7 หุ้นโรงพยาบาลกอดคอบวก THG-BH นำกลุ่มพุ่ง 5.15% โบรกเผยเก็งผู้ป่วยตะวันออกลางโตเด่น

หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล 7 แห่งปรับตัวขึ้นในเช้าวันที่ 16 ต.ค. 2568 นำโดย THG ที่พุ่งขึ้น 5.15% และ BH ที่บวก 4.21% นักวิเคราะห์ ระบุ การปรับขึ้นของราคาหุ้นเป็นผลมาจากการเก็งกำไรของนักลงทุนต่อการเติบโตที่ดีของผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง
KEY
POINTS
- หุ้นกลุ่มโรงพยาบาล 7 แห่งปรับตัวขึ้นในเช้าวันที่ 16 ต.ค. 2568 นำโดย THG ที่พุ่งขึ้น 5.15% และ BH ที่บวก 4.21%
- นักวิเคราะห์จาก บล.กสิกรไทย ระบุว่าการปรับขึ้นของราคาหุ้นเป็นผลมาจากการเก็งกำไรของนักลงทุนต่อการเติบโตที่ดีของผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง
- แม้คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3/68 ของกลุ่มอาจไม่ดีนัก แต่โรงพยาบาลที่มีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติสูงจะมีแนวโน้มดีกว่าโรงพยาบาลอื่น
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 16 ต.ค.2568 เวลา 10.10 น. หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลกอดคอบวก นำโดย
หุ้น THG บวก 5.15% เพิ่มขึ้น 0.35 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 7.15 บาท
หุ้น BH บวก 4.21% เพิ่มขึ้น 7.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 185.50 บาท
หุ้น MASTER บวก 1.75% เพิ่มขึ้น 0.20 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 11.60 บาท
หุ้น BDMS บวก 1.51% เพิ่มขึ้น 0.30 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 20.20 บาท
หุ้น PR9 บวก 1.27% เพิ่มขึ้น 0.30 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 24.00 บาท
หุ้น EKH บวก 0.95% เพิ่มขึ้น 0.05 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 5.30 บาท
หุ้น RAM บวก 0.54% เพิ่มขึ้น 0.10 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 18.70 บาท
ปิยะฉัตร รัตนสุวรรณ นักวิเคราะห์อาวุโส บล.กสิกรไทย ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลวันนี้ เป็นผลมาจากการเก็งกำไรของนักลงทุนที่เข้ามาเก็งกำไรผู้ป่วยตะวันออกกลางยังคงมีการเติบโตได้ดี ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบกับโรงพยาบาลพระราม 9 เมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลประกอบการของกลุ่มโรงพยาบาลในไตรมาส 3/68 ไม่น่าจะดี สาเหตุหลักมาจากปรากฏการณ์ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อรายได้ของโรงพยาบาล มีช่วงเวลาที่การระบาดหนักที่ถูกเลื่อนออกไป จากปีที่ผ่านมาการระบาดหนักของไข้หวัดใหญ่เกิดขึ้นใน เดือนกรกฎาคม แต่สำหรับปีนี้การระบาดหนักได้เลื่อนไปเกิดขึ้นใน เดือนกันยายน ด้วยเหตุนี้ทำให้โรงพยาบาลได้รับอานิสงส์น้อยลง และอาจได้รับผลบวกจากไข้หวัดใหญ่เพียงแค่เดือนเดียวของไตรมาส 3 เท่านั้น
"แม้ว่าภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 3/68 อาจจะดูไม่ดีเท่าที่ควร แต่มีข้อสังเกตว่า โรงพยาบาลที่มีคนไข้ต่างประเทศจะมีภาษีดีกว่า เมื่อเทียบกับโรงพยาบาลอื่น"
นอกจากนี้ การกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐอาจได้รับผลบวกบ้าง ถึงแม้ว่าโรงพยาบาลจะมีรายได้จากผู้ป่วยที่เป็นนักท่องเที่ยว และการมีคนเข้ามาในประเทศย่อมมีคนป่วย ซึ่งอาจช่วยได้บ้างเล็กน้อย แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องมีการปรับประมาณการ







