โบรกยก ‘SETWB’ ธีมอนาคต หนุน ‘มั่นคง’ พอร์ตลงทุนระยะยาว

โบรกยก ‘SETWB’ ธีมอนาคต หนุน ‘มั่นคง’ พอร์ตลงทุนระยะยาว

กูรู มองว่า ดัชนี SET Well-Being (SETWB) เป็นธีมการลงทุนแห่งอนาคตที่เหมาะสำหรับพอร์ตลงทุนระยะยาว เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Well-Being) ที่เติบโตต่อเนื่อง

KEY

POINTS

  • โบรกเกอร์มองว่าดัชนี SET Well-Being (SETWB) เป็นธีมการลงทุนแห่งอนาคตที่เหมาะสำหรับพอร์ตลงทุนระยะยาว เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Well-Being) ที่เติบโตต่อเนื่อง
  • ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญมาจากการที่ประชากรมีอายุยืนยาวขึ้น และการที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ความต้องการบริการด้านสุขภาพและการดูแลคุณภาพชีวิตเพิ่มขึ้น
  • หุ้นในกลุ่มนี้ โดยเฉพาะกลุ่มเฮลท์แคร์ จัดเป็นหุ้น Defensive Stock ที่มีความผันผวนไม่สูงและปลอดภัยในช่วงเศรษฐกิจซบเซา ทำให้พอร์ตการลงทุนมีความมั่นคง
  • การเติบโตของกลุ่มนี้เป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและยั่งยืน (Sustain Growth) เหมาะสำหรับการสะสมและถือครองในระยะยาว แม้ราคาอาจไม่เติบโตหวือหวา
  • ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมในกลุ่ม Well-Being ในอนาคต

ท่ามกลางกระแสโลกที่ผู้คนใส่ใจ “คุณภาพชีวิต” มากขึ้น ทั้งการดูแลสุขภาพ ท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ อาหารที่ดีต่อร่างกาย และบริการทางการแพทย์ที่ทันสมัย “ตลาดทุนไทย” ก็ได้หยิบประเด็นนี้มาเป็นอีกหนึ่ง “ธีมลงทุนสำคัญ” ผ่าน ดัชนี SET Well-Being Index (SETWB) ซึ่งรวบรวม 30 หุ้นเด่น จาก 7 กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับคุณภาพชีวิต สะท้อนศักยภาพการแข่งขันของไทยในเวทีโลก และโอกาสเติบโตที่โดดเด่น และถือว่าเป็นอีกหนึ่งธีมแห่งอนาคต

โบรกยก ‘SETWB’ ธีมอนาคต หนุน ‘มั่นคง’ พอร์ตลงทุนระยะยาว

“กิจพณ ไพรไพศาลกิจ” รองกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์กับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า แนวโน้มด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Well-Being) ได้รับการพูดถึงมาเป็นระยะเวลานานประมาณ 5-10 ปี และกำลังกลายเป็นเมกะเทรนด์ระยะยาวที่น่าจะดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเทคือการที่อายุเฉลี่ยของประชากรโดยรวมยาวนานมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดความต้องการและโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในระยะยาว

สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้ม Well-Being มีความหลากหลาย เช่น การเสนอขายกองทุนที่อ้างอิงกับแนวโน้มด้านสุขภาพ รวมถึงกลุ่มที่ดูแลผู้สูงอายุ เช่น โรงแรม โรงพยาบาล หรือสถานประกอบการที่ดูแลผู้สูงอายุ

อย่างไรก็ตาม การลงทุนกลุ่ม Well-Being ยังได้รับความนิยมเป็นแนวโน้มระยะยาวที่ความผันผวนอาจไม่มากหรือเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เทียบกับกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่ง ดัชนี SET Well-Being (SETWB) ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้มีการจัดดัชนีฯ ดังกล่าวสะท้อนภาพรวมของธุรกิจใน 7 หมวด ได้แก่ เกษตร พาณิชย์ แฟชั่น อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ ท่องเที่ยว และขนส่ง

