีน-สหรัฐดัน

ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 1% วันจันทร์สร้างสถิติใหม่ปิดตลาดเหนือ 6,800 จุดเป็นครั้งแรก จากสัญญาณการสงบศึกสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ทำให้นักลงทุนคลายความกังวล
ซีเอ็นบีซี รายงานตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ในวันจันทร์ (27 ต.ค.68) หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐ และจีนส่งสัญญาณผ่อนคลายความตึงเครียดในช่วงสุดสัปดาห์ ปูทางสู่การบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ในสัปดาห์นี้
ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 1.23% มาอยู่ที่ 6,875.16 จุด ถือเป็นการปิดตลาดเหนือระดับ 6,800 จุดเป็นครั้งแรก ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite
พุ่งขึ้น 1.86% มาอยู่ที่ 23,637.46 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้น ยักษ์ใหญ่ Nvidia
และหุ้นชิปอื่นๆ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average เพิ่มขึ้น 337.47 จุด หรือ 0.71% มาอยู่ที่ 47,544.59 จุด ดัชนีหลักทั้งสามตัวปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เช่นเดียวกับดัชนี Russell 2000 ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงหุ้นขนาดเล็ก
“ผมคิดว่าเรามีกรอบการทำงานที่ประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับให้ผู้นำหารือกันในวันพฤหัสบดี” สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวจากการประชุมสุดยอดอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
กรอบการทำงานนี้อาจรวมถึงการเลื่อนการจำกัดการส่งออกแร่หายากของจีน ซึ่งเป็นสาเหตุของความขัดแย้งทางการค้าครั้งล่าสุด การยอมถอยของทรัมป์ที่เคยขู่จะเก็บภาษีนำเข้าจีน 100% ซึ่งกำหนดจะเริ่มในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 และจีนกลับมาซื้อถั่วเหลืองสหรัฐอีกครั้ง ข้อตกลงนี้อาจรวมถึงการแก้ไขข้อพิพาทแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น TikTok โดยสหรัฐ จะได้ข้อตกลงสำหรับแอปวิดีโอโซเชียลเวอร์ชันในประเทศ
“ผมเคารพประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มาก และเราจะได้ข้อตกลงนี้” ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันจันทร์ จากเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน
หุ้นเทคโนโลยีพุ่งขึ้น
ผู้ผลิตชิป ซึ่งเป็นภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากความตึงเครียดกับจีน สนับสนุนการฟื้นตัวในวันจันทร์ โดยหุ้น Nvidia รวมถึงบริษัทอื่นๆ เช่น Broadcom ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 2% ขณะที่ Tesla พุ่งขึ้น 4.3%
ราคาหุ้น Qualcomm ทะยานขึ้น 11% และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ในช่วงต้นของวันซื้อขาย หลังจากที่บริษัทประกาศเปิดตัวชิปปัญญาประดิษฐ์รุ่นใหม่ (AI) ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ทำให้บริษัทสามารถแข่งขันกับ Nvidia และ AMD
“หากข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนเป็นไปในทางที่ดี พันธมิตรทางการค้ารายใหญ่ที่สุดสองรายก็จะร่วมมือกันอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีอย่างยิ่ง” แซม สโตวอลล์ หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ CFRA Research กล่าวกับซีเอ็นบีซี “การคาดการณ์เกี่ยวกับผลประกอบการกลุ่มเทคโนโลยีส่วนใหญ่นั้นไม่ได้รับประโยชน์จากจีน ดังนั้นเมื่อรวมจีนกลับเข้ามาคิดคำนวณด้วย ก็น่าจะส่งผลดีต่อตลาด”
บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เตรียมรายงานผลประกอบการที่จะถึงนี้ โดยหุ้นเจ็ดนางฟ้า “Magnificent Seven” หลายตัว ได้แก่ Alphabet, Amazon, Apple, Meta Platforms และ Microsoft เตรียมประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สามในสัปดาห์นี้ นักลงทุนยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในวันพุธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่สำนักงานสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) เปิดเผยข้อมูลอัตราเงินเฟ้อที่อ่อนตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“หุ้นขนาดเล็ก และขนาดกลางซื้อขายกันในราคาที่ต่ำกว่าหุ้นขนาดใหญ่มาก ดังนั้น หากเรายังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ย และคาดการณ์ว่าจะไม่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย หุ้นเหล่านี้ก็น่าจะทำผลงานได้ดีเช่นกัน” สโตวอลล์ กล่าวเสริม
หุ้นกำลังฟื้นตัวต่อจากสัปดาห์ที่ปรับตัวขึ้น โดยดัชนีหลักทั้งสามตัวทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







