ผ่า 8 หุ้น กลุ่มปตท. ผ่านมา 9 เดือน ผลตอบแทนราคาไปไกลแค่ไหน?

ในเครือ PTT Group จำนวน 8 หลักทรัพย์ จะมีมูลค่ารวมสูงสุด ตั้งแต่ต้นปี 2568 หุ้น TOP มีผลตอบแทนราคาสูงสุดในกลุ่มตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ +23.89% รองลงมา OR ให้ผลตอบแทนราคา YTD +5.26%
KEY
POINTS
- TOP (ไทยออยล์) มีผลตอบแทนราคาสูงสุดในกลุ่มตั้งแต่ต้นปี (YTD) ที่ +23.89%
- OR (ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก) ให้ผลตอบแทนราคา YTD +5.26%
- PTTGC (พีทีที โกลบอล เคมิคอล) ให้ผลตอบแทนราคา YTD +2.46%
- PTT (ปตท.) บริษัทแม่ ให้ผลตอบแทนราคา YTD +1.57%
- GPSC (โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่) มีผลตอบแทนราคา YTD ติดลบเล็กน้อยที่ -0.65%
- PTTEP (ปตท.สผ.) มีผลตอบแทนราคา YTD ติดลบ -3.78%
- IRPC (ไออาร์พีซี) มีผลตอบแทนราคา YTD ติดลบ -7.32%
- GGC (โกลบอลกรีนเคมิคอล) มีผลตอบแทนราคา YTD ต่ำสุดในกลุ่มที่ -10.00%
แม้ PTT จะมีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับ 2 ของตลาดหลักทรัพย์ไทย แต่หากรวมบริษัทในเครือ PTT Group จำนวน 8 หลักทรัพย์ จะมีมูลค่ารวมสูงสุด โดยเครือ PTT ดำเนินธุรกิจพลังงานครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ครอบคลุมการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม PTTEP, โรงกลั่นและปิโตรเคมี TOP IRPC PTTGC , น้ำมันและค้าปลีก OR, ก๊าซธรรมชาติและระบบท่อ PTT รวมถึงพลังงานสะอาด GPSC และ GGC ประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" ได้เข้าไปสำรวจผลงานด้านราคาหุ้นของบริษัทในเครือ PTT ว่า ตั้งแต่ต้นปี 2568 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) TOP
- บัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
- ราคา YTD 23.89%
- มาร์เก็ตแคป 78,184 ล้านบาท
- EBITDA 17,077 ล้านบาท
- P/E 9.17 เท่า
- P/BV 0.46 เท่า
- เงินปันผล YTD 5.43%
- ราคาสูงสุด/ต่ำสุดในรอบปี 51.75 / 21.00 บาท
- กำไรครึ่งปีแรก 9,979 ล้านบาท
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า บอร์ด TOP อนุมัติโครงการบริหารจัดการสินทรัพย์ (Asset Monetization) มูลค่าไม่เกิน 3.7 หมื่นล้านบาท โดยนำทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานบางส่วน เช่น ถังน้ำมันดิบ ทุ่นผูกเรือกลางทะเล สถานีจ่ายน้ำมันทางรถ และที่ดิน ไปให้บริษัทใหม่ที่จัดตั้งขึ้นถือครอง PTT Tank 49% และ TOP 51% ซึ่ง TOP จะเช่ากลับเพื่อใช้ดำเนินธุรกิจต่อ เป็นระยะเวลา 21 ปี
ทั้งนี้ TOP จะได้รับเงินสดทันที 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปลดหนี้ ลดภาระดอกเบี้ยลงราว 650 ล้านบาทต่อปีสอดคล้องกลยุทธ์ Deleveraging เพื่อรักษาเครดิตเรทติ้งไม่ให้ต่ำกว่า Investment Grade แต่ทว่าแม้ต้องจ่ายค่าเช่าราว 3.2 พันล้านบาทต่อปี ทำให้ต้นทุนอยู่ราว 7.5% สูงกว่า Cost of Debt ปัจจุบันที่ 4% แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงด้านเครดิตในภาพรวม หลังทำดีลนี้ Net Debt/EBITDA อยู่ราว 8.5 เท่า สูงกว่ากรอบที่สถาบันจัดอันดับแนะนำน้อยกว่า 6 เท่า แต่ได้รับแรงหนุนจาก PTT ทำให้มุมมองภาพรวมยังดี
