หุ้นไทยวันนี้ 17 ต.ค.68 เคลื่อนไหวจำกัด เหตุเศรษฐกิจโตต่ำ

บล.พาย เผยนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอติดตามผลประกอบการไตรมาส 3/68 ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยใหม่ในประเทศ ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเบาบาง นักลงทุนต่างชาติยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน โดยมีการซื้อสลับขายสุทธิ ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลต่อเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำ
KEY
POINTS
- การเติบโตของเศรษฐกิจไทยที่ค่อนข้างต่ำเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด
- นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอติดตามผลประกอบการไตรมาส 3/68 ประกอบกับยังไม่มีปัจจัยใหม่ในประเทศ ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเบาบาง
- นักลงทุนต่างชาติยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน โดยมีการซื้อสลับขายสุทธิ ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลต่อเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำ
- ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากปัจจัยภายนอก ทั้งการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบ
หุ้นไทยวันนี้ 17 ต.ค.68 บล.พาย เผย ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 301 จุด (-0.65%) ถูกกดดันจากธนาคารในสหรัฐฯ หลังรายงานการขาดทุนจากสินเชื่อ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.4% หลังมีรายงานว่าทรัมป์และปูตินจะพบกันในเร็วๆ นี้ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าสงครามจะสงบลง
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ ไปให้น้ำหนักกับเรื่องของธนาคารระดับภูมิภาคอย่าง Zions Bancorp ธนาคารระบุว่าอาจต้องตัดสินใจตัดหนี้เสียราว 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตามหากพิจารณาแล้วมูลค่าหนี้ดังกล่าวค่อนข้างเล็กน้อย (ราว 1.6 พันล้านบาท) เทียบกับมูลค่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อยู่ระดับราว 30.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จึงมองไม่ใช่ปัจจัยน่ากังวลอะไรมากนักประเมินว่าตลาดปรับลงเพราะวิ่งขึ้นมาเยอะก่อนหน้านี้มากกว่าประกอบกับนักลงทุนเริ่มรอดูผลประกอบการที่จะทยอยรายงานออกมา อย่างวานนี้บริษัทยักษ์ใหญ่จากฝั่งไต้หวัน (TSMC) ได้รายงานผลประกอบการที่ค่อนข้างดีและส่งสัญญาณว่าจะดีขึ้นต่อเนื่องจากความต้องการของ AI , Data Center
ส่วนการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์อื่นๆ อย่าง Bond Yield พบว่าปรับลง พร้อมกับการอ่อนค่าของ Dollar Index สะท้อนถึงความคาดหวังเชิงผ่อนคลายของนักลงทุนแม้จะยังไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจใดๆก็ตาม การปรับลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯยังมองเป็นเพียงระยะสั้นเพราะท้ายที่สุดแล้วหาก Theme Technology ยังเติบโต ราคาหุ้นก็จะฟื้นตัวได้
ด้านปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรใหม่ๆนักลงทุนรอติดตามผลประกอบการ 3Q25 ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังเคลื่อนไหวจำกัดด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง (วานนี้อยู่ที่เพียง 3.3 หมื่นล้านบาท) ประกอบกับการเติบโตเศรษฐกิจไทยที่ค่อนข้างต่ำด้วยทำให้นักลงทุนต่างชาติยังเป็นลักษณะซื้อสุทธิและสลับขายสุทธิ (วานนี้ขาย 2 พันล้านบาท) วันนี้ประเมิน SET INDEX อาจเผชิญแรงกดดันทั้งจากราคาน้ำมันที่ปรับลงประกอบกับบรรยากาศภูมิภาคเป็นลบจากการปรับลงของ Nikkei (-1% , DJIA -0.6%)
ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นเป็นรายตัวมากกว่า เน้นที่หุ้นได้ประโยชน์จากรัฐบาล อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) รวมไปถึงหุ้นที่ปันผลดีอย่างธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) และกำไรค่อนข้างมั่นคง







