หุ้นไทยเช้านี้เปิดบวก 7.66 จุด แรงหนุน DELTA พุ่ง 4.44% โบรกต่างชาติ อัปเกรดเพิ่ม

ความเคลื่อนไหว"หุ้นไทยวันนี้" 9 ต.ค.68 ตลาดหุ้นเปิดเช้านี้ บวก 7.66 จุด หรือ 0.59% อยู่ที่ 1,312.58 จุด  มี มูลค่าซื้อขาย รวมทั้งสิ้น 2,417.07 ล้านบาท ขณะที่ หุ้น DELTA หรือ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.44% เพิ่มขึ้น 8.50 บาท ระดับราคาอยู่ที่ 200.00 บาท

กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ทรงดียืนเหนือ 1,300 จุด โดยคาดดัชนีมีโอกาสไปทดสอบที่ระดับ 1,320 จุด และมองว่าระดับ 1,300 จุด จะไม่หลุดลง
 

ทั้งนี้ ปัจจัยหนุนตลาดมาจากวานนี้ที่มติคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ย ไว้ที่ 1.5% ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ผิดคาด เนื่องจากทั้งตลาดและนักวิเคราะห์ต่างคาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม แม้ผลมติจะผิดคาด แต่ราคาหุ้นกลับไม่ปรับตัวลดลง และสามารถยืนเหนือระดับ 1,300 จุด ได้ ดังนั้นการที่ตลาดไม่ลงถือเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้น

ขณะเดียวกันเช้านี้โบรกเกอร์ต่างชาติ ได้ทำการอัปเกรดหุ้น DELTA เพิ่มคำแนะนำคือให้ "ซื้อ"โดยกำหนด ราคาเป้าหมายไว้ที่ 217 บาท ราคานี้ถือว่าค่อนข้างสูง อย่างไรก็ดี DELTA เป็นหุ้นที่เชื่อมโยงกับธีม AI มองว่าถ้าจะเล่นธีม AI ในไทย ต้องเล่นหุ้น DELTA ขณะเดียวกัน DELTA เป็นหุ้นที่แบกดัชนีหุ้นไทยมาตลอด 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้นการอัปเกรดในครั้งนี้คาดว่าจะเข้ามาช่วยหนุนดัชนีได้อีกทางหนึ่ง

สำหรับกลยุทธ์และหุ้นเด่นวันนี้ การลงทุนระยะกลางถึงยาวควรเลือกหุ้นที่มีลักษณะ Defensive เช่น BDMS และ ADVANC ส่วนการเทรดดิ้งระยะสั้น แนะนำ DELTA 

วิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า ผลการประชุม กนง. วานนี้มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ 5:2 เสียง ให้ “คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50%” ซึ่งสอดคล้องกับที่เราคาด แต่สวนกับตลาดที่คาดหวังการลดดอกเบี้ยในรอบนี้ โดยประเด็นสำคัญคือ ทาง กนง. ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในกรอบเป้าหมายที่คาดไว้ โดยคาด GDP ไทย ปีนี้ที่ +2.2% และปีหน้าที่ +1.6% โดยภาพระยะสั้นช่วงไตรมาส 3/68 อาจมีความเสี่ยงจากภาคการผลิตที่ลดต่ำลง ภาคสินเชื่อยังคงหดตัวอ่อนๆ ส่วนด้านการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ ขณะที่ภาคบริโภคทรงตัว ส่วนในฝั่งของภาคส่งออกมีปรับประมาณขึ้นดีกว่าคาดเดิม 

นอกจากนี้ทางคณะกรรมการมีความต้องการที่จะดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลาย แต่ก็ยังต้องคำนึงถึงเรื่อง Policy space ที่อาจเหลือไม่มาก ดังนั้นคงต้องหาจังหวะในการดำเนินนโยบายในช่วงถัดไปในเวลาที่เหมาะสม ส่วนด้านเงินเฟ้อมีการปรับลดประมาณการปีนี้ลงสู่ระดับ 0% โดยมีแรงกดดันจากราคาพลังงานและอาหารสด ในขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานยังยืนแดนบวกอ่อนๆ สะท้อนไทยยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะเงินฝืด

ส่วนด้านราคาน้ำมันดิบเริ่มอ่อนตัว ตอบรับตัวเลข สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯรายสัปดาห์พบว่า ปรับขึ้น 3.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าตลาดที่คาดขยายเพียง 4.97 แสนบาร์เรล ผสานกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า อิสราเอลและฮามาส “เห็นชอบ” ระยะที่หนึ่งของแผนสันติภาพ กดดันราคาน้ำมันดิบมากยิ่งขึ้น

หุ้นแนะนำวันนี้ PRTR เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น 15% ซึ่งได้กองทุน Holistic Impact เข้ามาถือ (ซึ่งถือ 100% โดย Lombard Asia V)

ภาพแนวโน้มธุรกิจของ PRTR ยังคงเติบโตได้ดีทำกำไร New High รายปีอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ Valuation ยังอยู่ในระดับที่ไม่แพง โดยปัจจุบันเทรดเพียง PE ratio 7.9 เท่า ต่ำกว่าผู้นำธุรกิจ HR Solution เหมือนกันในสิงคโปร์อย่าง HR NET ซึ่งเทรดที่ 15.7 เท่า ราคาาเป้าหมาย 5.25 บาท