อย่างไรมุมมอง ดีลดังกล่าวจะช่วยเสริมฐานะการเงิน ลดความเสี่ยงถูกลดเครดิตเรทติ้ง แม้ต้องแลกกับต้นทุนเช่าที่สูงขึ้น แนะนำ Neutral ต่อหุ้น TOP เนื่องจากกำไรไตรมาส 3/68 ยังถูกกดดันจากการปิดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่น CDU-3 เป็นเวลา 30 วัน และ TPX & TLB อีก 45 วัน รวมถึง GRM และ Spread ปิโตรเคมี ลดลง QoQ แต่ทั้งนี้ในช่วงสั้นสามารถ trading ได้ใน Theme สงครามที่อาจทําให้ราคาน้ํามันสูงขึ้น
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) OR
- หม่อมหลวง ปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- ราคา YTD 5.26%
- มาร์เก็ตแคป 168,000 ล้านบาท
- EBITDA 12,495 ล้านบาท
- P/E 20.99 เท่า
- P/BV 1.48 เท่า
- เงินปันผล YTD 5.43%
- ราคาสูงสุด/ต่ำสุดในรอบปี 17.70 / 10.10 บาท
- กำไรครึ่งปีแรก 6,611.28 ล้านบาท
บล.บัวหลวง ระบุว่า วันที่ 30 ก.ย.2568 คณะกรรมการ OR มีมติเลิกกิจการบริษัทร่วมทุนในเวียดนาม ORC Coffee Passion Group (ORCG) ที่ OR ถือหุ้น 60% และ CRG 40% เนื่องจากการแข่งขันสูง โดยคาดบันทึกขาดทุน 70-80 ล้านบาท ในไตรมาส 4/68 คาว่าจะกระทบกำไรปีนี้ ราว 1% ซึ่งเป็นบวกในระยะยาวเพราะไม่ต้องรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนต่อไป ในช่วงปี 2567 รับรู้ 50–60 ล้านบาท จึงเป็น Positive sentiment ต่อหุ้น และด้วยฐานะการเงินแข็งแกร่ง OR ยังมีโอกาสรักษาอัตราผลตอบแทนปันผล 3.6–4.0% ได้ คงคำแนะนำ “ถือ”
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) PTTGC
- ณะรงค์ศักดิ์ จิวากานันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- ราคา YTD 2.46%
- มาร์เก็ตแคป 112,721 ล้านบาท
- EBITDA 12,722 ล้านบาท
- P/E - เท่า
- P/BV 0.44 เท่า
- เงินปันผล YTD 2.00%
- ราคาสูงสุด/ต่ำสุดในรอบปี 30.25 / 14.20 บาท
- กำไรครึ่งปีแรก -6,183.33 ล้านบาท
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า PTTGC เดินหน้าแผน Asset Monetization เริ่มต้น 2 ดีลใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 9 พันล้านบาท ธุรกรรมที่ 1 ขายหุ้น 35.43% ในบริษัท ไทยแท้งค์เทอร์มินัล (TTT) มูลค่า 4.4 พันล้านบาท ให้แก่ PTT Tank (PTT ถือหุ้น 100%) โดยยังถือหุ้น 1% หลังขาย และอาจได้ค่าตอบแทนเพิ่มสูงสุด 604 ล้านบาท หากต่อสัญญาบริการถังบรรจุอีเทน (2587–2595) ดีลนี้ทำให้ PTTGC บันทึกกำไรพิเศษสุทธิภาษี 1.1 พันล้านบาท แต่ส่วนแบ่งกำไรลดลงราว -284 ล้านบาท/ปี
ธุรกรรมที่ 2 ขายทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐาน (ท่าเทียบเรือ คลังผลิตภัณฑ์ และสิทธิการใช้ที่ดิน) มูลค่า 4.8 พันล้านบาท ให้บริษัทย่อยใหม่ของ PTT Tank พร้อมเช่ากลับบางส่วนระยะสั้น ทำให้บันทึกกำไรพิเศษสุทธิภาษี 1.2 พันล้านบาท แต่มีภาระค่าเช่าสุทธิราว -70 ล้านบาท/ปี
รวมทั้งสองธุรกรรม PTTGC จะได้รับเงินสดรวมกว่า 9.2 พันล้านบาท เพื่อลดหนี้ ช่วยประหยัดดอกเบี้ยราว +240 ล้านบาท/ปี ส่งผลสุทธิทำให้กำไรหายไปเพียง -114 ล้านบาท/ปี ขณะที่บันทึกกำไรพิเศษรวม 2.3 พันล้านบาท และฐานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น
ทั้งนี้ ธุรกรรมดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นของแผน Asset Monetization มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ที่ PTTGC เคยประกาศไว้ และดำเนินการได้เร็วกว่ากำหนด จึงคาดว่าจะมีดีลอื่นตามมาอีก มุมมองบวกต่อหุ้น เพราะบริษัทได้กำไรพิเศษ ลดหนี้ และยังมีแผน Asset Monetization ต่อเนื่อง คงคำแนะนำ “ซื้อ”
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) PTT
- คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
- ราคา YTD 1.57%
- มาร์เก็ตแคป 921,157 ล้านบาท
- EBITDA 206,712 ล้านบาท
- P/E 12.96 เท่า
- P/BV 0.81 เท่า
- เงินปันผล YTD 6.57%
- ราคาสูงสุด/ต่ำสุดในรอบปี 34.75 / 27.00 บาท
- กำไรครึ่งปีแรก 44,848.37 ล้านบาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า บริษัทซื้อหุ้นคืน 238.66 ล้านหุ้น (0.84% ของหุ้นที่ชำระแล้ว และ 50.78% ของโครงการสูงสุด 470 ล้านหุ้น) มูลค่ารวม 7.55 พันล้านบาท หรือ 47.18% ของวงเงิน 1.6 หมื่นล้านบาท ที่ราคาเฉลี่ย 31.63 บาท/หุ้น ซึ่งการซื้อหุ้นคืนช่วยเพิ่ม ROE, EPS, DPS โดยประเมิน EPS เพิ่มราว 0.8%
ส่วนแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/68 คาดทรงตัว QoQ แม้อุปสงค์ก๊าซภาคไฟฟ้าชะลอและกำไร FX ลดลง แต่ได้แรงหนุนจากต้นทุนก๊าซลดลง, ขาดทุน Trading และสต็อกน้ำมันลดลง รวมถึงบันทึกกำไร FV จากเตรียมขายหุ้น LOTUS ไม่เกิน 2%
ขณะที่ปี 2568-2569 กำไรคาดรักษาระดับได้ดี หนุนจากโครงสร้างธุรกิจครบวงจรและกลยุทธ์ภายใน เช่น เพิ่มประสิทธิภาพ, เน้นขายในประเทศ, ใช้ Digitalization, ควบคุมค่าใช้จ่าย, หาพันธมิตรใหม่, ลดหนี้ และ Asset Monetization ที่อาจสร้างกำไรพิเศษ (Upside ยังไม่รวมในประมาณการ) และการปรับโครงสร้างต้นทุนก๊าซ Pool Gas คาดชัดเจนภายในปี 2569 ช่วยลดแรงกดดันธุรกิจโรงแยกก๊าซ
ทั้งนี้ เงินปันผลงวดครึ่งปีแรกของปี 2568 ที่ 0.90 บาท/หุ้น (Yield 2.7%) ช่วยจำกัด Downside ก่อนขึ้น XD วันที่ 1 ต.ค.2568 และคาด Dividend Yield ปี 2568 ราว 6% ส่วนปัจจัยบวกระยะกลาง–ยาว Regulatory Risk ลดลงจากราคาน้ำมัน–LNG ที่มีแนวโน้มลดลง, Asset Monetization เดินหน้า, และปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนก๊าซ ดังนั้นปรับราคาเหมาะสมสิ้นปี 2569 เป็น 37.50 บาท เดิม 35.00 บาท จากการอัพมูลค่าหุ้นลูกและหนี้สุทธิที่ลดลง คงคำแนะนำ “ซื้อ”
บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) GPSC
- วรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- ราคา YTD -0.65%
- มาร์เก็ตแคป 107,150 ล้านบาท
- EBITDA 10,938 ล้านบาท
P/E 21.74 เท่า
- P/BV 0.98 เท่า
- เงินปันผล YTD 2.37%
- ราคาสูงสุด/ต่ำสุดในรอบปี 49.25 / 22.40 บาท
- กำไรครึ่งปีแรก 3,159 ล้านบาท
บล.บัวหลวง ระบุ GPSC ได้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นในการสลับการเดินเครื่องระหว่างถ่านหินและก๊าซตามต้นทุนเชื้อเพลิง พร้อมปรับเพิ่มค่าไฟเฉลี่ยปี 2569 เป็น 3.90 บาท/หน่วย หนุนมาร์จิ้น SPP และกำไรหลักปี 2569–2570 ขึ้น 14–6% ราคาเป้าหมายปรับเป็น 44 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” เก็งกำไร
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) PTTEP
- มนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
- ราคา YTD -3.78%
- มาร์เก็ตแคป 454,563 ล้านบาท
- EBITDA 108,315 ล้านบาท
- P/E 6.86 เท่า
- P/BV 0.87 เท่า
- เงินปันผล YTD 8.41%
- ราคาสูงสุด/ต่ำสุดในรอบปี 137.50 / 93.00 บาท
- กำไรครึ่งปีแรก 30,076 ล้านบาท
