7 หุ้นท่องเที่ยวบวกคึก AAV พุ่งนำกลุ่ม 5.04% อานิสงส์รัฐกระตุ้นท่องเที่ยวรอบใหม่
หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว 7 ตัวปรับตัวขึ้นในตลาดหุ้นไทย โดย AAV เป็นผู้นำกลุ่ม ราคาพุ่งขึ้น 5.04% นักวิเคราะห์เผย การปรับตัวขึ้นของหุ้นเป็นผลมาจากการเก็งกำไรในมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวรอบใหม่ของภาครัฐ
KEY
POINTS
- หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว 7 ตัวปรับตัวขึ้นในตลาดหุ้นไทย โดย AAV เป็นผู้นำกลุ่ม ราคาพุ่งขึ้น 5.04%
- การปรับตัวขึ้นของหุ้นเป็นผลมาจากการเก็งกำไรในมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวรอบใหม่ของภาครัฐ
- นักวิเคราะห์จาก บล.เอเซียพลัส ระบุว่าราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาก่อนหน้านี้ และกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม
- หุ้นตัวอื่นๆ ที่ปรับตัวขึ้น ได้แก่ SHR (+4.73%), DUSIT (+3.60%), THAI (+2.07%), AWC (+1.89%), BA (+1.52%) และ ERW (+0.79%)
ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 21 ต.ค.2568 เวลา 10.50 น. หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวปรับบวก นำโดย
หุ้น AAV บวก 5.04% เพิ่มขึ่้น 0.06 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.25 บาท
หุ้น SHR บวก 4.73% เพิ่มขึ้น 0.07 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.55 บาท
หุ้น DUSIT บวก 3.60% เพิ่มขึ้น 0.40 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 11.50 บาท
หุ้น THAI บวก 2.07% เพิ่มขึ้น 0.20 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 9.85 บาท
หุ้น AWC บวก 1.89% เพิ่มขึ้น 0.04 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 2.16 บาท
หุ้น BA บวก 1.52% เพิ่มขึ้น 0.20 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 13.40 บาท
หุ้น ERW บวก 0.79% เพิ่มขึ้น 0.02 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 2.56 บาท
ภาสกร หวังวิวัฒน์เจิรญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวมีการดีดตัวขึ้นมาเป็นเพราะราคาหุ้นได้มีการปรับตัวลงมาในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีปัจจัยจากการเก็งกำไรในมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐในรอบใหม่นี้ด้วย
อย่างไรก็ดี ในช่วงที่ราคาหุ้นกำลังใกล้เข้าสู่ช่วงของฤดูกาลท่องเที่ยวราคาหุ้นน่าจะยังคงมีปัจจัยสนับสนุนต่อไปได้ ดังนั้นหุ้นที่แนะนำคือ หุ้น CENTEL ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด เนื่องจากเชื่อว่า แนวโน้มของกำไรในปีหน้าจะสามารถเติบโตได้ดีกว่าหุ้นตัวอื่น ๆ ในกลุ่ม โดยปัจจัยหลักที่สนับสนุนกำไรของ CENTEL มาจากตัวของโรงแรมใหม่และโรงแรมในประเทศ ซึ่งจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้น
ขณะที่ MINT เป็นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจ โดยพิจารณาในเชิงของราคา P/E พบว่าราคา ณ จุดนี้ถือว่าไม่แพง เมื่อเทียบกับกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน