4 หน่วยงานผนึกกำลัง เปิด 4 มาตรการยกระดับเสน่ห์ตลาดทุนไทย

สศค.- ก.ล.ต. - ตลาดหลักทรัพย์ฯ - FETCO เดินหน้า เปิดเกมรุกร่วมขับเคลื่อน 4 ชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทยสู่สากล เสริมสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน ยกระดับขีดความสามารถ
KEY
POINTS
- 4 หน่วยงานด้านตลาดทุน ได้แก่ สศค., ก.ล.ต., ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ FETCO ร่วมกันเปิดตัว "ชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดหุ้นไทย" เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
- มาตรการหลักประกอบด้วย 4 ด้าน คือ Quality Demand (สร้างอุปสงค์คุณภาพ), Attractive Supply (เพิ่มอุปทานที่น่าสนใจ), Trusted Market (สร้างตลาดที่น่าเชื่อถือ) และ Supportive Ecosystem (พัฒนาระบบนิเวศที่เอื้ออำนวย)
- มุ่งส่งเสริมการลงทุนระยะยาวผ่านบัญชีการลงทุนส่วนบุคคล (Individual Investment Account) พร้อมดึงดูดบริษัทที่มีศักยภาพเข้าจดทะเบียน และปรับปรุงกระบวนการเสนอขายหุ้น IPO
- ยกระดับการกำกับดูแล และบังคับใช้กฎหมายให้เข้มแข็งขึ้น ควบคู่กับการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการลงทุน และเปลี่ยนผ่านสู่ตลาดทุนดิจิทัล
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ร่วมแถลงข่าว เปิด "ชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดหุ้นไทย" พร้อมเดินหน้าผลักดัน 4 มาตรการหลัก ได้แก่ Quaity Demand - Attractive Supply - Trusted Market - Supportive Ecosystem เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ลงทุน ยกระดับขีดความสามารถ และเพิ่มความน่าสนใจของตลาดทุนไทยในระดับสากล
จากการประชุมร่วมของคณะทำงานเพื่อพิจารณามามาตรการปฏิรูปตลาดทุนไทย (Taskforce) ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนจาก สศค. ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ FETCO เพื่อระดมความเห็น วิเคราะห์ปัญหา และหาแนวทางส่งเสริมความสามารถของตลาดหุ้นไทย ให้แข่งขันได้ และยืดหยุ่นต่อความท้าทาย เพื่อยังคงบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทย
โดยคณะทำงาน Taskforce ได้ข้อสรุปร่วมกันและเสนอ "ชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดหุ้นไทย" ซึ่งมี 4 มาตรการหลัก พร้อมแผนการดำเนินการที่สำคัญเร่งด่วนในแต่ละมาตรการ ดังนี้
- Quality Demand ประกอบด้วย (1) การสร้างวัฒนธรรมการลงทุนระยะยาวผ่านบัญชีการลงทุนส่วนบุคคล (Individual Investment Account) เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเปลี่ยนเงินออมเงินลงทุนระยะยาว และกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย มีการขยายฐานผู้ลงทุนกลุ่มใหม่ เพิ่มการให้บริการการลงทุนในตลาดหุ้น และผลิตภัณฑ์ของบริษัทหลักทรัพย์ รวมถึงสร้างศูนย์รวมข้อมูลพอร์ตของผู้ลงทุน (wealthaggregator) และ (2) การส่งเสริมบทบาทผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดทุนไทย
- Attractive Supply ประกอบด้วย (1) การดึงดูดกิจการที่มีศักยภาพ และคุณภาพเข้าสู่ตลาดทุนไทย(2) การยกระดับคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนในปัจจุบัน ผ่านโครงการ Jump+ และ Value Up Program(3) การปรับขั้นตอนการออก และเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ให้มีประสิทธิภาพ และทำให้ตลาดทุนไทยเป็นที่น่าสนใจและสามารถแข่งขันในระดับภูมิภาคได้ (4) การปรับปรุงเกณฑ์การเข้าถึงแหล่งระดมทุนของ SMEs และ New Economy ให้น่าสนใจ และ (5) การเปิดเผยข้อมูล ESG ตามมาตรฐาน ISSB และมุ่งผลให้เกิดการปฏิบัติจริง เพื่อดึงดูดผู้ลงทุนที่คำนึงถึงความรับผิดชอบด้าน ESG ในระดับสากล
- Trusted Market ประกอบด้วย (1) การสร้างความเข้มแข็งในการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียน และการบังคับใช้กฎหมาย (2) การยกระดับการกำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพในตลาดทุน (qatekeepers) เพื่อป้องปรามการกระทำที่ไม่เหมาะสม และ (3) การใช้เทคโนโลยีเพิ่มช่องทางเข้าถึงข้อมูลทางการเงินของบริษัทขนาดกลาง และเล็ก
- Supportive Ecosystem ประกอบด้วย (1) การเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนการสร้างผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย (2) นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการลงทุนของรายย่อย และเปลี่ยนผ่านตลาดทุนสู่ตลาดทุนดิจิทัล (3) ทบทวนหลักเกณฑ์การซื้อขายให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ลงทุน และ (4) การให้ผู้ลงทุนต่างประเทศสามารถใช้สิทธิ e-proxy ได้สะดวกยิ่งขึ้น
ดร.วโรทัย โกศลพิศิษฐ์กูล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สศค. กล่าวว่า ชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทยนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการเสริมสร้างศักยภาพให้ตลาดทุนไทยมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะยาว เพราะเมื่อตลาดทุนสามารถดูดธุรกิจที่มีศักยภาพให้เข้ามาระดมทุน จะช่วยเพิ่มโอกาสของประเทศในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในด้านต่างๆ รวมทั้งเพิ่มจำนวนนักลงทุนในตลาดมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ตลาดทุนไทยมีประสิทธิภาพในการเป็นแหล่งระดมทุนเพื่อพัฒนาประเทศต่อไป ซึ่งมาตรการเหล่านี้ยังสอดคล้องกับแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4 (พ.ศ.2565 -2570) ที่หน่วยงานด้านตลาดทุนได้ดำเนินการมาโดยตลอด และขณะเดียวกันก็ถือเป็นมาตรการ Quick Win ที่จะก่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงประจักษ์ในระยะสั้น แต่ส่งผลต่อการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในระยะยาว
"สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจด้านนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการพัฒนาตลาดทุนในภาพรวม พร้อมที่จะร่วมมือ และสนับสนุนการดำเนินการกับทุกภาคส่วน เพื่อผลักดัน และสานต่อมาตรการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป"
ศาสตราจารย์ ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ได้ริเริ่มจัดตั้งคณะทำงานTaskforce ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของภาครัฐ และหน่วยงานภาคเอกชน เพื่อร่วมกันผลักดันมาตรการพัฒนาตลาดทุนไทยอย่างเป็นรูปธรรม ส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันระยะยาวอย่างยั่งยืน สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจ และบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมทั้งยกระดับความเชื่อมั่นให้กับตลาดทุนไทย
โดยเชื่อมั่นว่าการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบต้องอาศัยความร่วมมือทำงานของทุกภาคส่วนในตลาดทุน โดยชุดมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดหุ้นไทย ที่เสนอโดยคณะทำงาน Taskforce ครอบคลุมทั้งฝังอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งจะมีการตั้งคณะทำงานย่อย (Working Group) ในการติดตามและผลักดันมาตรการต่อเนื่อง เพื่อเร่งขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในระยะสั้น
พร้อมกันนี้ ในระยะถัดไป ก.ล.ต. จะเดินหน้าพัฒนาตลาดทุนในส่วนอื่น ทั้งตลาดตราสารหนี้ หน่วยลงทุน ตลอดจนการเปลี่ยนผ่านตลาดทุนสู่ตลาดทุนดิจิทัล โดยจะมีการจัดตั้งคณะทำงานชุดอื่นเพิ่มเติมต่อไป ซึ่ง ก.ล.ต. พร้อมทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการสร้างความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่างหน่วยงานต่างๆ
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า "ความร่วมมือของคณะทำงาน Taskforce ครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการยกระดับศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และความน่าสนใจของตลาดทุนไทย ตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมผลักดันมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทยอย่างเต็มที่ ตั้งแต่การดึงดูดกิจการ New Econormy ที่มีศักยภาพเข้าจดทะเบียน การยกระดับคุณภาพบริษัทจดทะเบียนผ่านโครงการ Jump+ การใช้เทคโนโลยีเพิ่มการเข้าถึงข้อมูลของผู้ลงทุน ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุน หลากหลายตอบโจทย์ผู้ลงทุนทุกกลุ่ม ตลอดจนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นตลาดหลักทรัพย์
ไทยเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง พร้อมรับมือความผันผวนของการแข่งขันระดับภูมิภาค โดยเน้นการพัฒนาคุณภาพตลาด สร้างความน่าเชื่อถือ และยกระดับกำกับดูแล เพื่อให้ตลาดทุนไทยเป็นแหล่งระดมทุนที่มีประสิทธิภาพ
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า "การขับเคลื่อน" ชุดสร้างเสน่ห์ตลาดหุ้นไทย' เป็นความร่วมมือสำคัญจากทุกภาคส่วนในตลาดทุน ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขันของตลาดหุ้นไทยให้แข็งแกร่ง พร้อมรับต่อความท้าทาย และยังคงบทบาทสำคัญในการเศรษฐกิจไทยต่อไป โดยเฉพาะการมุ่งเน้นการสร้าง Quality Demand ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมนั้น จะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมการลงทุนระยะยาว ทั้งการพัฒนาบัญชีการลงทุนส่วนบุคคลลงทุนสามารถเปลี่ยนเงินออมเป็นการลงทุนระยะยาวให้เพียงพอพร้อมรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุการสร้างศูนย์รวมข้อมูลพอร์ตเพื่อการบริหารความมั่งคั่งของผู้ลงทุนอย่างครบวงจร
นอกจากนี้ การส่งเสริมบทบาทของผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ ถือเป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดทุนไทยให้มีเสถียรภาพ และยั่งยืนยิ่งขึ้น
“เราเชื่อมั่นว่ามาตรการเหล่านี้จะทำให้ตลาดหุ้นไทยเป็นหนึ่งในเสาหลักของการเติบโตของเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืนในอนาคต"
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







