S&P 500 ปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น จากผลประกอบการธนาคารดีเกินคาด

ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้นหลังจากผันผวนอีกรอบในวันพุธ โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของธนาคารที่แข็งแกร่งเกินคาด สงครามการค้าสหรัฐ-จีนยังส่งผลกระทบ
ซีเอ็นบีซี รายงานว่าดัชนี S&P 500 กลับมาปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งในวันพุธ (15 ต.ค. 68)โดยได้รับแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารใหญ่อย่าง Bank of America และ Morgan Stanley
ความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และการปิดหน่วยงานรัฐบาลส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่ถูกลดความสำคัญลงเนื่องจากความกระตือรือร้นต่อการเริ่มต้นฤดูกาลผลประกอบการที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ปิดตลาดวันนี้แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยลดลงเพียง 17.15 จุด หรือ 0.04% แตะที่ 46,253.31 จุด ในช่วงเวลาหนึ่งของวัน ดัชนี 30 หุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมากถึง 422.88 จุด
ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.4% แตะที่ 6,671.06 จุด หลังจากเพิ่มขึ้นมากถึง 1.2% ในการซื้อขายระหว่างวัน
ด้านดัชนี Nasdaq Composite ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 0.7% ที่ 22,670.08 จุด หลังปรับตัวขึ้นถึง 1.4% ในช่วงเวลาสั้นๆ
หุ้นในช่วงเช้าได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ Bank of Americaและ Morgan Stanley ราคาหุ้นธนาคาร Bank of America ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 4.4% ขณะที่หุ้น Morgan Stanley ปิดตลาดพุ่งขึ้น 4.7%
“ดูเหมือนว่าธนาคารต่างๆ จะประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เหนือความคาดหมายทั้งด้านกำไรและรายได้” แซม สโตวอลล์ หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ CFRA Research กล่าวกับซีเอ็นบีซี “นั่นเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง และเมื่อรวมกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงปลายเดือนนี้ ก็ยิ่งช่วยเสริมความเชื่อมั่นของนักลงทุน”
ตลาดยังกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน
แต่ความผันผวนที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ยังคงมีอยู่ นักลงทุนต่างรู้สึกกังวลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น ดัชนีความผันผวน Cboe Volatility Index (VIX)
ซึ่งหลายคนรู้จักในฐานะมาตรวัดความกลัวของวอลล์สตรีท พุ่งขึ้นสูงสุดในช่วงบ่าย ปิดที่ 20.6 ดัชนีนี้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมามากกว่า 21.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม
หุ้น AI ที่เคยพุ่งสูงอย่าง Nvidia ลดลงเล็กน้อย 0.1% เมื่อเวลาปิดตลาด หลังจากพุ่งขึ้นถึง 2.7% ในระหว่างวัน
ดัชนี S&P 500 ในวันอังคารพยายามฟื้นตัวขึ้นมา แต่สุดท้ายก็ปิดตลาดในแดนลบ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันพืชจากจีนช่วงท้ายการซื้อขาย เพื่อตอบโต้ที่จีนไม่ยอมซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ยังขู่จะขึ้นภาษีสินค้าจากจีนอีก 100% หากจีนเดินหน้าควบคุมการส่งออกแร่หายากอย่างเข้มงวดด้วย
อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของตลาดหุ้นที่เกิดจากสงครามการค้ายังไม่ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางยอมอ่อนข้อในการเจรจากับจีน รัฐมนตรีคลังสกอตต์ เบสเซนท์ยืนยันเมื่อวันพุธว่า
“เราจะไม่เจรจาเพียงเพราะตลาดหุ้นปรับตัวลดลง เราจะเจรจาเพราะเราทำเพื่อผลประโยชน์สูงสุดทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ” เบสเซนท์กล่าวในงานสัมมนา CNBC Invest in America Forum
การปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งดำเนินมาเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับสถานการณ์ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากหน่วยงานของรัฐถูกระงับการเผยแพร่อย่างไม่มีกำหนด ทำให้ผู้ค้าต้องตัดสินใจโดยไม่มีข้อมูลครบถ้วน
โฮเซ่ ตอร์เรส นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Interactive Brokers กล่าวว่า “ตอนนี้นักลงทุนยังไม่พร้อมจะดันหุ้นขึ้นไปทำสถิติใหม่ เพราะยังรอผลประกอบการและท่าทีจากวอชิงตันหรือปักกิ่งก่อนจะตัดสินใจซื้อมากขึ้น ระดับความผันผวนยังคงสูง นั่นหมายความว่าตลาดอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ทุกเมื่อ หากมีข่าวสารสำคัญที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นและพฤติกรรมการรับความเสี่ยง”