บล.บียอนด์ ระบุว่า PTTEP เดินหน้าขยายการลงทุนธุรกิจสำรวจและผลิต (E&P) ครอบคลุม 4 พื้นที่หลัก ได้แก่ ไทย, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เพื่อเสริมความมั่นคงรายได้ในอนาคต โดยในประเทศเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นโครงการสินภูฮ่อมเป็น 90% หนุนยอดขายก๊าซ 5–6 แสนบาร์เรล/วัน (KBOED) และเพิ่มกำลังผลิตโครงการอาทิตย์เป็น 330 MMSCFD ตะวันออกกลางเข้าถือหุ้น 10% ในโครงการ Ghasha อยู่ระหว่างพัฒนา คาดเริ่มผลิตบางส่วนใน Daima Gas กำลังการผลิต 340 MMSCFD และ Abu Dhabi Offshore 2 ที่คาดเริ่มพัฒนาได้ภายในปี 2025 กำลังผลิตราว 180 MMSCFD
ด้านสิ่งแวดล้อมลงทุนโครงการ Carbon Capture and Storage (CCS) ที่แหล่งก๊าซอาทิตย์ สามารถกักเก็บ CO₂ ได้ 0.7–1 ล้านตัน/ปี คาดใช้เวลาพัฒนา 3 ปี
และประมาณการกำไรสุทธิ 2568–2570 อยู่ที่ 66.9 พันล้านบาท ปี 2568 ที่ 67.8 พันล้านบาท และ 68.5 พันล้านบาท ในปี 2570 โดยอิงปริมาณขายทรงตัวที่ 500 KBOED และสมมติฐานราคาน้ำมัน 65–75 USD/บาร์เรล หากราคาน้ำมันสูงกว่าคาด ยังมี Upside เพิ่มเติม คำแนะนำการลงทุน เริ่มต้นด้วย “ซื้อ” ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2569 ที่ 138 บาท (อิง EV/EBITDA 2.4x ค่าเฉลี่ย 2 ปีย้อนหลัง) มองบวกจากการขยายการผลิตต่อเนื่อง (G1/61, สินภูฮ่อม และโครงการอาทิตย์) ที่ช่วยรักษากำไรและเสริมศักยภาพการเติบโต
บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) IRPC
- เทอดเกียรติ พร้อมมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
- ราคา YTD -7.32%
- มาร์เก็ตแคป 23,295 ล้านบาท
- EBITDA 1,879 ล้านบาท
- P/E - เท่า
- P/BV 0.35 เท่า
- เงินปันผล YTD 0.88%
- ราคาสูงสุด/ต่ำสุดในรอบปี 1.79 / 0.70 บาท
- กำไรครึ่งปีแรก -3,338 ล้านบาท
บล.บัวหลวง ระบุว่า IRPC อยู่ระหว่างดำเนินการ Asset Monetization ทั้ง Core และ Non-core Assets คาดเสร็จช่วง 2H25–2026 ขณะที่ PTT กำลังเจรจากับ Strategic Partner คาดเห็นความชัดเจนปีนี้และปิดดีลปีหน้า (โดย PTT ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่) อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q25 ยังอ่อนแอ คงคำแนะนำ ขาย
บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) GGC
- กฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ
- ราคา YTD -10.00%
- มาร์เก็ตแคป 3,869 ล้านบาท
- EBITDA -89 ล้านบาท
- P/E - เท่า
- P/BV 0.43 เท่า
- เงินปันผล YTD 2.65%
- ราคาสูงสุด/ต่ำสุดในรอบปี 5.45 / 3.20 บาท
- กำไรครึ่งปีแรก -374 ล้านบาท
บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุว่า คาดผลประกอบการครึ่งปีหลังปี 2568 ของ GGC ยังคงถูกกดดันจากความต้องการไบโอดีเซลที่ต่ำและความไม่แน่นอนของการค้าโลก โดยความต้องการ ME ยังอยู่ในระดับต่ำ เว้นแต่รัฐบาลปรับเพิ่มสัดส่วนการผสม ส่วนความต้องการ FA จะชะลอลงเมื่ออุปทานเข้าสู่ภาวะปกติ ธุรกิจเอทานอลคาดผลการดำเนินงานยังอ่อนแอ แม้ต้นทุนทางการเงินลดลงและส่วนต่างราคาทรงตัว หลังผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2568 ขาดทุนสุทธิ 374 ล้านบาท เราจึงปรับลดประมาณการปี 2568 เป็น ขาดทุนสุทธิ 569 ล้านบาท โดยมาจากขาดทุนของ JV ธุรกิจเอทานอลที่ยังเกิดต่อเนื่อง
ทั้งนี้ได้ปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ลดจาก 4.50 บาท เป็น 4.20 บาท (PBV 0.5x หรือ -2SD ของ PBV เฉลี่ย 5 ปี) และคงคำแนะนำ Neutral จนกว่าจะมีปัจจัยบวกชัดเจน







