ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดสูงขึ้น หุ้น Nvidia ผู้นำด้านเอไอ ฟื้นตัว

ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดสูงขึ้น หุ้น Nvidia ผู้นำด้านเอไอ ฟื้นตัว

ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดสูงขึ้นในวันจันทร์ ขณะที่หุ้น Nvidia ผู้นำด้านเอไอ ฟื้นตัวขึ้นจากการร่วงลงในสัปดาห์ก่อน ขณะที่หุ้น EA พุ่งทะยานหลังข่าวการเข้าซื้อกิจการ

 

ซีเอ็นบีซี รายงานว่าดัชนี S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ (29 ก.ย.68)  ขณะที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทกลับมาฟื้นตัวขึ้นบ้าง หลังจากสัปดาห์ที่การซื้อขายปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซบเซาลงเล็กน้อย

ดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมเพิ่มขึ้น 0.26% ปิดที่ 6,661.21 จุด และดัชนีแนสแด็ก Nasdaq Composite

เพิ่มขึ้น 0.48% ปิดที่ 22,591.15 จุด ขณะที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ปิดเพิ่มขึ้น 68.78 จุด หรือ 0.15% ที่ 46,316.07 จุด

หุ้น Nvidia บริษัทชิป AI ที่นักลงทุนชื่นชอบปรับตัวสูงขึ้นหลังจากความกังวลเกี่ยวกับการซื้อขาย AI กดดันตลาดหุ้นโดยรวมในสัปดาห์ที่แล้ว นักลงทุนบางรายถึงกับตั้งคำถามว่าจะมีพลังงานเพียงพอสำหรับแผนโครงสร้างพื้นฐานระหว่าง Nvidia และ OpenAI หรือไม่ โดย Nvidia ปิดตลาดสูงขึ้นประมาณ 2% หุ้น AI อื่นๆ เช่น Advanced Micro Devices และ Micron Technologyเพิ่มขึ้นมากกว่า 1% และมากกว่า 4% ตามลำดับ

ราคาหุ้น Electronic Arts กระโดดขึ้น 4.5% หลังบริษัทเกมชื่อดังประกาศว่าจะถูกนำออกจากตลาดหุ้น ในดีลซื้อกิจการมูลค่า 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

ตลาดการควบรวม และซื้อกิจการ (M&A) ในสหรัฐ ที่ประกาศไปแล้วมีมูลค่าทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ตามข้อมูลของธนาคาร Goldman Sachs

ความกังวลในการเติบโตของอุตสาหกรรม AI ซึ่งเป็นเสาหลักของตลาดกระทิงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งผลให้หุ้นสหรัฐ ร่วงลง โดยดัชนี S&P 500 ทำผลงานรายสัปดาห์ได้ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 ดัชนี Nasdaq ยังทำผลงานสัปดาห์ที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม และดัชนี Dow ก็ติดลบเป็นครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์

แต่เวนุ กฤษณะ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์หุ้นสหรัฐ ของธนาคาร Barclays กล่าวว่า การใช้จ่ายเงินทุนในอุตสาหกรรม AI ยังคงช่วยกระตุ้นตลาด

“สถานการณ์การลงทุนด้านทุนของ AI ไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลงเลย นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอื่นๆ ก็ได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายในโครงสร้างพื้นฐานของ AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเช่นกัน” เขากล่าวในบันทึกเมื่อวันจันทร์ 

“การกระจุกตัวอาจทำให้ต้องระมัดระวังบ้าง แต่ด้วยแรงโมเมนตัมของ AI ในฐานะจุดศูนย์กลางของการเติบโตทั่วโลก ดัชนี S&P 500 ควรจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีเมื่อเทียบกับดัชนีอื่นๆ เนื่องจากการมีสัดส่วนในกลุ่มเทคโนโลยีสูง” 

ทุกสายตากำลังจับตามองความเป็นไปได้ที่รัฐบาลกลางอาจต้องปิดทำการ เนื่องจากใกล้ถึงกำหนดส่งงบประมาณในสัปดาห์นี้ กระทรวงแรงงานกล่าวว่า จะไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมเดือนกันยายน ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์ หากไม่สามารถป้องกันการปิดทำการได้ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บอกกับเอ็นบีซีนิวส์ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า อาจมีการปลดพนักงานรัฐบาลกลางจำนวนมาก หากรัฐบาลต้องปิดทำการ

“เราจะลดจำนวนบุคลากรจำนวนมากที่...เราสามารถลดจำนวนลงได้อย่างถาวร” ประธานาธิบดีกล่าว พร้อมเสริมว่าเขา “ไม่อยากทำเช่นนั้น”

ในอดีต การปิดหน่วยงานรัฐบาลไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดมากนัก แต่ความเชื่อมั่นอาจได้รับผลกระทบหากความล่าช้าใดๆ เกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญทำให้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ คลุมเครือ

ตลาดยังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในเดือนกันยายน ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นมากกว่า 3% ในเดือนนี้ ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้นเกือบ 2% แนสแด็ก ปรับตัวขึ้นมากกว่า 5% ถือเป็นกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีที่ทำผลงานได้ดีกว่าหุ้นกลุ่มอื่น

สำหรับรายละเอียดของดีลซื้อกิจการนั้น  EA (Electronic Arts) ได้บรรลุข้อตกลงการซื้อกิจการกับกลุ่มนักลงทุนที่นำโดยกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย (PIF), Silver Lake และ Affinity Partners ซึ่งเป็นการซื้อกิจการแบบจ่ายเงินสดทั้งหมด โดยผู้ถือหุ้น EA จะได้รับเงินสด 210 ดอลลาร์ต่อหุ้น คิดเป็นพรีเมียม 25% จากราคาหุ้นก่อนประกาศดีล เมื่อดีลเสร็จสิ้น หุ้น EA จะถูกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทจะยังคงมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเรดวูด รัฐแคลิฟอร์เนีย โดย แอนดรูว์ วิลสัน  จะดำรงตำแหน่งซีอีโอต่อไป

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์