หุ้นเวียดนามดิ่ง 5.47% กลุ่มธนาคารฉุดดัชนี หลังกองทุนใหญ่เทขายลดพอร์ต

ดัชนีหุ้นเวียดนาม (VN Index) วันที่ 20 ต.ค.2568 ร่วงลง 5.47% หรือ -94.76 จุด มาอยู่ที่ 1,636.43 จุด โบรกเกอร์เผย สาเหตุหลักมาจากการเทขายทำกำไรของกองทุนรวมขนาดใหญ่ ซึ่งมีกองทุนจากไทยรวมอยู่ด้วย เพื่อล็อกผลกำไรในช่วงท้ายปี กลุ่มที่ถูกเทขายอย่างหนัก และเป็นตัวฉุดดัชนีคือ กลุ่มการเงิน และธนาคาร ซึ่งเป็นหุ้นขนาดใหญ่ โดยปรับตัวลดลงเฉลี่ย 5-6% แนะชะลอลงทุน
KEY
POINTS
- ดัชนีหุ้นเวียดนาม (VN Index) ปิดตลาดวันที่ 20 ต.ค.2568 ร่วงลง 5.47% หรือ -94.76 จุด มาอยู่ที่ 1,636.43 จุด
- สาเหตุหลักมาจากการเทขายทำกำไรของกองทุนรวมขนาดใหญ่ (Active Fund) ซึ่งมีกองทุนจากไทยรวมอยู่ด้วย เพื่อล็อกผลกำไรในช่วงท้ายปี
- กลุ่มที่ถูกเทขายอย่างหนัก และเป็นตัวฉุดดัชนีคือ กลุ่มการเงิน และธนาคาร ซึ่งเป็นหุ้นขนาดใหญ่ โดยปรับตัวลดลงเฉลี่ย 5-6%
- นักวิเคราะห์มองว่าตลาดได้รับรู้ข่าวดีไปแล้ว และประเด็นการเข้า MSCI Emerging Markets index อาจไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ จึงเกิดแรงขายทำกำไรออกมาในหุ้นใหญ่ที่เพิ่งปรับตัวขึ้น
ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นเวียดนาม (VN Index) ณ วันที่ 20 ต.ค.2568 เวลา 15.30 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,636.43 จุด ปรับตัวลดลง 5.47% หรือ -94.76 จุด
วิศกรณ์ คีรีวรรณ, CFA นักกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลดลงประมาณ 5% เป็นผลมาจากแรงขายทำกำไรของกองทุนรวม โดยเฉพาะ Active Fund ถ้าหากตรวจสอบรายชื่อ กองทุนส่วนใหญ่ก็เป็น Mutual Fund ในประเทศไทย ส่วนหนึ่ง ซึ่งกลุ่มที่นำการปรับตัวลงในครั้งนี้คือ กลุ่มการเงิน หรือ Finance ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นตัวใหญ่ โดยมีการขายทิ้งออกมาอย่างหนัก ทำให้หุ้นกลุ่มธนาคารปรับลดลงโดยเฉลี่ยประมาณ 5-6%
ทั้งนี้ หากมองในมุมของผู้จัดการกองทุนเมื่อผ่านเข้าสู่เดือนที่ 10 แล้ว การขายทำกำไรถือเป็นกลยุทธ์เพื่อล็อกผลกำไรหรือเก็บ Performance สำหรับการทำ Profit Sharing
ขณะที่ตลาดหุ้นเวียดนามได้รับรู้ข่าวดีก่อนหน้าไปหมดแล้ว สำหรับขั้นตอนต่อไป คือ การเข้า MSCI Emerging Markets index ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ค่อนข้างใหญ่ แต่จากการประเมินศักยภาพแล้ว มองว่า อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเร็วมากนัก จึงทำให้ตลาดเริ่มมีแรงเทขายทำกำไรออกมา
"ในอดีต ก่อนที่ดัชนีจะทะลุ 1,700 จุด หุ้นที่ขึ้นจะเป็นหุ้นตัวกลาง และตัวเล็ก แต่เมื่อดัชนีทะลุ 1,700 จุด ตัวที่ถูกดันขึ้นมาคือ หุ้นตัวใหญ่ ซึ่งผู้ที่ถือครองหุ้นตัวใหญ่คือ บริษัทจัดการกองทุนรวม อย่างไรก็ตาม หุ้นตัวใหญ่ไม่ค่อยได้ขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และเพิ่งมาขึ้นก่อนที่จะถูกเทขายลงไปในวันนี้"
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาในแง่มูลค่า Valuation ประเมิน ณ ปัจจุบันที่ดัชนีร่วงลงมาแรง หากเทียบกับหุ้นไทยมูลค่าเริ่มใกล้เคียงกัน และเริ่มถูกใกล้ๆ กันแล้ว ก่อนหน้านี้เวียดนามเคยเทรดพรีเมียมแพงกว่าไทย
สำหรับ นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาดเวียดนาม แนะนำไม่ควรเร่งรีบเข้าไปไล่ซื้อ แต่ควรรอให้ตลาดสะเด็ดน้ำก่อน หรือ Wait and See รอให้มีการลงมาพักตัวก่อนในโซนประมาณ 1,500-1,600 จุด เนื่องจากระดับที่ลากขึ้นไปทะลุ 1,700 จุด ก่อนหน้านี้ไม่ได้อยู่ในระดับที่น่าสนใจเหมือนอย่างในอดีต
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