หากเข้าไปดูผลดำเนินงานดัชนี SETWB อาจมีผลดำเนินงานที่ต่ำกว่าตลาดโดยรวมอาจมาจากดัชนีมีการกระจายหุ้นในหลายกลุ่มมากเกินไป ซึ่งทำให้การมองภาพรวมค่อนข้างยาก แต่ทว่าหากต้องการทำความเข้าใจเพิ่มเติม อาจต้องพิจารณาหุ้นขนาดใหญ่ 10 อันดับแรกที่อยู่ในกลุ่มดัชนี SETWB

“พิริยพล คงวาณิช” ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์พื้นฐานสายงานวิจัย บล.บัวหลวง กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มดัชนี SET Well-Being มีแนวโน้มที่ดีในระยะยาว เนื่องจากเป็นกลุ่มที่สอดคล้องกับธีมสุขภาพยั่งยืน และการมีอายุยืนถึง 100 ปีของผู้คน ดังนั้น กลุ่มดัชนีดังกล่าวจึงครอบคลุมถึงธุรกิจหลัก ๆ คือ โรงพยาบาล การท่องเที่ยว อาหารเสริม และโรงแรม

“การเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยของไทย เป็นปัจจัยสำคัญขับเคลื่อนการเติบโตกลุ่มนี้ แนวโน้มค่อนข้างชัดเจน จากปัจจุบันอัตราเกิดของประชากรอยู่ในระดับต่ำมาก และผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งจะทำให้ธุรกิจในกลุ่ม Well-Being ภายในประเทศกลับมาโตได้ดี แม้จะมีวอลุ่มของผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่การเติบโตจะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป หรืออาจจะต้องใช้เวลา”

ทั้งนี้ กลุ่ม Well-Being เป็น Growth ที่ sustain หรือการเติบโตอย่างยั่งยืน แต่การจะขยับไปสู่ระดับ High Growth นั้นถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย และจำเป็นต้องพึ่งพาปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น เช่น กลุ่มไบโอ สเต็มเซลล์ หากไม่มีการสนับสนุนจากภาครัฐด้วยแล้ว การที่จะบรรลุการเติบโตระดับสูงอาจจะเป็นเรื่องที่ยาก

อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Well-being สามารถสะสมได้ และถือได้ในระยะยาว นอกจากภาพของสังคมผู้สูงวัยในประเทศแล้ว ไทยยังมีศักยภาพที่จะเป็น Medical Hub หรือ ศูนย์กลางทางการแพทย์ เนื่องจากคุณภาพและราคามีความพร้อมสูง ดังนั้นกลุ่ม Wellbeing ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตของไทย อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนจากภาครัฐยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น

นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมกลุ่มเฮลท์แคร์ และดัชนี SET Well-Being มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องระยะยาว เนื่องจากไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ความต้องการบริการด้านสุขภาพเพิ่มสูงขึ้น และแนวโน้มเรื่องของสุขภาพที่ดี มีอายุยืน และรักสุขภาพก็เป็นเทรนด์สำคัญในปัจจุบัน

โดยกลุ่มกลุ่มเฮลท์แคร์ จัดเป็นหุ้น หุ้น Defensive Stock ซึ่งมีความน่าสนใจและปลอดภัยในช่วงที่เศรษฐกิจมีความผันผวนหรือตลาดมีความซึม แม้ว่าการเติบโตของราคาหุ้นอาจจะไม่ได้หวือหวา แต่ในภาพระยะยาวมีการเติบโตที่ชัดเจนตามกระแสสังคมผู้สูงอายุ

ทั้งนี้ รายได้ของกลุ่มเฮลท์แคร์โดยรวมมีการเติบโตประมาณ 2 เท่าของ GDP ซึ่งนโยบายรัฐบาลก็มีส่วนในการสนับสนุนธุรกิจในกลุ่มเฮลท์แคร์ นอกจากนี้ปัจจุบันกลุ่มโรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มมาเน้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Wellness มากขึ้น