10 หุ้นแบงก์บวกยกแผง 4 วันติด BAY-TTB พุ่งนำ 3.83% โบรกเผยผลงานดีกว่าคาด

10 หุ้นแบงก์บวกยกแผง 4 วันติด BAY-TTB พุ่งนำ 3.83% โบรกเผยผลงานดีกว่าคาด

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นยกแผงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยในวันที่ 21 ต.ค. 2568 หุ้น BAY ปรับตัวขึ้นนำตลาดที่ 3.83% ตามมาด้วย TTB ที่ 2.20% นักวิเคราะห์ เผยว่าปัจจัยหนุนมาจากการที่ผลประกอบการของธนาคารที่ประกาศออกมาแล้ว เช่น TISCO, KKP และ KBANK ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

KEY

POINTS

  • หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นยกแผงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยในวันที่ 21 ต.ค. 2568 หุ้น BAY ปรับตัวขึ้นนำตลาดที่ 3.83% ตามมาด้วย TTB ที่ 2.20%
  • นักวิเคราะห์จาก บล. ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล เผยว่าปัจจัยหนุนมาจากการที่ผลประกอบการของธนาคารที่ประกาศออกมาแล้ว เช่น TISCO, KKP และ KBANK ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
  • ผลประกอบการที่ดีเกินคาดทำให้ตลาดมีความหวังเชิงบวกต่อหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ตัวอื่นๆ ที่กำลังจะประกาศผลงาน และกระตุ้นให้เกิดแรงเก็งกำไรในกลุ่ม
  • แม้สินเชื่อกลุ่ม SME และรถยนต์ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน แต่สถานการณ์ก็ไม่ได้แย่ลงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ซึ่งช่วยลดความกังวลของนักลงทุน

ความเคลื่อนไหว"ตลาดหุ้นไทย"ภาคเช้า ณ วันที่ 21 ต.ค.2568 เวลา 10.05 น.หุ้นกลุ่มธนาคารบวกต่อเป็นวันที่  4  นำโดย 

  • หุ้น BAY บวก 3.83% เพิ่มขึ้น 0.90 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 24.40 บาท 
  • หุ้น TTB บวก 2.20% เพิ่มขึ้น 0.04 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 1.86 บาท
  • หุ้น KBANK บวก 2.02% เพิ่มขึ้น 3.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 176.50 บาท
  • หุ้น KTB บวก 1.98% เพิ่มขึ้น 0.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 25.75 บาท
  • หุ้น SCB บวก 1.53% เพิ่มขึ้น 2.00 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 133.00 บาท
  • หุ้น LHFG บวก 1.32% เพิ่มขึ้น 0.01 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 0.77 บาท 
  • หุ้น CREDIT บวก1.20% เพิ่มขึ่้น 0.20 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 16.90 บาท 
  • หุ้น BBL บวก 0.98% เพิ่มขึ้น 1.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 155.00 บาท
  • หุ้น TISCO บวก 0.93% เพิ่มขึ้น 1.00 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 109.00 บาท
  • หุ้น KKP บวก 0.38% เพิ่มขึ้น 0.25 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 65.25 บาท 

10 หุ้นแบงก์บวกยกแผง 4 วันติด BAY-TTB พุ่งนำ 3.83% โบรกเผยผลงานดีกว่าคาด

กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเปิดเผยผลประกอบการของธนาคาร TISCO และ KKP ได้ถูกรายงานออกมาแล้ว ซึ่งผลประกอบการของทั้งสองแห่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ตลาดมีความคาดหวังในเชิงบวก และเช้านี้มีการรายงานของ KBANK ซึ่งดีกว่าคาดเช่นกัน และรอดูต่อสำหรับหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ที่กำลังทยอยออกมาในวันนี้ซึ่งคาดว่าจะดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เช่นกัน

ทั้งนี้ หลังการประชุมกับ KKP ไตรมาส 4/68 การขาดทุนจากรถยึดน่าจะไม่เพิ่มขึ้น แต่น่าจะทรงตัว ซึ่งความเสียหายและขาดทุนจากรถยึดน่าจะอยู่ในขั้นที่สามารถบริหารจัดการได้ แม้ว่าสินเชื่อโดยรวมของไทยยังถูกมองว่าเปราะบาง แต่ก็ยังดูดีขึ้นและไม่ได้แย่ลงไปกว่าเดิมตามที่หลายฝ่ายเคยกังวลไว้ก่อนหน้านี้ จากการปรับลดเครดิตเรตติ้งโดย World Bank และ IMF

"จากผลประกอบการที่ยืนยันว่าสัญญาณการฟื้นตัวของ SME รวมถึงสินเชื่อรถบ้านยังไม่เห็นชัดเจน แต่ก็ไม่ได้แย่ไปมากกว่าเดิม ซึ่งรถบ้านและ SME เป็นกลุ่มที่เปราะบาง การยืนยันนี้จากธนาคารขนาดกลางอย่าง TISCO และ KKP จึงทำให้เกิดแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารขนาดเล็กจะปรับตัวขึ้นแรงกว่าธนาคารขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม หุ้นบางตัว เช่น LHFG ก็ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงเช่นกัน"

สำหรับกลยุทธการลงทุนยังคงมีความชื่นชอบธนาคารขนาดใหญ่มากกว่า แนะนำ KBANK เนื่องจากเป็นตัวที่มีค่าเบต้าสูงที่สุด สามารถซื้อเก็งกำไรได้ ขณะที่หากต้องการเน้นพื้นฐานชื่นชอบ SCB และ KTB มากที่สุด และหากนักลงทุนต้องการเน้นปันผล แนะนำ TISCO และ KKP ซึ่งเป็นตัวที่ปันผลสูง แต่ราคายังไม่สูงมากนัก