หุ้นไทยวันนี้ 14 ต.ค.68 ขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ระหว่างนี้รอติดตามผลประกอบการ

หุ้นไทยวันนี้ 14 ต.ค.68 ขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ระหว่างนี้รอติดตามผลประกอบการ

บล.พายเผย ตลาดหุ้นไทยยังขาดปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน โดยปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรใหม่ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงผันผวนจากประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และการที่หน่วยงานสหรัฐฯ ปิดทำการ นักลงทุนกำลังเข้าสู่ช่วงรอดูผลประกอบการไตรมาส 3/68 โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่จะเริ่มประกาศเป็นกลุ่มแรก ซึ่งมีการคาดการณ์เบื้องต้นว่ากำไรทั้งกลุ่มจะขยายตัว 3.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน

KEY

POINTS

  • ตลาดหุ้นไทยยังขาดปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน โดยปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรใหม่ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังคงผันผวนจากประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และการที่หน่วยงานสหรัฐฯ ปิดทำการ
  • นักลงทุนกำลังเข้าสู่ช่วงรอดูผลประกอบการไตรมาส 3/68 โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่จะเริ่มประกาศเป็นกลุ่มแรก ซึ่งมีการคาดการณ์เบื้องต้นว่ากำไรทั้งกลุ่มจะขยายตัว 3.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน
  • ประเมินว่า SET INDEX จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1280 - 1300 จุด และคาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลออกจากหุ้น DELTA หมุนไปยังหุ้นขนาดใหญ่ตัวอื่นๆ เช่น กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก และท่องเที่ยว

หุ้นไทยวันนี้ 14 ต.ค.68 บล.พาย เผย ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 587 จุด +1.3% ตลาดคลายกังวลปัจจัยการค้าระหว่าง สหรัฐ-จีน

ด้าน ราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.94% การคลายกังวลการค้าสหรัฐฯ กับจีนช่วยกระตุ้นความคาดหวังเกี่ยวกับ อุปสงค์
 

ทั้งนี้ ฝั่งสหรัฐฯ ยังคงไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่รายงานออกมาเช่นเดิมเพราะหน่วยงานในสหรัฐฯ ยังไม่ได้กลับมาเปิดทำการ แต่อย่างไรก็ตามในวันศุกร์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลง (S&P500 -2.7% , Nasdaq -3.5%) เพราะ ทรัมป์ ระบุใน Truth Social ว่าจีนกำลังมีท่าทีเป็นปฎิปักษ์กับโลกมากขึ้นโดยเฉพาะการผูกขาดโลหะหายากพร้อมระบุเพิ่มเติมว่าทางสหรัฐฯ กำลังพิจารณาขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนในระดับมหาศาลพร้อมจะจำกัดการส่งออกสินค้า Software ไปยังจีน 
 

แต่อย่างไรก็ตามในช่วงวันอาทิตย์ตามเวลาประเทศไทย ทรัมป์ ออกมาระบุใหม่ว่าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับจีนแม้อาจมีช่วงเวลาไม่ดีกับจีนไปบ้างแต่จีนก็ไม่ต้องการให้ประเทศตนเองต้องย่ำแย่รวมถึงสหรัฐฯ ด้วยและพร้อมจะช่วยเหลือประเทศจีนไม่ให้ต้องเจ็บตัว ทำให้ตลาดหุ้น Dow Jones Future ช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาประเทศไทยกลับมาเปิดแดนบวก แต่อย่างไรก็ตามจากสถิติหากตลาดหุ้นสหรัฐฯหรือหุ้นทั่วโลกปรับลงในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยหยุดทำการ ตลาดหุ้นไทยมักจะปรับลงก่อนและค่อยฟื้นตัวทีหลัง 

ด้านปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรใหม่ๆนักลงทุนจะเริ่มเข้าสู่ช่วงรอดูผลประกอบการไตรมาส 3/68 โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารที่จะเริ่มประกาศ (เบื้องต้นที่เราคาดการณ์ไว้กำไรทั้งกลุ่มขยายตัว 3.5%YoY ตัวที่ขยายตัวเด่นสุดจะได้แก่ KTB +28%YoY 

ด้านตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ปรับลง 2% (-27 จุด) แต่แรงกดดันหลักๆมาจาก DELTA ที่มีผลต่อดัชนีมากถึง 18 จุด , AOT 2.3 จุด สำหรับ DELTA ติด Cash Balance แต่ตามสถิติมักปรับลงเพียงระยะสั้นจากนั้นก็ฟื้นตัวได้ 

คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามเพราะหน่วยงานในสหรัฐฯยังคงปิดทำการ วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1280 - 1300 อาจเห็นการปรับฐานบ้างจากวันก่อนหน้าที่ทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯและเอเชียปรับลงแต่อย่างไรก็ตามประเมินเป็นเพียงระยะสั้นก่อนจะฟื้นตัวกลับมาในที่สุดจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นและผ่อนคลายการค้าสหรัฐฯกับจีน ทั้งนี้ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินไหลออกจาก DELTA และจะหมุนไปยังหุ้นขนาดใหญ่ตัวอื่นๆ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ BBL KBANK KTB SCB ค้าปลีก BJC CPALL CPAXT HMPRO ท่องเที่ยว AOT MINT โรงพยาบาล BDMS