GULF ซื้อหุ้น KBANK เพิ่มทะลุ 5% รับปันผลตั้งแต่ต้นปีแล้ว 1.2 พันล้าน

GULF  ซื้อหุ้น KBANK เพิ่มทะลุ 5%  รับปันผลตั้งแต่ต้นปีแล้ว 1.2 พันล้าน

“กัลฟ์” ทุ่มเกือบพันล้าน ขยับขึ้นผู้ถือหุ้นอันดับ 4 “กสิกรไทย” แตะระดับ 5.02% ย้ำกลยุทธ์ลงทุนยาว รับเงินปันผล ตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว 1.2 พันล้าน คาดไตรมาส 3/68 ยัง “นิวไฮ”

KEY

POINTS

  • บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เข้าซื้อหุ้นธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เพิ่มเติม ทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้นรวม 5.0288% และขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4
  • GULF ระบุว่าการลงทุนใน KBANK เป็นการลงทุนทั่วไปเพื่อหวังผลตอบแทนจากเงินปันผล และส่วนต่างราคาหุ้นในระยะยาว
  • ตั้งแต่ต้นปี 2568 GULF ได้รับเงินปันผลจากหุ้น KBANK แล้วเป็นมูลค่า 1,200 ล้านบาท

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่า บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF รายงานเข้าซื้อหุ้น ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เมื่อ 14 ต.ค. 2568 จำนวน 5,399,600 หุ้น คิดเป็น 0.2278% ในราคาหุ้นละ 169.50 บาท ทำให้หลังการได้มา GULF ถือหุ้น KBANK จำนวน 119,149,900 หุ้น คิดเป็น 5.0288% จากก่อนหน้าถือ 4.8009% โดยใช้เงินลงทุนราว 915 ล้านบาท

อนึ่ง ณ วันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น KBANK ณ วันที่ 11 ก.ย.68 GULF ถือหุ้น KBANK อันดับ 5 สัดส่วน 4.53% แต่ภายหลังซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 5.02% ทำให้ขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 4 รองจาก SOUTH EAST ASIA UK (TYPE C) NOMINEES LIMITED ที่ถือหุ้น 5.06%

ทั้งนี้ การที่ GULF ถือหุ้นเกิน 5% จะส่งผลให้ KBANK จะถูกลดสัดส่วนการให้สินเชื่อลงจากเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะให้ได้ไม่เกิน 5% ของเงินกองทุน หรือ 25% ของภาระหนี้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

GULF  ซื้อหุ้น KBANK เพิ่มทะลุ 5%  รับปันผลตั้งแต่ต้นปีแล้ว 1.2 พันล้าน

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า การลงทุนในหุ้น KBANK สัดส่วนแตะ 5.02% ถือเป็นการลงทุนทั่วไป เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทมี Portfolio การลงทุนอยู่แล้ว

โดยหุ้น KBANK เป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง มีอัตราส่วน P/BV และ P/E ในระดับต่ำ มีประวัติการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) เท่ากับ 7-8% ดังนั้น GULF จึงยังเข้าลงทุนในหุ้น KBANK โดยมุ่งหวังผลตอบแทนจากปันผล และ Upside จากราคาหุ้นดังกล่าวในอนาคต

“ไม่มีอะไรเลยถือเป็นการลงทุนทั่วไปตามปกติ ที่มีการลงทุนมานานแล้ว และซื้อขายหุ้นพิจารณาตามภาวะตลาด ซึ่งการลงทุนใน KBANK เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สร้างผลตอบแทนทางการเงินที่มั่นคงในระยะยาว คาดหวังรับรู้เงินปันผลที่ดี และอัปไซด์จากราคาหุ้น ซึ่งตั้งแต่ต้นปีมานี้รับรู้ปันผลจากหุ้น KBANK มาแล้ว 1,200 ล้านบาท”

ขณะเดียวกัน ปัจจุบันทาง GULF เตรียมแหล่งเงินทุนส่วนอื่นๆ ไว้รองรับหมดแล้ว ท้้งการกู้เพิ่มผ่านธนาคารอื่นๆ ทั้งใน และต่างประเทศได้ จึงไม่ได้รับผลกระทบจากการที่ GULF ถือหุ้นเกิน 5% จะส่งผลให้ KBANK จะถูกลดสัดส่วนการให้สินเชื่อลงจากเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะให้ได้ไม่เกิน 5% ของเงินกองทุน หรือ 25% ของภาระหนี้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

สำหรับ แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 ยังคาดจะยังเติบโตได้ดีนิวไฮต่อจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา จากปัจจัยหลักด้านพลังงาน และการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม และโครงสร้างพื้นฐาน  

โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2568 เติบโต 20-25% จากปี 2567 มาจากโครงการใหม่ที่ COD ในปี 2568 รวมกว่า 1,500 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ และพลังงานหมุนเวียน ส่วนใหญ่เป็นโครงการในประเทศภายใต้กลุ่ม IPP และ SPP อีกทั้ง มีบางส่วนเป็นโครงการร่วมทุนในต่างประเทศ เช่น เวียดนามและโอมาน 

พร้อมกันนี้ จากกระแสเงินสดจากโครงการใหม่จะช่วยรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต และส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH และ ADVANC ก็เพิ่มขึ้นหลังการควบรวมกิจการเสร็จสมบูรณ์ แม้ภาวะเศรษฐกิจโลก และไทยในปี 2568 จะเผชิญความท้าทายจากความผันผวนของตลาด และนโยบายการคลัง แต่ธุรกิจของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง ดังนั้น ยังคงเป้าหมายรายได้ และแผนการดำเนินงานไว้ตามเดิม พร้อมรับอานิสงส์จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งช่วยหนุนกำไรจากการลงทุนในต่างประเทศ และลดต้นทุนการนำเข้าอุปกรณ์พลังงาน

ทั้งนี้ โครงการปี 2568 ยังเป็นไปตามแผน GULF โครงการหลัก 7 โครงการที่วางแผนไว้สำหรับปี 2568 ยังคงดำเนินการตามกำหนด โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ปลวกแดง ที่ทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ครบทั้ง 4 หน่วยแล้ว รวมกำลังผลิต 2,650 เมกะวัตต์ ซึ่งจะรับรู้รายได้เต็มในไตรมาส 3 ปีนี้

นอกจากนี้ การลงทุนดาต้าเซนเตอร์กว่า 13,000 ล้านบาท โดยร่วมทุนกับ Singtel และ AIS ที่จังหวัดชลบุรี ยังเป็นไปตามแผน และพร้อมขยายโครงการเพิ่มอีกหลายแห่งในอนาคต

ขณะเดียวกัน มองหาการลงทุนใหม่ใน และต่างประเทศ แม้จะไม่มีแผนควบรวมกิจการในระยะสั้น แต่ GULF ยังคงมองหาโอกาสลงทุนใหม่ทั้งใน และต่างประเทศ โดยเน้นโครงการที่มีผลตอบแทนมั่นคง และสอดคล้องกับแนวโน้มพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีดิจิทัล

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์