‘สมอทอง’ เปิดเกมระดมทุน ชูเป้าหมายขึ้นแท่นTOP3 ภายใน3ปี

‘สมอทอง’ เปิดเกมระดมทุน ชูเป้าหมายขึ้นแท่นTOP3 ภายใน3ปี

“กลุ่มสมอทอง” ปิดโรดโชว์ยิ่งใหญ่ เตรียมขายหุ้นIPO 231.60 ล้านหุ้น คาดเข้าเทรดเร็วนี้ ระดมทุนขยายโรงงานผลิต เสริมศักยภาพบุกตลาดโลก ตั้งเป้าขึ้นแท่นTOP3 ภายใน 3 ปี  

KEY

POINTS

  • บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน) หรือ SMO เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 231.60 ล้านหุ้น เพื่อระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
  • เงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้ขยายโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มดิบ ปรับปรุงกระบวนการผลิต ลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม และชำระคืนเงินกู้
  • บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำ 1 ใน 3 (TOP 3) ของอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มดิบในประเทศไทยภายใน 3 ปี
  • มีแผนขยายกำลังการผลิต สร้างโรงงานใหม่ในภาคใต้ และลงทุนคลังน้ำมันเพื่อรองรับการขยายตลาดส่งออกไปยังอินเดียและจีน

บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน) หรือ SMO ปิดฉากโรดโชว์เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) 231.60 ล้านหุ้น ณ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อย่างเป็นทางการ หลังเดินสายให้ข้อมูลนักลงทุนทั่วประเทศกว่า 1,500 รายใน 10 จังหวัดหลัก มีการตอบรับที่ดี พร้อมประกาศความพร้อมระดมทุนเพื่อขยายโรงงาน ปรับปรุงกระบวนการผลิต และยกระดับสู่ผู้นำอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มดิบของไทย 

โดยบริษัทประกาศแผนเสนอขายหุ้น IPOจำนวน 231.60 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 25.17% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังการเสนอขาย เพื่อระดมทุนสนับสนุนการขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ รวมถึงลงทุนในโครงการด้านสิ่งแวดล้อมและชำระเงินกู้จากสถาบันการเงิน ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นเดิมได้ตกลงล็อกอัพหุ้นเดิมทั้งหมด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน

ดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ SMO เปิดเผยว่า ภายหลังเสนอข้อมูลกับนักลงทุนเรียบร้อยแล้ว จะกำหนดวันที่เสนอขายหุ้น IPO ซึ่งคาดว่าจะนำ SMO เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในเร็วๆ นี้  

ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทจะนำไปใช้ในการขยายโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มดิบไปยังพื้นที่ใหม่ เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในอุตสาหกรรม และลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องภายในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์หลัก นอกจากนี้ยังมีแผนปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อยกระดับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมตามแนวทาง ESG และบริษัทยังเตรียมนำเงินบางส่วนไปชำระคืนเงินกู้ที่ใช้ในการขยายกำลังการผลิต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

“ความน่าสนใจการระดมทุนครั้งนี้จะเห็นว่าระดับหนี้สินต่อทุนมีโอกาสลดลงอีก จากปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำไม่ถึง1 เท่า  และยังมีแนวโน้มการเติบโตดีต่อเนื่อง1-3ปีข้างหน้าจากEPSย้อนหลัง4ปี ที่0.71บาทต่อหุ้น ถือว่าอยู่ในระดับสูงมากเทียบ EPS ของกลุ่ม และมีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ หลังหักสำรองต่างๆ โดยหุ้นกลุ่มนี้จ่ายปันผลเฉลี่ย 5-7% ต่อปี”

นายกิตติพงษ์ พวงมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน) หรือ SMO เปิดเผยว่า บริษัทมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาอย่างยาวนาน พร้อมด้วยทีมผู้บริหาร และบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถในธุรกิจ ส่งผลให้กลุ่มบริษัทมีพัฒนาการทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สร้างการเติบโดอย่างรวดเร็ว และมีกำลังการผลิตรวม 240 ตันผลปาล์มสดต่อชั่วโมง เป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันปาล์มดิบอันดับดัน ๆ ของประเทศ (กำลังการผลิตอยู่อันดับ Top 5 ) 

โดยตั้งเป้าหมายในปี 2569 ยังเพิ่มกำลังการผลิตรวมอีก 75 ตันผลปาล์มสดต่อชั่วโมงอยู่ที่ 315 ตันผลปาล์มสดต่อชั่วโมง มาจากการรับรู้จากรายได้เต็มปี ขยายโรงงาน อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เสร็จสมบูรณ์เป็นจุดแข็ง และเตรียมขยายโรงงานการผลิตในพื้นที่อื่นๆ อีก 1 โรงงาน ซึ่งยังอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ของไทย พร้อมลงทุนคลังน้ำมันในจุดยุทธศาสตร์ รองรับการขยายตลาดในต่างประเทศ ทั้งอินเดียและมองหาโอกาสในจีนเพิ่มเติม 

ขณะที่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 14.38 เมกะวัตต์ ภายใต้สัญญารับซื้อไฟฟ้า (PPA) รวม 12.7 เมกะวัตต์ มีส่วนช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ  

นายกุศล ศรีเปารยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน SMO กล่าวว่า บริษัทวางกลยุทธ์ขยายตลาดส่งออกในต่างประเทศ ช่วยเสริมการทำกำไรในระยะยาว หลังจากได้ปรับกลยุทธ์ทำตลาดดังกล่าวในช่วง3ปีที่ผ่านแนวโน้มการเติบโตดีต่อเนื่องถือว่ามาถูกทาง และยังวางเป้าหมายเติบโตภายใน 3 ปี ขึ้นเป็นผู้นำระดับ TOP 3 ในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มดิบของไทย 

โดยบริษัทมุ่งสร้างความแตกต่าง ด้วยทำเลโรงงานใกล้แหล่งวัตถุดิบ 4 แห่งในสุราษฎร์ธานี สระบุรี และชุมพร ยังระดมทุนขยายโรงงานการผลิต ปรับปรุงกระบวนการผลิต  มีช่องทางจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการเป็นสมาชิกองค์กร RSPO ด้านน้ำมันปาล์มยั่งยืน