GRAND เจอคดีฟ้องร้องเบี้ยวหนี้หุ้นกู้ 300 ลบ. บวกดบ.ค้างจ่าย 9.1 % พร้อมตั้งทนายไกล่เกลี่ย

GRAND เจอคดีฟ้องร้องเบี้ยวหนี้หุ้นกู้ 300 ลบ. บวกดบ.ค้างจ่าย 9.1 % พร้อมตั้งทนายไกล่เกลี่ย

GRAND เจอคดีฟ้องร้องผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ 300 ลบ.พร้อมดอกเบี้ย 9.1 % ตั้งทนายไกล่เกลี่ยและเตรียมเจรจาหาผู้ร่วมทุนที่ดินจ.ระยองเพื่อพัฒนาโรงแรม นำกระแสเงินสดมาชำระหนี้หุ้นกู้ต่อไป

         นายวิทวัส วิภากุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)  หรือ GRAND แจ้งข้อมูล เกี่ยวกับข้อพิพาททางกฎหมายที่สำคัญให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2568 บริษัทได้รับสำเนาคำฟ้องคดีผู้บริโภค โดยบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ได้ยื่นฟ้องบริษัทเป็นจำเลย ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ โดยมีรายละเอียดที่สำคัญดังนี้

 

             1. วันที่ถูกฟ้อง วันที่ 25 กันยายน 2568 

             2. คู่กรณี บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ (“โจทก์”)

             3. สรุปสาระสำคัญของคดีความหรือข้อพิพาท ตามที่บริษัทได้เปิดเผยรายงานการผิดนัดชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยของ “หุ้นกู้มีประกันของบริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 4/2565 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2568 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน” (“หุ้นกู้ GRAND256A”)

         โดยมีมูลค่าหุ้นกู้ที่ยังไม่ได้ ไถ่ถอนจำนวน 300,000,000.- บาทต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 แล้ว ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทได้มีการติดต่อนัดหมายกับผู้ถือหุ้นกู้เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับรายละเอียดการชำระคืนหนี้หุ้นกู้ ชุดดังกล่าว แต่บริษัทยังไม่สามารถเจรจาตกลงให้เป็นที่พอใจของผู้ถือหุ้นกู้ได้

         และต่อมา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2568 บริษัทได้รับสำเนาคำฟ้องคดีผู้บริโภค โดยบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้แทน ผู้ถือหุ้นกู้ได้ยื่นฟ้องบริษัทเป็นจำเลยต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ในเรื่องผิดสัญญาหุ้นกู้และจำนอง และให้บริษัทชำระเงิน จำนวน 312,609,863.02 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 9.15 ต่อปีของต้นเงินจำนวน 300,000,000.- บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าบริษัทจะชำระให้แก่โจทก์เสร็จสิ้น

           4. การดำเนินการจัดการกับข้อพิพาท บริษัทจะแต่งตั้งทนายความเพื่อดำเนินกระบวนพิจารณาในชั้นศาลตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และบริษัทจะพยายามเจรจาไกล่เกลี่ยกับผู้ถือหุ้นกู้เพื่อหาแนวทางการชำระคืนหนี้หุ้นกู้ชุดดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ ระหว่างติดต่อผู้ให้วงเงินสินเชื่อรายอื่น รวมถึงสถาบันการเงิน และอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้สนใจร่วมลงทุน ในที่ดินจังหวัดระยองเพื่อพัฒนาโรงแรมโดยบริษัทคาดว่าจะนำกระแสเงินสดที่ได้จากการร่วมลงทุนมาชำระหนี้หุ้นกู้ ต่อไป

         5. ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น 5.1 ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการดำเนินงานของบริษัท บริษัทยังสามารถดำเนินธุรกิจโดยปกติของบริษัทต่อไป โดยไม่มีข้อจำกัดสิทธิในการประกอบ ธุรกิจปกติของบริษัทแต่อย่างใด 5.2 ประมาณการค่าเสียหายหรือเงินชดเชยที่บริษัทต้องจ่ายเมื่อแพ้คดี มูลค่าเงินต้นของหุ้นกู้ GRAND256A ที่ยังไม่ได้ไถ่ถอนจำนวน 300,000,000.- บาท

        โดยมี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.15 ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยผิดนัดร้อยละ 9.15 ต่อปี ซึ่งจำนวนทุนทรัพย์ตามคำร้องขอของ โจทก์ ศาลจะต้องพิจารณาและมีคำสั่งตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง (ถ้ามี) ซึ่งอาจไม่เป็นไปตามคำฟ้องของคู่กรณี

         นอกจากนี้ บริษัทได้บันทึกดอกเบี้ยค้างจ่ายโดยใช้อัตราดอกเบี้ยผิดนัดร้อยละ 9.15 ต่อปี ตามที่กำหนด ในข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ GRAND256A และแสดงรายการหุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระหนี้จำนวน 300,000,000.- บาท เป็นส่วนหนึ่งของ “ส่วนของหุ้นกู้ที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี” ในงบฐานะการเงินของบริษัท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 แล้ว